แจกแพลนเที่ยว “แพร่” กับ 9 สถานที่สุดประทับใจ “แพร่” เที่ยวเมืองสุดชิล นครโรแมนติกมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแห่งภาคเหนือโมเมนต์ที่ใช่แบบนี้ สร้างได้ไม่ต้องรอ ออกไปเที่ยวสิครับรอไร!
หน้าฝนแบบนี้ที่เที่ยวที่เหมาะๆ ก็คงเป็นทุ่งนาสีเขียวกับหมอกอ่อนๆ ยามเช้ากับเมืองน่ารักๆ และกลิ่นอายพื้นบ้านที่ทำให้ทั้งสมองและวิญญาณนุ่มฟูไปกับความชิล ความเป็นเอกลักษณ์บางอย่างที่หาไม่ได้ในจังหวัดไหนเลยนี่คือนิยามของจังหวัด “แพร่” ที่ชิวอยากจะมาขิงให้ฟังวันนี้ว่ามันดีย์! ขนาดไหน
หลายคนติดอยู่กับภาระหน้าที่ความกังวลทั้งหลาย จนรู้สึกเหมือนว่าโมเมนต์การพักผ่อนช่างเป็นอะไรที่หาได้ยากเหลือเกิน แต่รู้ไหมถ้าเราตั้งสติดีๆ หาเวลาสักหน่อย ปล่อยวางสักนิด เราจะเห็นโมเมนต์หลายๆ ที่ที่ทำให้เราได้ปลดปล่อยตัวเองอีกเยอะเลยนะ
เพราะฉะนั้นไม่ต้องรอให้โมเมนต์ที่ต้องการหรือประสบการณ์ที่ฝันเข้ามาหา ทุกอย่างเราสามารถสร้างมันได้เลย แค่ใจดีกับตัวเองซะหน่อย มองหน้าตัวเองเยอะๆ จากนั้นเก็บกระเป๋าแล้วออกไปหาโมเมนต์ที่ต้องการซะเลย!
1. “วัดนาคูหา”
เริ่มต้นวันเที่ยว เราแนะนำให้ขับรถไปจุดไกลสุดก่อน เริ่มต้นวันดีๆ ที่ “วัดนาคูหา” กันก่อน วัดสวย มีเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยองค์พระขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านนาคูหา ซึ่งอยู่ท่ามกลางขุนเขาและธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์
ความเขียวของต้นข้าวทำให้เรารู้สึกสดชื่นได้จริงๆ ลืมความง่วงยามเช้าไปเลย
มีสะพานขัวแตะ สะพานไม้ไผ่สาน ที่สวยงาม มาเดินเล่นชิวๆถ่ายรูปสะพานกับทุ่งนา บรรยากาศแบบนี้ทั้งชิลทั้งโรแมนติก รู้สึกได้เลยว่าความเครียดลดลงแบบวัดค่าได้
2. “ถนนลอยฟ้า”
จากนั้นขับรถต่อลัดเลาะไปตาม “ถนนลอยฟ้า” อันสวยงาม สองข้างทางเป็นทิวเขาและหมอกยามเช้า สูดกลิ่นหมอกและธรรมชาติเข้าให้เต็มปอดแบบที่ไม่ค่อยได้หายใจลึกๆ แบบนี้มาก่อนเลย
ภูเขาตรงจุดชมวิว สวยและแปลกตามาก มีความเทือกเขาสลับสวยงามเหมือนในเรื่อง “เทเลทับบี้” หามุมดีๆ รับรองว่าได้รูปดีๆ เพียบ!
