หลังจัดงานแต่งมาได้ 2-3 วันเลยอยากจะมาเขียน Recap ไว้สักหน่อย เผื่อใครจะจัดงานแต่งในอนาคต ที่โจทย์ตรงกันคืออยากได้สถานที่หรูหราดูดี สมเกียรติฝ่ายเจ้าสาวที่ฐานะค่อนข้างดี งานต้องสวยถูกใจบ่าวสาว งานต้องหรูให้พ่อแม่ไม่อายแขก แต่งบขอไม่ได้บานปลายไปไกลเกินเบอร์แบบหลายล้าน ต้องบอกก่อนเลยว่า “จัดงานให้สมเกียรติ” นี่เป็นคำที่ยากมากเลยครับ มันไม่มีนิยามที่ชัดเจน ฮ่าๆๆ

ขอเล่าทีเดียวเลยว่าการจัดงานแต่งแบบง่ายสุดๆตามสไตล์เราต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง? ขอเขียนเป็นไกด์ไว้ให้เลย ถ้าจะจัดตามเราก็มีแค่ 10 หมวดเท่านั้นที่ต้องทำ (บอกเลยว่าอย่าคิดจะเตรียมทุกอย่างเองเด็ดขาด นี่ขนาดจ้างคนทำหมดแทบทุกขั้นตอน ตอนเตรียมงานยังเหนื่อยมาก ดีเทลมันเยอะมากจริงๆ )

 

01. ขอแต่งงาน

ในความเป็นจริงผมคิดว่า เป็นแฟนกันคบกันจนมั่นใจว่าจะแต่ง นี่ก็คงคุยกันแล้วล่ะว่าจะแต่งงานกันนะ เรื่องการขอแต่งงานแบบสวยงามอลังการ ตามปกติมักจะมาทีหลังครับ ก่อนอื่นเลยคือพอพวกเราตกลงกันว่าจะแต่งงาน คุยกันกับพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายเบื้องต้นว่าท่านโอเค ก็เข้าสู่กระบวนการหาทริปขอแต่งงานได้ ซึ่งของพวกเราไปจัดงานขอแต่งงานเล็กๆน่ารัก ตอนพวกเราไปดำน้ำที่มาเลเซีย (สิปาดัน) ผมจ้างให้ทางโรงแรมช่วยตัด Backdrop น่ารักๆขอแต่งงานบนดาดฟ้าของโรงแรมให้ ทริปนี้เราเดินทางพร้อมเพื่อนๆแก๊งดำน้ำอยู่แล้วจึงมีคนมาร่วมแสดงความยินดีกับเราเพียบเลย

  • งบส่วนนี้: หลักพันถึงหลายแสน แล้วแต่สถานที่ขอ … ถ้าจะแนะนำก็ไปขอในทริปเที่ยวก็ดี ภาพสวยประหยัดงบประหยัดเวลาครับ

02. พาเถ้าแก่ไปสู่ขอเจ้าสาวจากพ่อแม่ฝ่ายหญิง

ลำดับถัดไปคือเราต้องหาผู้ใหญ่ฝ่ายชาย หรือเค้าเรียกว่า “เถ้าแก่” มาเจรจาสู่ขอฝ่ายหญิงพร้อมสินสอด อย่างคู่เราเป็นครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนทั้งคู่ก็เลยพาครอบครัวไปเลี้ยงติ่มซำกันที่ห้องอาหาร Sui Sian โรงแรม Landmark ที่นี่บรรยากาศจะเป็นจีนแบบไฮโซเลย อาหารอร่อย มีห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ บรรจุคนครบ 20 คนของทั้งสองครอบครัว ประมาณให้สองครอบครัวได้มาเจอกันแบบทางการ คุยเรื่องสินสอดว่าประมาณไหนถึงจะสมเกียรติฝ่ายหญิง

