Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

รีวิวเชียงรายในสายหมอก บ้านปางขอน ดอยผาหมี และคาเฟ่ สไตล์ไม่เที่ยววัด

เชียงรายในสายหมอก เป็นทริปที่ไม่ได้แพลนอะไรทั้งสิ้นแต่ออกมาดีเหลือเกิน!  เราได้รับเชิญไปบรรยายให้น้องที่คณะท่องเที่ยว ม.แม่ฟ้าหลวงฟัง พอเสร็จแล้วก็เลยอยู่เที่ยวต่ออีก3วัน บังเอิญเราหารถเช่าไม่ได้เพราะมัวแต่ช้า แต่โชคดีมากๆอาจารย์เลยชวนไปออกค่ายพัฒนาที่เที่ยว “บ้านปางขอน” หมู่บ้านปลูกกาแฟที่กำลังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีกาแฟ จากทริปหงอยๆเที่ยวคนเดียวมันก็เลยเป็นความสนุกไปกับน้องๆและพี่ๆชาวบ้าน เราอยากให้มารู้จักเชียงรายในแบบที่พวกคุณอาจไม่คุ้นกับเรา

::

Capture by : SONY A6300 , Len 16-50 และ Fix 35 F1.8

chiangrai_00002

 

เริ่มต้นที่หมู่บ้านปางขอน หมู่บ้านที่พูดไปให้ใครฟังก็ต้องร้อง ห้ะ!มันอยู่ตรงไหนบนโลกเหรอแกรรร หมู่บ้านนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงราย 38 กิโล ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง ถือว่าใกล้มาก เป็นหมู่บ้านปลูกกาแฟชั้นดี อากาศเย็นตลอดปี

หมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสาวเขาเผ่าอาข่า วิธีการต้อนรับแขกเค้าคือเอาไข่ต้มย้อมสีแดงร้อยด้วยไหมพรหมให้เป็นสร้อยนำมาคล้องคอแขกผู้มาเยือน ไม่รู้พี่เค้าอำเราป่าว เค้าบอกว่าถ้าไข่ที่ห้อยไว้แตกจะต้องเป็นเขยที่บ้านนี้ อิอิ

ถ่ายภาพเป็นที่ระทึกไว้หน่อยนาจา

ตอนนี้บ้านปางขอนก็โมเดิร์นละกลายเป็นหมู่บ้านปลูกกาแฟชั้นเลิศของไทยไปแล้ว อะไรๆก็เป็นกาแฟไปหม๊ด เริ่มจากชิมชาดอกกาแฟก่อน อากาศหนาวๆ ชาร้อนๆ ดีต่อใจจจจ

เปลี่ยนรองเท้าใส่แบบบูทโดดขึ้นรถกะบะ เราจะเข้าไปลุยสวนเก็บกาแฟ ชมวิถีกาแฟกันฮะวันนี้ เส้นทางบอกเลยว่า “โหดดดดด”

ขับรถมาได้ครึ่งทางหมดถนนปูน วันนี้ฝนตกพรำๆต้องใช้ตัวช่วยพี่คนขับเอาโซ่มาใส่ล้อเพิ่ม ทางยังลุยได้อี้กกกกกกกกกกกกกกก

ผ่านทางกระโดกกระเดกกระเด้งกระดอนมาจนถึงไร่กาแฟแล้วจ้า! ใส่เสื้อกันฝน หยิบตะกร้าเก็บกาแฟมาให้พร้อมแล้วออกไปเก็บกาแฟกันนน

พี่ๆบ้านปางขอนสาธิตวิธีเก็บให้ดูพร้อมอธิบายให้ฟังว่า ง่ายๆเลยแค่เก็บปกติแต่เราจะเลือกเฉพาะลูกที่เป็นสีแดง คือเฉพาะลูกที่สุกเต็มที่แล้วเท่านั้น เพื่อรสชาติที่ดีที่สุดนั่นเอง

จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาใช้แรงงานไปจ้า พี่เค้าพาเรามาชมสวนหรือหลอกมาใช้แรงงานตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจ 555 พี่เกดคนสวย วิทยากรของเราวันนี้จ้า

อันนี้คือใบกาแฟ ให้เก็บใบอ่อนที่ขนาดใหญ่ประมาณฝ่ามือไปด้วย พี่เกดบอกว่าจะเอาไปห่อหมูทอด ใครไม่เก็บอดกิน ….. ผมนี่รีบเก็บใบรัวๆ

เอ้าเก็บกันเพลินๆเก็บบ้างถ่ายรูปบ้างสัก 30 นาทีก็ได้เยอะพอสมควรก็กลับกัน

ระหว่างทางเดินกลับเจอผลไม้ เจอดอกไม้ เจออะไรก็เด็ดกินไปเรื่อยเปื่อย โดยเฉพาะลูกม่อน โอ้โหหหห เด็ดสดๆจากต้นมันอร่อยจริงจัง อร่อยกว่าที่เค้าเอามาขายล้านเท่า