3. “พระธาตุปูแจ”
ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นโบราณสถานแห่งชาติจากกรมศิลปากรเลยนะ พระธาตุปูแจคือประดิษฐานในเจดีย์สี่เหลี่ยมจัตุรัส ยาวด้านละ 4 เมตร สูง 4 เมตร บรรจุพระธาตุที่เป็นข้อเท้าข้างขวาของพระพุทธเจ้า แวะไหว้ขอพรเป็นศิริมงคลนี่คือดีงามมาก
4. “บ้านมัดใจ”
ที่นี่ออกแบบได้สวยมาก เป็นคาเฟ่และ workshop ในตัว มีผ้ามัดย้อม ต้นไม้ภายในพื้นที่ร้านก็สวยเป็นสวนแบบ tropical มีมุมให้ถ่ายรูปแบบมินิมอลหลายมุมบรรยากาศที่ตกแต่งเหมือนหลุดมาจาก Pinterest มองหาคู่สีเสื้อผ้ากับมุมดีๆ ได้รูปลง IG เฟี้ยวๆ เพียบ
ใครสนใจสามารถร่วมกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมได้นะ ได้ทั้งประสบการณ์และก็เสื้อที่ตัวเองทำเองด้วย เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เหมาะกับเมืองเหนือแต้ๆ เลย
5. “ข้าวซอย”
“ข้าวซอยนกน้อย” ร้านข้าวซอยชื่อดังของเมืองแพร่ เก่าแก่ ตามรอยมาทานแล้วไม่ผิดหวัง อร่อยจัด น้ำซุปเข้มข้นรสกลมกล่อม ใครอยากกินข้าวซอยสไตล์ชาวเหนือต้องที่นี่ อร่อยมากแนะนำเลย
6. “แพะเมืองผี”
นี่อีกสถานที่อันเลื่องชื่อของจังหวัดแพร่ที่ใครมาต้องแวะ มีฉายาว่า “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” หลังๆ คนนิยมหาที่เที่ยวที่ฟีลเหมือนอยู่ต่างประเทศ บอกเลยว่าที่นี่ก็เป็นหนึ่งในที่เหล่านั้นที่ห้ามพลาด
ทำให้เพื่อนๆ สามารถเดินถ่ายรูปเล่นได้ในทุกที่ของที่นี่ งานนี้รับรองเลยว่าได้รูปเก๋ๆ กลับไปลง IG อีกเพียบแน่นอน
7. “บ้านทุ่งโฮ่ง”
โซนนี้มันจะเป็นร้านขายผ้าหม้อห้อมผ้าย้อมสีกรมท่ายอดฮิตที่นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของชาวแพร่ขนาดที่ใครหลายคนบอกว่าถ้ามาแพร่แล้วไม่ได้หม้อห้อมกลับไปเหมือนมาไม่ถึงเลยทีเดียว แถมยังเป็นแหล่งผลิตเสื้อหม้อห้อมที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย
8. Charlotte hut coffee
ร้านนี้เป็นคาเฟ่ชื่อดังของเมืองแพร่ มีการจัดร้านได้สวยงามผสานความธรรมชาติกับความมินิมอลได้ลงตัว มีหลายโซนให้ถ่ายรูปแบบชิคๆ สวยๆ
กาแฟรสชาติดีมากมีความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ส่วนทีเด็ดที่อยากแนะนำคือเค้ก! อร่อยมาก นั่งในบรรยากาศเย็นๆ ต้นไม้รายล้อมจิบกาแฟรสเลิศกับเค้กอร่อยๆ ฟินนน!
9. “ครัวจิ้นสด”
หลังจากเที่ยวมาทั้งวันแนะนำให้จบวันด้วยอาหารพื้นเมืองร้านเด็ดขอบเมืองแพร่ ที่ “ครัวจิ้นสด” เพียงแค่จอดรถและเดินเข้าร้านก็ได้กลิ่นเครื่องลาบ ลอยมาแต่ไกล ไม่รอช้ารีบสั่งมาชิม
ลาบแพร่ ลาบหมูในสไตล์เฉพาะตัวของร้าน เครื่องสมุนไพรแน่นๆพอตักเข้าปากกินคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆ อือหืออออ ฟิน!
ขอบอกว่าเป็นลาบเหนือ ที่เราชอบที่สุดที่เคยกินมาเลยเครื่องสมุนไพรแน่นมากๆ ดีจัดๆ ขอบอก
สำหรับการมาเที่ยวแพร่ของเราในครั้งนี้ขอบอกเลยว่าประทับใจจริงๆ จากเมืองที่เคยเป็นแค่ทางผ่าน อาจจะเคยแค่แวะไหว้พระธาตุช่อแฮ วันนี้ผมค้นพบว่า จังหวัดแพร่ มีเสน่ห์จริงๆ
ความสวยงามของธรรมชาติ ที่ไม่แพ้จังหวัดอื่น ความใจดีของผู้คน วิถีชีวิตอันเรียบง่ายแต่มีความสุขของคนแพร่ ที่ทำให้คนกรุงเทพอย่างผมได้เรียนรู้และอยากทำตาม เที่ยวเหนือครั้งหน้าอย่าลืมบรรจุจังหวัดแพร่เข้าไปในลิสต์ล่ะ!