เราจะมาบอกเล่าเกี่ยวกับ “บ้านมดตะนอย” หมู่บ้านเล็กๆที่ทำประมงชายฝั่ง ในจังหวัดตรัง พวกเธออาจมีคำถามในใจว่า …ที่นี่มีอะไรเหรอ? เราจะตอบเลยว่า “ไม่มี” ที่นี่ไม่มีอะไรพิเศษ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่ถ้าพวกเธอถามหาความเรียบง่าย ความจริงใจ ความใสของชาวบ้าน คุณลุงคุณป้าคุณน้าคุณอา เด็กน้อยที่ชวนเราแหลงใต้จนรู้ตัวอีกทีก็พูดสำเนียงทองแดงกับน้องไปแล้ว หาที่สักที่ๆเราสามารถออกจากความวุ่นวายและพบเจอโลกแห่งความดี ความใส ความสงบ ที่นี่ควรค่าแก่การมาสัมผัส
สำหรับเพื่อนๆที่อยากมาเที่ยวมาสัมผัสแบบเรา สามารถมาแบบเที่ยวแบบ day trip จากตัวเมืองตรังก็ได้ ที่นี่มีภูมิประเทศที่สวยงามมากเช่นกัน ด้านหนึ่งเป็นทะเลที่วิวสวยมาก โดยเฉพาะตอนพระอาทิตย์ตกคือพีคมากกกกกกกกกก และอีกด้านหนึ่งเป็นคลองบ้านมดตะนอย พอออกเรือไปนิดหนึ่งก็จะเป็นป่าชายเลนที่สวยแปลกตา รวมทั้งที่นี่ก็มีรีสอร์ทแบบชิวๆริมทะเลให้เข้าพักผ่อนหย่อนใจเช่นกัน
และที่เราได้ไปที่ไปบ้านมดตะนอยและกลับมาเล่าให้เพื่อนๆฟังเกิดจากเราไปร่วมกิจกรรมของทาง SCG โครงการ รักษ์น้ำ จากภูผา สู่มหานที ซึ่งกิจกรรมนี้จริงแล้วไม่ได้เริ่มที่จ.ปลายน้ำอย่างตรัง แต่เขาเริ่มรักษา ดูแลน้ำตั้งแต่ต้น กลาง ปลายน้ำเรื่อยลงมาเพื่อความยั่งยืนเลยแหละ โดยที่บ้านมดตะนอย พื้นที่ปลายน้ำนี้จากเดิมที่ชาวบ้านเค้าก็ทำประมงไปใช่ป่ะ ก็ทำไปตามวิถีเดิมที่ทำกัน ตอนฤดูทะเลสงบก็จับปลาในทะเล แต่พอหน้ามรสุมเค้าก็จะจับตามชายฝั่ง ปลาเล็กปลาน้อยเกิดไม่ทันการโดนจับ เกิดปัญหาชาวบ้านขาดรายได้ในช่วงฤดูมรสุม ทีนี้เค้าก็เลยเกิดโครงการ “บ้านปลาซีเมนต์” ขึ้นมาเพื่อให้ปลาชั้นอนุบาลได้เติบโต พอมีบ้านปลาเกิดขึ้น ต้นมงต้นไม้ก็จะโตในนั้นเป็นอาหารให้ปลาน้อย พอปลาน้อยมีที่อยู่มันก็จะไม่ถูกอวน ถูกแหจับไป มันทำให้ความอุดมสมบูรณ์ของน้ำแถวนั้นดีขึ้น ชาวบ้านที่เป็นปลายน้ำก็มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความยั่งยืนขึ้น มีรายได้มากขึ้น
รอยยิ้มที่จริงใจ ความใสขนาดนี้มีได้ที่บ้านมดตะนอย
อาหารทะเลสดๆ แกงส้มใต้แท้ๆรสแซ่บ ซี้ดดดดดดดดดดด
จากตัวเมืองตรังใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีถึงบ้านมดตะนอย เพื่อนๆสามารถจิ้มพิกัดที่ google map แล้วขับรถตามได้เลย ลองไปเดินในชุมชนเจอน้องๆดู น้องนี่แบบสู้กล้องมาก นางคิดว่าจะได้ออกทีวีจ้า เล่นกล้องใหญ่ 555 น้องน่ารักมากสำเนียงทองแดงขั้นสุด พอเราคุยกับน้องไปสักพักเราพูดติดทองแดงเฉยเลยนิ ^^
นอกจากเด็กๆที่น่ารักแล้วชาวบ้านที่นี่ก็น่ารักไม่แพ้กัน ชาวบ้านเขาเล่าว่าที่นี่มีการทำธนาคารปูด้วยเหมือนกันนะ คือถ้าชาวบ้านจับปูที่มีไข่นอกกระดองมา เค้าจะไม่เอาไปขาย เค้าจะเอาไปไว้ในบ่อรอให้มันสลัดไข่ทั้งหมดก่อน แล้วธนาคารปูก็จะเอาไข่ทั้งหมดปล่อยลงทะเลไป เพื่อให้ลูกๆปูตัวเล็กตัวน้อยได้เกิดขึ้นใหม่ เพื่อความยั่งยืนให้เรามีปูเนื้อสดๆกินได้ตลอดไป เย้!
