Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

เมือง Hakodate เมืองท่าบรรยากาศดี้ดี ถ่ายรูปเก๋ อาหารอร่อย ต้องห้ามพลาด!

แฟนเดย์แฟนกันแค่วันเดียว โว๊ะ!หนังอะไรเวอร์วังไร้สาระแต่ก็ตามรอย ใช่แกเราจะยอมรับสารภาพว่าเราไม่อินกับหนังที่อะไร นางเอกจะความจำเสื่อม พระเอกเนิร์ดๆแต่สุดท้ายตัวเองกลับอินจนน้ำตาแตก ภาพตัดมาอีกทีเรากำลังนั่งเครื่องบินจากไทยไปลง Hakodate เมืองที่พระเอกนางเอกจูงมือกันเที่ยวแบบอินเลิฟ ฉากหลังเป็นตึกอิฐสีแดงสวยๆ กินไอติมกันคูลคูล 555

P1290145

จากกรุงเทพเราบิน Japan airline สายการบินฟิลลิ่งทรูลี่ญี่ปุ่นจากกรุงเทพมาต่อเครื่องที่โตเกียวปลายทางสนามบิน Hakodate (ฮาโกดาเตะ) ก่อนเครื่องบินจะลงคือวิวสวยมากกกกก แต่ในความสวยงามดันพลาด! ได้นั่งที่ไม่ติดหน้าต่างจ้า นั่งมองวิวเมืองตาละห้อยไป ถ่ายรูปไม่ได้เว้ยแก – -“

พอลงเครื่องก็แบบเอาเสื้อคลุมมาใส่คือภาพฮอกไกโดมันต้องหนาว ก็เดินเท่ๆออกไปนอกอาคารเลยจ้า ถอดเสื้อออกแทบไม่ทัน!!  ชิว!เมิงมาหน้าร้อนนนน

จุดแรกที่เราจะพาไปรู้จักคือฟาร์มนมฮอกไกโด เคยชิมกันใช่ป่ะที่ชอบมาแจกให้ชิมตามห้าง นมบ้าอะไรวะอร่อยชิบหา…. เราต้องมาชิมต้นตำรับที่แหล่งผลิตกันเลย ชื่อ Hakodate Milk Aisu 118  พอชิมแล้วช็อคมากกก เพราะมันคือ “นม” ก็นมอะเว้ย นมธรรมดาสามัญอะแต่ที่ดีกว่าคือมันหอมมันลื่นคอกว่านมไทย ขอให้ลืมภาพหวานข้นเข้มมันแบบนมฮอกไกโดที่มันขายในไทยไปได้เลยนะ อันนั้นมันปรุงรสมาแล้ว ตึ่งงง

จิบนมมือซ้าย ถือซอร์ฟครีมมือขวาอิ่มอ้วนแล้วไปสร้างแลนด์มาร์คกันที่ตึกแดง Hakodate bay area แปลไทยว่าพื้นที่ริมอ่าว ตรงนี้คือสวยมากกกก สวยมากดีต่อใจมากจริงจัง  ภาพที่เราเห็นทางซ้ายจะเป็นอาคารสีแดง  ด้านขวาเป็นอ่าว บรรยากาศน่ารักคาวาอี่สไตล์ญี่ปุ่น

จะญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องไปให้สุดแนะนำเช่าชุดเพิ่มความญี่ปุ่นไปอีกได้เลยจ้ะ เดินไปชั้นสองอาคารแดงนั่นล่ะมีชุดหลายแบบหลายสไตล์ให้เลือก ทั้งหญิงทั้งชาย พวกเธอจะชายแต่งหญิง หรือจะเป็นหญิงแต่ชายก็ไม่ได้ผิดอะไรนะ อิอิ   ค่าเช่า 3000 เยนเค้าแต่งตัวให้เสร็จสรรพ ขอบอกไว้นิดว่าอย่าพยามลองใส่เอง มันไม่รอด 555 โอ้ยมันซับซ้อนหลายทบมากแก

มื้อกลางวันเราไปกินข้าวอบแถวนั้นแหละ ข้าวอบสไตล์ญี่ปุ่นก็จะเป็นการเอาข้าวไปหุงอบพร้อมกับน้ำซุป โป๊ะหน้าด้วยเครื่องซีฟู้ดสดๆจากทะเล  Hakodate ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสดอร่อยอยู่แล้ว รวมกันเป็นความอร่อยที่แท้ทรูคือดีต่อใจมากกกกก ราคาก็ไม่แพงด้วยนะ

นั่งรถต่อไป อาคาร Goryokaku Tower ชมวิวเมืองและมองเห็นสวนห้าแฉก (Goryokaku Park) ด้านข้าง พอเข้าไปก็ต้องสตั้นเลยประทับใจมาก วิวเหรอ??? ป๊าววแกพนักงานขายน่ารักคาวาอี้มากกก เหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูนเลย ชุดเชิ้ดนี่ใช่มาก เอาๆลืมเรื่องนั้นก่อนซื้อตั๋วขึ้นไปด้านบนกัน  บรรยากาศก็จะเห็นวิวประมาณนี้นะ มองได้ไกลสุดลูกหูลูกตาตามภาพเลย

