ในยุคที่ผู้หญิงเริ่มออกเดินทางคนเดียวกันมากขึ้น สาวๆอย่างเราต้องมีข้อควรรู้และเตรียมตัวกันอย่างไรบ้าง เพื่อความปลอดภัย ในระหว่างการเดินทาง เรามีคำแนะนำมาฝากค่ะ
01 บอกแผนการเดินทางแบบละเอียดกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท หลังจากออกเดินทางแล้ว พยายามติดต่อส่งข่าวเป็นระยะๆ เท่าที่จะทำได้ ว่าตอนนี้เดินทางอยู่ที่เมืองไหน พักที่ไหนบ้างค่ะ
02 ไม่พาตัวเองไปในที่เสี่ยง เช่นที่เปลี่ยวในเวลากลางคืน และรวมถึงการเดินทางในตอนกลางคืนถ้าหลีกเลี่ยงได้ อย่างเช่นทริปจีนล่าสุดที่ผ่านมา เรามีแผนเดินทางไปต้าหลี่จากลี่เจียงโดยรถไฟซึ่งก็ยังทันรอบสุดท้าย แต่จะไปถึงต้าหลี่ก็เกือบเที่ยงคืน คิดว่าอาจจะไม่ปลอดภัยนัก ก็เลยตัดสินใจค้างที่ลี่เจียงอีกคืนแล้วค่อยหาบัสไปต้าหลี่ในเช้าวันถัดมา ดูจะปลอดภัยกว่าเพราะเป็นตอนกลางวันค่ะ
03 ไม่รับอาหารหรือเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้า หรือถ้ากลัวเสียน้ำใจก็รับไว้ แต่ไม่ต้องทานก็ได้ค่ะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าสะอาดแค่ไหน ผสมสารอะไรมาบ้างรึเปล่า ข้อนี้เราโดนสอนกันมาตั้งแต่เด็กแล้วเนาะ ^^
04 พกนกหวีดหรืออุปกรณ์ที่ใช้เป็นอาวุธได้ ในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิดเช่น หลงทาง เกิดอุบัติเหตุ เราสามารถเป่านกหวีดเพื่อขอความช่วยเหลือ ส่วนอุปกรณ์บางอย่างที่พกติดตัวระหว่างเดินทาง เช่นขาตั้งกล้องก็อาจจะใช้เป็นอาวุธได้เมื่อถึงคราวจำเป็นค่ะ
05 ไม่ดื่มแอลกอฮอร์จนเมาขาดสติ อาจมีบ้างแต่ต้องรู้ลิมิตตัวเอง อย่าให้เกินเลยจนขาดสติควบคุมตัวเองไม่ได้ ถึงขนาดพาตัวเองกลับที่พักไม่ไหว แบบนี้ไม่ปลอดภัยแน่นอนค่ะ
06 ถ่ายเอกสารที่สำคัญเก็บไว้อีกชุด เช่นพาสปอร์ต วีซ่า ตั๋วเครื่องบิน ใบจองที่พัก เก็บแยกไว้กับตัวจริง เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินตัวจริงหายไป ก็ยังมีสำเนาไว้ยืนยัน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ในมือถือก็ได้ค่ะ
07 แบ่งเงินไว้เป็นสองส่วนแยกเก็บไว้ เผื่อว่าเกิดเหตุเงินบางส่วนหายไป อาจเพราะโดนล้วงหรือทำหายเอง ก็ยังพอเหลืออีกส่วนไว้ฉุกเฉิน อีกอย่างถ้านอนโฮสเทลห้องที่ต้องแชร์กันหลายคน บางที่จะมีล๊อกเกอร์ให้สามารถเอาของมีค่าเก็บในนั้นได้ แต่ถ้าไม่มี แล้วเวลาที่เราต้องไปอาบน้ำหรือทำธุระข้างนอกก็ให้พกของมีค่าติดตัวไปด้วยเสมอ ไม่ทิ้งไว้ในห้องนะคะ
08 เตรียมข้อมูลที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของสถานฑูตไทยในประเทศที่เดินทางไป เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพาสปอร์ตหาย ภัยธรรมชาติ หรือการก่อการร้ายต่างๆ สถานฑูตจะให้ความช่วยเหลือเราได้ค่ะ
หรือถ้าสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานีตำรวจท้องที่ ที่เราเดินทางไว้ด้วยก็จะดีมากเลย
09 ผูกมิตรกับนักเดินทางด้วยกัน ที่เจอกันตามโฮสเทล หรือระหว่างการเดินทาง การสร้างมิตรภาพดีๆกับเพื่อนใหม่ นอกจากจะทำให้เราไม่เหงาแล้วยังมีเพื่อนเดินทางไปด้วยกัน ช่วยเหลือกันได้ อย่างในระหว่างทริปจีนเราได้เพื่อนใหม่คนจีนที่คอยช่วยเหลือมากมาย ทั้งให้ขึ้นรถไปด้วยกัน เดินเขาเป็นเพื่อนกัน แบ่งขนมกัน ช่วยซื้อตั๋ว ช่วยแนะนำเรื่องต่างๆ ได้ดีทีเดียวค่ะ
