สิวเป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อยในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ เกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ฮอร์โมน กรรมพันธุ์ การรับประทานอาหาร การสัมผัสสารเคมีบางชนิด เป็นต้น เมื่อสิวหายแล้วมักทิ้งรอยแผลไว้ให้กวนใจ ซึ่งรอยแผลจากสิวนั้นมีหลายประเภท มีทั้งรอยดำ รอยแดง และรอยหลุม ซึ่งแต่ละประเภทก็มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันออกไป แต่ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นยารักษาแผลเป็นจากสิวออกมาหลายยี่ห้อ แต่รอยแผลเป็นในลักษณะใดบ้างที่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ได้ ไปหาคำตอบกัน

รอยแผลดำจากสิว

รอยแผลดำจากสิว เกิดจากเม็ดสีเมลานินที่เพิ่มขึ้นบริเวณที่เป็นสิว เมื่อสิวหายแล้วเมลานินจะยังคงอยู่ ทำให้บริเวณนั้น ๆ มีสีคล้ำกว่าบริเวณรอบๆ รอยแผลดำจากสิวมักจะจางลงเองตามธรรมชาติภายใน 2-6 เดือน แต่หากต้องการเร่งให้รอยแผลดำจางลงเร็วขึ้น สามารถใช้ยารักษาแผลเป็นที่เกิดจากสิวทาหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี อาร์บูติน หรือไฮโดควิโนน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน

รอยแดงจากสิว

รอยแดงจากสิว เกิดจากหลอดเลือดฝอยบริเวณที่เป็นสิวขยายตัว เมื่อสิวหายแล้วหลอดเลือดฝอยจะค่อย ๆ กลับสู่สภาพปกติ แต่หากหลอดเลือดฝอยขยายตัวมากหรือนานเกินไป ก็จะทำให้เกิดรอยแดงที่เห็นได้ชัดเจน รอยแดงจากสิวมักพบได้บ่อยในคนที่มีผิวบาง ซึ่งหากดูแลสิวไม่ดีนอกจากจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นแล้ว ยังอาจทำให้เกิดหลุมสิวบนใบหน้าได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วสามารถใช้ยาทาหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี อาร์บูติน หรือไฮยาลูรอน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดการอักเสบ รวมถึงเมื่อสิวหายควรใช้ยารักษาแผลเป็นที่เกิดจากสิวเพื่อช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้นก็จะตอบโจทย์ที่สุด

รอยหลุมสิว

รอยหลุมสิว เกิดจากการอักเสบของสิวที่รุนแรง ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นสิวถูกทำลายไป ส่งผลให้เกิดรอยบุ๋ม รอยนูน หรือรอยคลื่นบนผิว ซึ่งรอยหลุมสิวนั้นมักเป็นปัญหาที่รักษาได้ยากกว่ารอยแผลดำหรือรอยแดงจากสิว การรักษารอยหลุมสิวมีหลากหลายวิธี ขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของรอยหลุม เช่น

  • การรักษาด้วยยารักษาแผลเป็นจากสิว เช่น ยาทาเรตินอยด์ ยาทากรดวิตามินเอ หรือยารับประทานอิโซเทรติโนอิน ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและลดการอักเสบ
  • การรักษาด้วยเลเซอร์ เช่น เลเซอร์ fractional laser เลเซอร์ CO2 เลเซอร์ erbium yag laser ซึ่งช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
  • การทำหัตถการ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ การลอกหน้าด้วยกรด การผ่าตัดหลุมสิว เป็นต้น

การดูแลรักษาแผลเป็นจากสิว

นอกจากการรักษาด้วยยารักษาแผลเป็นจากสิวและการทำเลเซอร์ผิวแล้ว การดูแลรักษาแผลเป็นจากสิวอย่างถูกวิธี ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว เพราะจะทำให้รอยแผลเป็นรุนแรงขึ้น
  • ทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อป้องกันแสงแดดทำร้ายผิวและทำให้รอยแผลเป็นเข้มขึ้น
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและลดการอักเสบ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีน ไขมันดี เป็นต้น

สำหรับใครที่มีปัญหาแผลเป็นจากสิวรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสมก็จะดีที่สุด

ติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::

Instragram :@ChillJourneyTH
Facebook Page : Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Youtube : ChillJourney

Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!