กดลิฟท์ลงมาชั้น 2 จะเป็นชั้นคาเฟ่ มองแล้วว่าใช่ต้องใช่แน่ๆ  ไอติมร้านนี้ต้องดีแต่นอน จัดมาชิมจ้ะ 1ถ้วย 3 สกุ๊ป ดีต่อใจตามที่คิดไว้เลย เนื้อเนียนนุ่มหอมรสชัดเจน เธออย่าพลาดไปกินนะร้านนี้ Milkissimo

กลับเข้าเมืองไปห้างใหม่ชื่อ SHARE A STAR เราได้ยินมาว่าห้างนี้มี MUJI เยอะมากๆ มีประมาณ 3 ชั้นอะที่เป็นของ MUJI ทั้งหมดเลยคือเราว่าห้างนี้น่าจะชื่อ ห้าง MUJI ไปเลยน่าจะตรงกว่าป่ะวะ  แต่คือมันดีมากนะ จะสาวกมูจิหรือไม่ใช่ก็แล้วแต่เราว่าต้องเดินเพลินแน่นอน เราชอบมากเลยที่นี่

นั่งรถรางกลับห้องพักที่อยากอวดมากแก คือมันดีสุดในสามโลก! ตามเรามาเลยจะเม้าส์มอยให้ฟัง ที่พักเราชื่อ Yunokawa Onsen Hotel Banso นะเป็นโรงแรมแหละแต่ห้องพักและบรรยากาศภายในตบแต่งแบบ Ryokan แนวบ้านพักสไตล์ญี่ปุ่นโบราณอะ

มาดูห้องหับบ้านสไตล์ญี่ปุ่นเค้าก็จะไม้ๆทำนองนี้ ถ้าเธอเคยอินกับมูจิเราว่าเค้าคงได้แนวคิดมาจากญี่ปุ่นแท้ๆนั่นแหละ มันก็จะไม้ๆขาวๆคลีนๆหน่อย ส่วนห้องพักและออนเซ็นก็ดีงามสมราคาเลยนะ แต่ที่พีคกว่าที่ประทับใจจนอวยเบอร์นี้คือ “อาหาร”

วิวระเบียงห้องก็จะประมาณนี้น้า

อาหารเย็นแบบบุฟเฟ่ต์ ที่พีคมากคือมันพรีเมี่ยมมากๆๆ มีขาปูสดๆแน่นๆกินไม่อั้น มีทูน่าเกรดดีให้กิน มีของดีๆให้กินเยอะมากอะ ดีต่อใจต่อพุงเหลือหลายมากกกก

ค่ำๆเราไปแช่ออนเซ็นแล้วเข้านอนอิ่มๆอุ่นๆ เมื่อคืนนอนบนเครื่องก็อดนอนนิดหนึ่ง แต่ปรากฎว่าเราตื่นมาตอนตี 4 สะงั้น คืองงมาก ร่างกายคงบอกว่าเมิงตื่นเหอะกรูกำลังสับสบกับเวลา (คือเราไปกรีซมา และมาญี่ปุ่นต่อ time zone ห่างกัน 6 ชม. )  ตื่นเร็วก็เลยได้ลงไปกินอาหารเช้าเร็ว แล้วก็ต้องปลื้มฟินไปรอบสองจ้ะ เพราะดีงามไม่น้อยหน้าอาหารเย็นเลย  โดยเฉพาะมีข้าวอบหน้าปลาแซลม่อนและไข่ปลาให้กินไม่อั้น โอ้ยเราจำได้ว่าเราโซ้ยไปสัก 3 ถ้วยได้อะคือฟินขั้นสุดจริงๆนะ

นอนน้อยแต่ไม่ง่วงเลยเราเดินต่อไปที่ตลาดเช้าเมือง Hakodate อยู่ใกล้ๆกับสถานีเป็นตลาดเช้าตลาดปลาที่ดีงามมากกกกก มันมีบรรยากาศตลาดสดจริงๆๆอะ เธอจะเห็นปลาตัวใหญ่เท่าหัว เห็นปูตัวใหญ่เท่าตัว ใหญ่แบบนี่มันคือสัปปะหลาดจากโลกอนาคตหรือเปล่า ลองดูที่เราเทียบกับมือดูดิ แบบปูตัวเดียวอิ่มทั้งหมู่บ้านอะ

เออถ้าเดินๆแล้วหิวก็มาหาข้าวกินได้ที่ตลาดนี่นะจะมีร้านข้าวอบหน้าซีฟู้ดอยู่ พวกข้าวหน้าปลาดิบอะไรเงี้ยก็มี เชิญเลย

ออกไปสูดอากาศนอกเมืองกันนิดที่ Onuma Quasi-National Park ไปนั่งเรือเที่ยวชมทะเลสาบ และ ปั่นจักรยานชิวๆกัน โดยเราเริ่มต้นที่การนั่งเรือก่อน เรือจะล่องไปในทะเลสาบให้เราชมวิวไปเรื่อยๆก็ชิวๆดี ดีแบบเพลินมากเพลินจนหลับ!! โอ้ยอาการตื่นนอนตี 4 พอเจอลมเย็นๆบรรยากาศเอื่อยๆตาก็ปิดไปอีก แต่เราไม่ซีนะไม่ต้องถ่ายภาพมากก็ได้ใช่ป่ะ เราสุขกับการงีบฟังเสียงน้ำและลมเย็นๆชิวๆก็พอแล้ว