10 ระวังสิ่งของมีค่าในกระเป๋า ถ้าอยู่ในสถานที่คนพลุกพล่าน เช่นในเมืองใหญ่ สถานีรถไฟใต้ดิน ถ้าเป็นกระเป๋าเป้ก็เอามาสะพายไว้ด้านหน้า กล้อง มือถือ ถ้ายังไม่จำเป็นต้องใช้ก็ไม่ต้องเอาออกมาถือ เก็บใส่กระเป๋าไว้ก่อนค่ะ
11 แต่งกายให้เหมาะสม ไม่ล่อแหลม และถูกกาลเทศะกับสถานที่ๆ เราเดินทางไป มีประสบการณ์ของเพื่อนที่ใส่ขาสั้นไปวิ่งจ๊อกกิ้งตอนเช้าที่ทะเลสาบเมืองย่างกุ้ง ประเทศพม่า ถูกมองเป็นเป้าสายตาจากคนทั้งเมือง จนต้องรีบหาโสร่งมานุ่งแทน ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นเรื่องธรรมดาของประเทศเรา แต่อาจจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสมในบางประเทศค่ะ
หรือถ้าไปเมืองหนาว อุปกรณ์กันหนาวต้องเตรียมไปให้เพียงพอร่างกายอบอุ่น ตอนที่เราไปภูเขาไฟโบรโม่ อินโดนีเซีย อากาศจะหนาวมากช่วงเช้ามืดและตอนพระอาทิตย์ตกดิน แต่เตรียมแค่แจ๊คเก็ตยีนส์ตัวเดียวไม่อยากแบกเสื้อโค้ชไป เพราะคิดว่าพอสายๆ หน่อยอากาศก็จะร้อนแล้ว ปรากฏว่าช่วงที่ต้องตื่นเดินทางออกจากที่พักมารอพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตี 3 – 6 โมงเช้า หนาวทรมานมากจนแทบยกกล้องถ่ายรูปไม่ไหว ยังดีที่ไม่ถึงกับป่วยค่ะ
12 เช็คลิสต์เตรียมของใช้และยาประจำตัว ที่จำเป็นให้ครบก่อนการเดินทาง อย่างเช่นพวกผ้าอนามัย ทิชชู่เปียก ยาแก้เมารถ แก้แพ้ความสูง แก้ไข้ แก้แพ้ แก้ท้องเสีย ฯลฯ
มีข้อแนะนำอีกอย่างคือยาที่เตรียมไป ให้มีฉลากยาเป็นภาษาอังกฤษหรือถ้าเป็นเม็ดใส่ซองมาก็ให้เภสัชกรช่วยเขียนเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วย และตรวจสอบว่าไม่เข้าข่ายเป็นยาต้องห้ามสำหรับประเทศที่จะเดินทางไปนะคะ
13 เตรียมข้อมูลชื่ออาหารหรือยาที่แพ้เป็นภาษาของประเทศที่เดินทางไปด้วย เพราะถ้าสื่อสารกันไม่เข้าใจ แล้วทานอาหารหรือยาที่เราแพ้เข้าไป คงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ เลย
14 ศึกษาข้อมูลของประเทศที่เราจะไป เกี่ยวกับการเตือนภัยเรื่องต่างๆ อย่างเช่นที่โฮจิมินห์ เวียดนามใต้ มีการตั้งกระทู้เตือนกันมาเยอะเกี่ยวกับเรื่องระวังกล้องถ่ายรูปหรือมือถือ ในระหว่างเดินถนน การโดนโก่งราคาเวลานั่งรถซิโคล่ หรือที่ลาวใต้ ด่านช่องเม็กเข้าไปปากเซ มีคนไทยมากมายที่ต้องโดนเสียค่าปรับหลายหมื่น เพราะไม่ได้ประทับตราพาสปอร์ตเข้าด่านลาว เนื่องจากตรงบริเวณนั้นสามารถเดินเข้าประเทศลาวได้โดยไม่มีที่กั้นเหมือนประเทศอื่นๆ
การเตรียมตัวไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะผู้หญิงเดินทางคนเดียว อาจจะเป็นเป้าหมายของคนที่ไม่หวังดีและหากมีอะไรฉุกเฉินเฉพาะหน้า การช่วยเหลือตัวเองได้ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่น จะทันท่วงทีมากกว่า สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการมีสติ รู้สึกตัวว่ากำลังทำอะไร สังเกตุสถานการณ์รอบข้าง แต่ก็ไม่ถึงกับต้องหวาดระแวงจนทำให้การเดินทางดูเครียดจนเกินไปนะคะ
ติดตามข้อมูล รีวิวการเดินทาง พูดคุยกับผู้เขียนได้ที่…
Fanpage : https://www.facebook.com/Mytravelholicdiary/
Instagram : https://www.instagram.com/my_travelholic_diary/