และนี่คือแตกกวาป่า พี่เกดบอกว่าอร่อยกว่าแตงกวาทั่วๆไปด้วย

และนั่งกะบะหัวขโยกกลับมาที่กะท่อมกลางทางอีกรอบเราจะมาแวะทานข้าวกลางวันกันตรงนี้นั่นเอง อาหารบอกเลยว่าอาจไม่เลิศหรูแบบภัตราคาร แต่รสชาตินี้สุดดดดดดดดดด มันอร่อยตรงความสดของผัก เป็นผัดยอดฟักแม้วที่อร่อยที่สุดในโลกล้า มันสดมันกรอบมันหวาน

อิ่มคาวแล้วต่อกาแฟ ดริปกาแฟกินกันสดๆในสวนเลยจ้า เริ่มจากกระบวนการบดเม็ดสดๆเพื่อความหอมกรุ่น เติมน้ำร้อนลงไปแบบละเมียด

และ..ชิม  โอ้ววววฟินนนนนนนนนนนน กาแฟปางขอนโคตรดี เป็นกาแฟอาราปิก้าเกรดบนๆของประเทศเราเลย เพราะที่นี่ตรงสูงๆนี่สูงถึง 1800 จากระดับน้ำทะเลเลย (ยิ่งสูงยิ่งคุณภาพดี)

ถ่ายกะน้องมูเซอ น้องจากมหาลัยแม่ฟ้าหลวงที่มาด้วยกันน้องเป็น lifestyle blogger ด้วย นางแซ่บ

นี่คือกระท่อมกลางสวนที่บอก บ้านๆแต่มีความสุขที่สุด

ระหว่างทางกลับชิวบอกพี่เค้าว่าให้ช่วยแวะตรงต้นบ๊วยให้หน่อย กำลังบานเต็มต้นเลย สวยมากๆจนอดใจไม่ไหวววว สวยมากๆ

จุดต่อไปคือลานเฮลิปคอปเตอร์ พี่ๆปางขอนบอกเป็นจุดชมวิวที่สวยมากๆ สามารถมองเห็นทะเลหมอก หรือถ้าไม่มีหมอกก็จะเป็นวิวมุม top ของเชียงราย แต่วันนี้จ้าหมอกจัดมากกกกก หมอกจัดจนมองไรไม่เห็นเลย ขอถ่าย group shot กับน้องๆกลุ่ม ฮักเม่า around the world แทนดีกว่า

กลับมาถึงหมู่บ้านเราไปดูกรรมวิถีผลิตกาแฟกัน พอได้กาแฟมาเค้าก็จะเอามาลอยน้ำนะเพื่อคัดคุณภาพ ผลไหนที่ไม่ลอยก็จะจม เฮ้ย! ผลไหนที่ลอยนั่นคือผลที่ไม่สมบูรณ์นั่นเองถูกคัดทิ้งไปจ้า

พอคัดเสร็จเค้าก็จะผ่านกรรมวิธีสี ล้าง แช่ ตาก หลายสิ่งอัน จนถึงการเก็บขั้นต่ำ 6 เดือนเป็นต้นไป

พอได้แล้วก็จะมาเอามาคั่ว จนได้เป็นกาแฟหอมกรุ่นที่เรากินกันทุกวันนี่แหละครับ

 

ดูทุกสิ่งแล้วก็ได้เวลากลับมาแวะดูที่พักแบบกระท่อมเราหน่อย กระท่อมแบบชาวบ้านๆเลยธรรมชาติมาก นอนสบายอยู่ไม่ลำบาก มีห้องน้ำใกล้ๆ มีน้ำร้อนที่ตอนเราไปมันไม่ร้อน 555  แต่มีน้ำมีไฟใช้ตลอดคืนสบายยยย

มื้อเย็นก็เป็นกับข้าวอร่อยๆเหมือนเดิมเลย เป็นอาหารที่ชาวบ้านปางขอนกินเป็นประจำอร่อยดีครับ

วันที่ 2 : ตามโปรแกรมสามารถอยู่เที่ยวปางขอนต่อได้อีกนะ แต่ชิวลงจากหมู่บ้านแต่เช้ากลับพร้อมอาจารย์เพราะเราอยากไปเที่ยวหลายๆที่ในเชียงราย ชิวเริ่มรับรถเช่า กินข้าวอะไรเบาๆแล้วออกเดินทางต่อจุดหมายแรกคือ ไร่ชาฉุยฟง ที่ท่องเที่ยวสุดฮิตเชียงราย 2017 !