และสำหรับกิจกรรมแรกของโครงการรักษ์น้ำ จากภูผา สู่มหานทีที่พวกเราไปร่วมทำกันนั้นก็คือ การไปปลูกป่าชายเลนกัน เพื่อรักษาหน้าดินชายฝั่ง เราล่องเรือออกจากบ้านมดตะนอยไปแค่แป๊ปเดียว 15 นาทีเองมั้ง ใจจริงนี่อยากจะนั่งนานกว่านี้ด้วยซ้ำมันชิลล์ซะเหลือเกิน
วิธีการปลูกนั้นง่ายมาก ก็แค่เอาเสียบเล็กๆขุดให้เป็นหลุมแล้วเอาต้นใส่ลงไปกลบดินให้แน่นๆเป็นอันเสร็จพิธีจ้า
น้องน่ารักใสๆมากเว่อร์ เราขอน้องถ่ายรูปนางก็ยอมแต่โดยดี น่าร้าก
ปูสดๆนึ่งแล้ว กล่องอย่างใหญ่สองร้อยบาท โอ้ยยยยยยย น้ำลายไหลลล
เรามากินข้าวกลางวันกันที่ร้านอาหารของรีสอร์ทบ้านมดตะนอย โอ้โห อร่อยสุดไรสุดอะ โดยเฉพาะพวกอาหารทะเล สดจริงไรจริง (ก็มาถึงหมู่บ้านประมง ไม่สดก็แปลกสิฟะ! )
ส่วนตอนบ่ายเราก็ทำกิจกรรมหล่อบ้านปลากัน โดยบ้านปลาซีเมนต์นี่ก็ไม่ได้ทำมามั่วๆเน้อ เค้าผ่านการคิดค้นจาก Lab SCG ร่วมกับชาวบ้านมดตะนอยในการออกแบบบ้านปลารูปทรงต่างๆให้เหมาะสมกับพื้นที่ และยังมีทำเป็น 3D printing ด้วย และยังใช้นวัตกรรมปูนที่ทนต่อน้ำทะเลที่ไม่ทำลายหรือรบกวนระบบนิเวศเพราะส่วนผสมก็มาจากธรรมชาตินั่นแหละ ปูน หิน ทราย น้ำ ส่วนเราเหรอมีหน้าที่ลงแรงร่วมกับน้องๆช่วยกันผสมปูนตักปูนมาหล่อลงบล็อก สร้างบ้านหลังใหม่ให้กับปลาตัวน้อยๆ
พอพวกเราหล่อเสร็จแล้วก็ได้เวลาใช้งานจริง ออกเรือกันอีกรอบเพื่อนำบ้านปลาซีเมนต์ไปทิ้งลงคลองบ้านมดตะนอย แต่ไม่ใช่ว่าจะปล่อยบ้านปลาที่ไหนก็ได้นะ เค้าต้องศึกษาความลึกและเลือกจุดที่เหมาะสมก่อน เพื่อให้ไม่เกิดอันตรายต่อระบบนิเวศและเรือที่สัญจร ส่วนบรรยากาศระหว่างทางนั้นดีมากจริงๆ เราว่าฟิลล์เหมือนแบบไปล่องเรือที่ฮาลองเบย์เลยเบอร์นั้น เหมือนจะร้อนแต่ไม่เลย ลมพัดแรงมาก ชิลล์สุดไรสุด
พอกลับมาก็เจอกับชาวบ้านที่เลี้ยงขอบคุณพวกเราด้วยขนมไทยสูตรเด็ดของพวกเค้า เช่น ขนมกล้วย ขนมต้ม น้ำกระเจี้ยบ ชื่นใจหลายยยยยยยยยยยย
สำหรับเราบ้านมดตะนอย คงถือว่าเป็น hidden gem ที่แท้ทรูของเมืองตรังเลยล่ะ เราชอบความใสความจริงใจของที่นี่ ชิวว่าการที่เราได้มาเจอกับคนดีๆ เหมือนเราได้ detox ชีวิตปรับเปลี่ยน mind set ของเราสักใหม่ โลกสดใสขึ้นเป็นกอง และการได้มาร่วมโครงการรักษ์น้ำ จากภูผา สู่มหานทีเราได้เรียนรู้ความสำคัญของน้ำ ป่า ธรรมชาติ ว่าทุกอย่างเกี่ยวข้องและส่งผลถึงกันหมด มันสำคัญมากจริงๆที่ต้องส่งเสริมให้ทุกๆคนเข้าใจและช่วยกันรักษาธรรมชาติให้สมบูรณ์ตลอดไปถึงลูกหลาน