“ชิวชิว ตื่นได้แล้วเรือจอดแล้ว” เพื่อนปลุกว่าเราตื่นได้ละ ไปเช่าจักรยานปั่นเล่นกัน ที่เช่าอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ JR มีให้เลือกหลายแบบหลายสีไปปั่นเที่ยวเพลินๆได้เลยนะ สบายมาก

ปั่นเสร็จแล้วกลับไปที่สถานี JR Hakodate-Hokuto Station อันหลักเราไปติดต่อเรื่อง JR East-South Hokkaido Rail Pass ตัวพาสประเอกของเราในทริปนี้ เป็นพาสที่ขึ้นรถไฟ JR ได้แบบไม่อั้นชิงคังเซ็นอะไรก็ใช้ได้ ระยะเวลาพาส 6 วัน ไม่จำเป็นต้องติดกันนะ เธอจะใช้วันไหนก็ค่อยระบุวันตอนจะใช้ สะดวกมากและคุ้มมากๆเลย  ราคา 27,000 เยน

ถ้าหิวหรือจะซื้อของฝากก็เดินไปอาคารข้างๆนะมีของฝากเพียบ แต่ที่ชิวแนะนำเลยคือซอร์ฟครีมยี่ห้อ ISHIYA แบรนด์เดียวกับที่ทำ บิสกิสไวท์ช็อคที่โด่งดังไปทั่วโลกนั่นแหละ คืออร่อยแบบดีต่อใจมากกกกกก

ไปต่อที่จุดชมวิวที่เป็นแค่เป็นเนิน เป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านรวงน่ารักมากมาย อยู่ใกล้ๆกับ Old British Consulate of Hakodate นะเราไปเยี่ยมแวะชมที่สถานทูตเก่านี้ก่อนแป๊ปหนึ่ง จะบรรยากาศเก่าๆและมีสวนดอกกุหลาบเล็กให้ได้ชื่นชมก่อน เดินลัดขึ้นไปด้านบนเป็น ถนนชมวิว งามงดมากก ดูตามภาพเลยจ้า

P1290145

ค่ำนี้เราพักโรงแรมใกล้สถานีชื่อ Hotel Resol เป็น Business hotel ธรรมดาแหละติดกันเป็นร้านอาหารดังชื่อ Ikasei อาหารทะเลอีกแล้ว แต่อร่อยดีต่อใจเหมือนเดิมของดีเมืองเค้าอะนะ อาหารทะเลสดๆปรุงนิดๆเบาๆก็อร่อยสุดๆแล้ว ปลาหมึกนี่มาสดๆกระดิบๆเลยแก แอบหยองนิดหนึ่งแต่อร่อยมากมาย

อิ่มแล้วไปที่พีคที่ไฮไลต์ที่ทุกคนต้องมาคือจุดชมวิวชมวิวเมือง Hakodate บนเขา ซึ่งมันก็จะมีวิธีการไป 2 แบบคือ 1 ไปแบบนั่งกระเช้า และอีกแบบคือนั่งรถบัสไป โดยปกติแล้วอะแบบกระเช้าคนจะเยอะมาก คนพาเราไปเค้าเลยแนะนำให้ไปทางรถบัสแทน(อยู่ตรงป้ายรถบัสหน้าสถานีรถไฟ) ใช้ระยะเวลานั่งประมาณ 45 นาทีก็จะขึ้นมาถึงยอดเลย วิวดีมาก แต่ที่มากกว่าวิวนั้นคือคนเว้ย คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกก ก.ไก่ไปล้านตัวเลยจ้ะ ดังนั้นเราขอเตือนไว้ก่อนว่ามันสวยจริงแต่คนก็เยอะจริงเช่นกัน 555

ได้ความพีคทุกสิ่งอย่างครบแล้ว ชิวก็ขอจบรีวิวเมือง Hakodate ไว้เท่านี้นะ เมืองตอนใต้ของเกาะ Hokkaido ที่มีดีที่อาหารทะเลสดเวอร์ระดับกระดิบๆบนจาน ความอร่อยนุ่มชุ่มลิ้นของทุกสิ่งอย่าง สาวกปลาดิบ สาวกปลาหมึก สาวกอาหารทะเล เรารับรองว่าแกต้องชอบเมืองนี้เหมือนเราแน่ๆ  ชิวได้มาเที่ยวเมืองนี้ 2 วันเต็มพรุ่งนี้เราจะใช้ JR East-South Hokkaido Rail Pass นั่นรถไฟชิงคังเซ็นไปต่อที่เมืองสวยๆอีกเมืองชื่อ Aomori ติดตามต่อบล็อกหน้า  >>  รีวิว Aomori – เมืองดีธรรมชาติดัง หอยเชลล์สุดปังและแอปเปิ้ลเกรด A

Exit mobile version