มีให้ชิมชาด้วยนะ ถ้าถูกใจค่อยซื้อกัน

ไร่ชาฉุยฟงนี่ทำดีมาก สวยมาก น่ามาถ่ายรูปอย่างที่สุด

ส่วนขนมเด็ดที่ต้องสั่งก็ตามนี้เลยจ้า โรลชาเขียว กับ ชาเขียวปั่น  ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบชาเขียนปั่นนะรสชามัจฉะชัดดี แต่ส่วนโรลคืออร่อย แต่ถ้าไม่บอกว่าเป็นโรลชาเขียวเราก็เชื่อ เราว่ามันขาดรสชาติไปเลยอะเหมือนโรลครีมธรรมดา แต่คืออร่อยนะไม่ใช่ไม่อร่อย

บอกตรงว่ามาเที่ยวแบบไร้แผนสุดๆ เลยเอาง่ายๆละกันเลยขับต่อไปดอยตุง สถานที่ยอดฮิตตลอดการ ก่อนอื่นต้องซื้อบัตรค่าเข้าก่อน ราคาแรงใช้ได้สำหรับการเข้าทุกสถานที่ 220 บาท ถือว่าเราจ่ายบำรุงการท่องเที่ยวและพัฒนาดอยตุงไปครับ

เดินขึ้นจุดแรกที่พระตำหนัก เป็นสถานที่พำนักและทรงงานของสมเด็จย่า ระหว่างท่านมาพัฒนาดอยตุง ด้านในสวนมากสวยแบบเรียบๆไม่หวือหวาแต่ดูดี แต่ถ่ายรูปด้านในไม่ได้นะครับเลยไม่มีภาพมาให้ชมกันนะ

ไปต่อที่สวนแม่ฟ้าหลวง เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวที่สร้างขึ้นมาให้ดอยตุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแสดงดอกไม้เมืองหนาวให้คนไทยได้ชมกันโดยไม่ต้องบินไปเมืองนอกเลย ลองแวะมาชมกันครับสวยมากๆเลย

ตอนแรกชิวตั้งใจจะนอนชิวๆที่ริมน้ำโขงตรงเชียงของ ด้วยความชิวๆไปเรื่อยเสร็จจากดอยตุงก็ 4 โมงเย็นแล้วจะขับไปถึงเชียงของอีก 2 ชั่วโมงคงไม่ใช่ทริปชิวๆอย่างที่คิดเป็นแน่ เลยตัดสินใจไป “ดอยผาหมี” สถานที่เที่ยวใหม่ๆซิงๆแถว อ.แม่สายครับ ขับไปแค่ 20 นาทีแค่นั้นจากดอยตุงก็เลยลองไปดู กะว่าถ้าไม่มีที่พักก็ไปนอนแม่สายแทน ปรากฎว่าที่พักฮิตสุดคือ “บูซอ” เต็ม… แต่เราเจอที่พักอีกที่คือ Ozone อยู่ทางไปบูซอนั่นแหละ คืนละ 500-600 เอง

ชิวตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอน 6 โมงเช้าตื่นมาส่องก่อนถ้าไม่มีหมอกก็จะไปนอนต่อ แต่ภาพที่เห็นเหมือนในภาพ… รีบหยิบเสื้อหนาว คว้ากุญแจรถขับขึ้นไปดูหมอกแทบไม่ทัน!!

ชิวขับวนไปดูจุดชมวิวหมู่บ้านที่พี่ Ozone บอกมาแต่เราว่ายังไม่เด็ดเท่าไหร ชิวขับรถกลับไปที่บ้านบูซออีกครั้งแล้วก็ไม่ผิดหวัง ตรงนี้สวยเหมือนที่คิดเลย

 

ฟินกับหมอกแล้วขับรถกลับมาที่พัก Ozone ห้องพักนอนสบายราคาประหยัดของเรา ถ้าจะติดต่อห้องพักโทรเบอร์ 0877276733 นะเจ้าของใจดี คุยดี ห้องมีแค่3ห้อง ราคา 500-600 (ถ้าเหมา 3 ห้องพี่เค้าบอกว่าคิดแค่ 1500 )

เช้านี้ชิวกินมื้อเช้าเป็นข้ามต้มหมูสั่งกับทางที่พัก ในราคา 50 บาท ไม่แพงเลยครับให้เยอะมาก อร่อยด้วยอิ่มเลย นั่งชมวิวเพลินๆจิบชา คือดีต่อใจมากกกกกกกก  ตอนแรกเราตั้งใจจะไปเที่ยวหลายที่ไม่ไปแล้ว นอนเล่นรับลมเย็นๆไปดีกว่า เพลินๆ