  • งบส่วนนี้: 20,000 บาท
  • พิกัด: Sui Sian โรงแรม Landmark

03. หาฤกษ์แต่งงาน

ลำดับถัดไปคือหาฤกษ์แต่งงาน อันนี้แล้วตามศรัทธาของแต่ละท่านเลย จะเอาวันเดือนปีเกิดบ่าวสาวไปดูดวงละเอียด ดูวันดีจากปฏิทิน ขอฤกษ์จากพระ หรือจะฤกษ์สะดวกก็คือจัดไป ส่วนของผมนั้นคือทำไว้ 2 อย่างคือ ฤกษ์ละเอียดจากเกจิชื่อดัง กับ ฤกษ์จากพระ (วัดเขาวง ถ้ำนารายณ์ สระบุรี) ซึ่งสุดท้ายผมเลือกฤกษ์จากพระ เพราะว่าสถานที่ว่าง รวมทั้งไม่กระชั้นชิดเกินไปครับ

04. หาสถานที่

หลังจากได้ฤกษ์มาแล้ว สิ่งถัดไปคือหาสถานที่ อันนี้สำคัญมาก เพราะสถานที่ดังๆจัดดี ราคาเหมาะสมนั้นคิวยาวมาก และฤกษ์งานแต่งก็มักจะชนกับบ่าวสาวท่านอื่น อย่างที่ Le Pasiri ที่เราจัดนั้นถือว่าเป็นที่ๆฮอตมาก เราจองล่วงหน้า 1 ปีพอดีเลยครับ เป็นความบังเอิญที่ได้คุยกับน้องชายคนหนึ่ง น้องเพิ่งแต่งแล้วแนะนำเจ้านี้มา บอกว่าที่ Magic Love House (ชื่อบริษัทออแกไนซ์และสถานที่จัดงาน) เจ้านี้จัดดีมาก ทำทุกอย่างให้หมดพี่ไม่ต้องเหนื่อยเลย เราก็เลยปักหลักแรกกับเจ้านี้

พอเปิดเว็บของ Le Pasiri ให้แฟนดูแล้วนางชอบเลย เราไปดูสถานที่จริงรอบเดียวแล้วก็ใช่มาก ตรงปก เลยตกลงเอาเลย คือมันใช่ไปหมด มันสะท้อนความเป็นเรา ผมอยากได้มู้ดงานในสวน Glass House แสงธรรมชาติสาดสวยๆ และที่สำคัญต้องไม่กังวลเรื่องฝน (ถ้าจัดงาน outdoor แล้วฝนตกคือจบกัน) สรุปมาจบที่เลือก Le Pasiri แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆงานสวยจัดดี รันคิวไว อาหารอร่อย ดนตรีดี พิธีกรเลิศ และเตรียมให้ครบทุกอย่างจริงๆ งานเรามีแต่แขกชมครับว่าจัดได้ดีมากจริงๆ เจ้าภาพปลื้มเลย

  • พิกัด: Le Pasiri
  • งบส่วนนี้: 350,000 บาท (เราจ่ายอัพเกรดโต๊ะจีนเป็นแพคเกจสูงสุดที่มีหูฉลาม)
  • ช่องทางติดต่อ: Magic Love House

 

05. แหวนเพชร

เรื่องหนักใจของฝ่ายชายมาแล้วครับ “แหวนเพชร” ผมก็เพิ่งรู้ว่าแพงขนาดนี้!! เรื่องนี้มีดีเทลเยอะผมขอข้ามไปละกันครับไปตกลงกันเอง งานผมใช้แหวน 2 กะรัต ราคาก็แบบปาดเหงื่อ…

  • งบส่วนนี้: หลายแสนถึงหลายล้าน… เตรียมปาดเหงื่อไว้เลยเจ้าบ่าว 555

 

06. การ์ดแต่งงาน

ส่วนนี้เราออกแบบเอง ปริ้นเองทำเองทั้งหมดเลยครับ อันนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือบ่าวสาวละ

07. ชุดงานแต่งและ Prewedding

ส่วนนี้ผู้หญิงน่าจะเป็นคนเลือก นางไถไปเรื่อยๆจนเจอถูกใจที่ร้าน CoCoChic Wedding คนที่ดูแลเรา AE ชื่อน้องอิ๊ค น้องดูแลดี เทสต์ดีมาก เลือกชุดเลือกสไตล์ให้เราได้ตรงบรีฟ พวกเรารีเควสความแกรม(Glamorous) ชุดคืออลังมากได้มาก หางยาวล้านเมตร  ร้านนี้ชุดสวย ดีเทลดี คัตติ้งเนี้ยบ ส่วนของพรีเวดดิ้งก็ใช้ร้านนี้เลย แพคเกจเราเลือกถ่ายได้ 3 ชุดจากร้าน + ชุดเราเอง 1 ได้ภาพมา 18 ภาพ

