พาไปทำความรู้จัก น็อต สกรูติดแหวนอีแปะ และอีกมากมาย

ที่เรียกติดปากกันว่าน็อต รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วองค์รวมทั้งหมดของมันถูกแยกออกมาได้อีก! โดยประกอบไปด้วยน็อตและสกรู รวมถึงแหวนรองแบบต่าง ๆ ที่จะถูกนำประกอบใช้งาน อาทิสกรูติดแหวนอีแปะ เป็นต้น

วัสดุทางการช่างที่หลายคนเรียกติดปากจนทำให้สะสม วันนี้จะพาไปรู้จักน็อต สกรู และแหวนรอง พร้อมวิธีเลือกใช้งานอย่างไรให้ตรงตามความต้องการ ใครที่ชอบสงสัยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ทั้งการจับคู่ใช้งานระหว่างสกรูและแหวนรอง อาทิสกรูติดแหวนอีแปะได้ไหม ต้องมาทำความเข้าใจแบบแยกส่วนประกอบให้ชัดตรงนี้ บอกเลยว่าจะเก็บภาพรวมแน่นอน

น็อต สกรู และแหวนรอง ต่างกันอย่างไร?

สำหรับใครที่เคยได้ยิน น็อต สกรูติดแหวนอีแปะ สกรูหัวจม และชื่ออื่น ๆ อีกมากมาย ขอให้รู้ไว้เลยว่านั่นคือประเภทของวัสดุน็อตหรือสกรูแต่ละชนิด รวมถึงการจับคู่คอมโบการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม พวกมันจะทำหน้าที่คล้ายกับตะปู เพียงแต่จะอาศัยแรงหมุน เพื่อให้คลื่นเกียวเจาะทะลุวัสดุได้อย่างแนบแน่น และมั่นคงนั่นเอง 

ส่วนใครที่ร้อนใจแล้ว อยากทราบไว ๆ ถึงใจความสำคัญอย่างความแตกต่างของน็อตละสกรู การเลือกใช้งานที่เหมาะสม ติดตามอ่านได้ที่เนื้อหาด้านล่างนี้เลย!

• “Nut” หรือ “น็อต”

สามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า “หัวน็อต” ที่แปลว่าน็อตตัวเมีย มีลักษณะคล้ายคลึงกับแหวน มีรูตรงกลาง ภายในร่องก็จะเป็นเกลียว เพื่อที่ใช้สำหรับการหมุนให้ลงล็อกกับตัวสกรู โดยน็อตจะมีอยู่หลากหลายประเภทมาก ๆ เช่น หัวน็อตติดจาน หัวน็อตหกเหลี่ยม หัวน็อตกลม ฯลฯ

• สกรู

สามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า “น็อตตัวผู้” โดยจะมีลักษณะเป็นเกลียวรอบแท่ง ทรงกระบอกยาว และหัวสกรูเองก็มีหลายแบบ ทั้งหกเหลี่ยว หัวแฉก หัวผ่า หัวอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังนิยมใช้ยึดวัตถุคู้กับแหวนรอง มีทั้งแบบสกรูติดแหวนอีแปะ และสกรูติดแหวนปริง เป็นต้น

• แหวนรอง

อย่างที่พูดไปในข้างต้น แหวนรองก็คืออีกหนึ่งวัสดุสำคัญในการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการยึดติดระหว่างน็อตและวัตถุ โดยชิ้นส่วนนี้จะทำหน้าที่ใช้ขันรวมสกรูและน็อตเข้ามารองเอาไว้ตรงกลาง อย่างการเจาะสกรูติดแหวนอีแปะ เป็นต้น ในส่วนของแหวนรองน็อตยอดนิยม ณ ปัจจุบันนี้ก็จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 แบบ ดังนี้

1. แหวนอีแปะ เป็นแหวนที่มีลักษณะกลม แบน มีรูตรงกลาง มีประโยชน์คือ ช่วยกระจายแรง และเพิ่มพื้นที่ในการยึดเกาะ ทำให้น็อตแนนหนา ทั้งยังช่วยป้องกันส่วนรูของวัสดุไม่ให้เสียหายจากแรงกดของน็อตอีกด้วย
2. แหวนสปริง มีลักษณะคล้ายแหวนอีแปะ แต่จะมีรอยผ่า แล้วยกขอบตรงรอยต่อขึ้นทำให้ขอบตรงรอยต่อไม่เสมอกัน ประโยชน์ของแหวนแบบนี้จะคล้ายๆกับแหวนอีแปะ แต่จะช่วยป้องกันการคลายเกลียวของน็อตได้ดีกว่า

ติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::

Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!