นอนชิวนั่งชิวไปยาวๆสัก 11 โมงเราก็ลงมาแวะทานกาแฟร้าน 71 Coffee view อยู่ในหมู่บ้านนั่นแหละครับ เราชอบแนวคิดและอัธยาศัยของพี่เจ้าของร้านมากเลย เค้าขายกาแฟด้วยความอยากทำ ตั้งใจทำกาแฟมาก ใช้ของดี ขายแก้วละ 35-45 บาทเองอะ คือถูกจนเราตกใจ แล้วกาแฟแกดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ดีมากๆๆเรายังติดใจรสชาติคาปูชิโน่แก้วนั้นอยู่เลย 35 บาทเอง

เราร่ำลาพี่ร้าน 71 Coffee (ลืมถามชื่อพี่แกมา T-T ) แล้วขับรถย้อนกลับไปทางตัวเมือง น้องๆแม่ฟ้าหลวงแนะนำร้าน Hacienda coffee house มาครับ

ร้านนี้เป็นร้านกาแฟเก๋ๆบรรยากาศผู้ดี้ผู้ดีมาจิบกาแฟ จิบชา ทานขนมยามบ่ายกันงี้ บ้านสวยร้านสวยมากดูดีมาก ชิวให้พนักงานแนะนำได้ พานาคอตต้า สตรอเบอร์รี่มา ตอนแรกเรารู้สึกว่าร้านนี้แพง เมนูละ 100+ แต่พอเราได้ชิมเราไม่เสียดายเลย เพราะเค้าใช้ของดีอะ พานาคอตต้าดีต่อใจมากกกกกก

บรรยากาศบ้านตากอากาศผู้ดีชัดๆ 555

ไปต่อที่ของคาวร้านไม่สวยแต่รสชาติเด็ดดดด “ข้าวซอยวิจิตรา” ชิวกินสาขาบ้านดู่ ไม่รู้ว่าในเมืองจะอร่อยเหมือนกันไหม ชิวกินข้าวซอยเนื้อโคขุน อร่อยมากกกกกกกก เป็นข้าวซอยที่อร่อยมากๆเลยแนะนำ

ไปต่อนะคราวนี้ขับรถยาวๆไปเราจะไปถ่ายรูปเล่นที่สิงห์ปาร์คกัน ที่สิงห์ปาร์คนี่เราสามารถนั่งรถชมเที่ยวฟาร์มได้เสีย 100 บาท เค้าจะพาเราเที่ยวชมฟาร์มประมาณ 45 นาทีนะ แต่รอบนี้ชิวอยากพักผ่อนละก็เลยขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง แวะถ่ายรูปเล็กๆน้อยๆกรุบกริบแบบชิวๆ

 

ที่เราอยากมาดูช่วงนี้คือทุ่งดอกคอสมอส เราไปมาเมื่อปลายพย.กำลังบานเต็มทุ่งพอดีเลย สามารถไปชมใกล้ๆได้ แต่เข้าไปในสวนไม่ได้นะ

ออกจากสิงห์ปาร์คเราไปแวะคาเฟ่สุดเก๋ริมแม่น้ำกกเป็นการปิดท้ายก่อนไปสนามบินที่ร้าน Melt in your mouth น้องๆแม่ฟ้าหลวงแนะนำมาเหมือนเดิมอันนี้ ร้านสวยมากๆๆๆ มานั่งกินขนม ชมสวน ดูแม่น้ำกก ชิวสุดดดดดด

ร้านนี้ของดังเค้าคือพวกชีสเค๊ก เราสั่งบลูเบอร์รี่ชีสเค๊กมา ชิ้นละ 105 บาทนะ เท่าที่เราลองชิมเราว่าอร่อยระดับหนึ่ง กลางๆไม่ได้อร่อยพีคเหมือนตอนที่กินที่ญี่ปุ่นอะไรขนาดนั้นอะนะ ขนมอาจไม่พีคแต่ร้านสวยพีคถ่ายรูปสวยมาก เราเชียร์

เรานั่งอยู่ร้านสวยๆนี่ยาวจนถึงเวลาก็ขับรถไปสนามบินแล้วกลับกรุงเทพ ทริปเชียงรายแบบ unplan นี่คือดีเกินคาดไปมากกกกกกก เราได้ไปดูกาแฟแบบใกล้ชิดได้เจอพี่ๆที่น่ารักที่บ้านปางขอน เราได้ไปถ่ายรูปที่ไร่ชาสุดชิคไร่ฉุยฟง ได้ดูทะเลหมอกชัดๆที่ดอยผาหมี ได้กินของอร่อยๆ ได้แวะคาเฟ่สุดคูลอีกสองที่ เป็นทริปที่เหมาะสำหรับคนขี้เกียจและสายชิลล์แบบเราที่สุด เชียร์!

Exit mobile version