  • พิกัด: CocoChic Wedding
  • งบส่วนนี้: 53,500 บาท ( ใดๆแพคเกจที่ได้และราคาไปคุยกันเองนะ)
  • ช่องทางติดต่อ: CocoChic Wedding

08. ช่างแต่งหน้าทำผม

ส่วนนี้สำคัญมากไม่แพ้สถานที่และช่างภาพ ต้องจองล่วงหน้า อันนี้แฟนผมเลือกมาชื่อ “ครูไก่ minimarumakeup” ถือว่าแต่งดีแต่งไวมาก เฟรนลี่ถูกใจเลยครับ ถูกใจทั้งบ่าวสาวเลย เจ้าสาวสวยมากมีแต่แต่คนชม เลือกครูไก่เลยรับรองไม่ผิดหวัง

  • พิกัด: ครูไก่ minimarumakeup
  • งบส่วนนี้: 20,000 บาท
  • ช่องทางติดต่อ: minimarumakeup

09. ช่างภาพและวิดีโอ

คุณเต้ Drunkphoto อันนี้ผมเลือกมาโดยดูจากเพจของสถานที่จัดงาน คุณเต้ถ่ายงานที่นี่เยอะมาก ส่วนตัวผมคิดว่าการเลือกช่างภาพในงานพิธีนั้นถ้าให้ดีควรเป็นช่างภาพที่รู้จักพิธีการและสถานที่เป็นอย่างดี ซึ่งคุณเต้กับ Le Pasiri นี่คือน่าจะถ่ายจนสนิทกับทางออแกไนซ์ จนแทบเป็นทีมเดียวกัน วันงานรันคิวและจังหวะถ่ายรูปร่วมกับทุกทีมได้ดีมาก เรียกได้ว่าคิดถูกที่เลือกช่างภาพท่านนี้ครับ

ส่วนสไตล์การถ่ายและมุมมอง เรียกได้ว่าเป็นไปตามมาตรฐานคุณเต้เลย ถ้าจัดที่นี่แนะนำเลยครับ ที่สำคัญคือส่งงานไวมากกกก 6 ชั่วโมงหลังจบงานแกส่งแล้ว เลยได้ส่งรูปให้เพื่อนๆเซฟไปลงได้ทันที หลังจบงานในฟีด Facebook ของพวกเราทั้งสองคนมีแต่รูปงานเรา งานไวมันดีตรงนี้แหละครับ

  • พิกัด: Drunkphoto
  • งบส่วนนี้: 24,000 บาท (จองข้ามปี ปัจจุบันอาจจะขึ้นแล้ว)
  • ช่องทางติดต่อ: Drunkphoto

10. ของรับไหว้และของชำร่วย

สุดท้ายแล้วที่เราต้องทำเองนอกเหนือจากแพคเกจสุดคุ้มของ Le Pasiri คือของรับไหว้และของชำร่วย เราเลือกของ Manita Wedding ถือว่าทำมาได้ดีทีเดียวครับของชำร่วยน่ารักตรงปกมากๆ เราเลือกเป็นแท็กกระเป๋าสีพาสเทล ซึ่งสะท้อนคู่เราได้ดีทีเดียว

  • พิกัด: Manita Wedding
  • งบส่วนนี้: 25,000 บาท
  • ช่องทางติดต่อ: Manita Wedding

 


 

จบแล้ววววว เขียนอย่างยาวนาน ขอเขียนทิ้งไว้เป็น Completely guide สำหรับการจัดงานแต่ง เผื่อใครผ่านไปผ่าน กำลังเตรียมตัว มาอ่านเจอก็ขอให้โชคดีกับการจัดงานให้ราบรื่น และมีความสุขกับชีวิตคู่นะครับ

ติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::

Instragram :@ChillJourneyTH
Facebook Page : Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Youtube : ChillJourney

Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!