ทริปนี้เราเดินทางไปประเทศจีนเมื่อวันที่ 13 – 23 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมา ในช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบายประมาณ 10 กว่าองศา โดยวางแผนเดินทางจากคุนหมิง มณฑลยูนนาน ขึ้นไปจุดไฮไลท์ของทริปที่ไกลสุดก่อนคือ อุทยานย่าติงในมณฑลเสฉวน จากนั้นก็เที่ยวไล่ลงมาที่ เต้าเฉิง – จงเตี้ยน (แชงกรีล่า) – ลี่เจียง – ต้าหลี่ แล้วมาขึ้นเครื่องกลับไทยที่คุนหมิงค่ะ
ค่าใช้จ่ายไปคนเดียวไม่มีคนช่วยหารค่าแท็กซี่ กับค่าอาหาร (มื้อที่เป็น hotpot เนื้อจามรี…แอบแพง) หมดไป 19,000 บาท รวมทุกอย่างแล้วทั้งค่าบัส ค่ารถไฟ ค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่ ค่ากิน ค่าที่พัก ฯลฯ ทั้งทริปนอน International Youth Hostel คืนล่ะ 160 – 240 บาท ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินได้มาตอนโปรโมชั่นของแอร์เอเชีย ไป-กลับ ดอนเมือง-คุนหมิง 1,200 บาทค่ะ 😉
Day : 1 ดอนเมือง – คุนหมิง / เที่ยวในเมืองคุนหมิง / นอนบนรถบัสไปแชงกรีล่า
เราบินจากดอนเมืองไฟล์ท 8 โมงเช้า ใช้เวลา 2 ชม. ถึงคุนหมิง 11 โมงเช้า (เวลาที่จีนเร็วกกว่าไทย 1 ชม.) มีเวลาอีก 6 – 7 ชม. เที่ยวในเมืองคุนหมิงก่อนจะนอนบนรถ Sleeper bus ในช่วงเย็นเดินทางต่อไปแชงกรีล่า ใช้เวลาอีก 14 ชม.ค่ะ
วัดหยวนทง เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของมณฑลยูนนาน สร้างมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง มีอายุประมาณ 1,200 กว่าปี เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา 3 นิกาย คือมหายานของพม่า หินยานของไทย และลามะของทิเบต ภายในเป็นสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ชิง มีศาลาแปดเหลี่ยมกลางสระน้ำมรกต มีเต่ากับปลาอาศัยอยู่เยอะมาก
สวนสาธารณะชุยหู สวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองคุนหมิง บรรยากาศร่มรื่น มีทั้งบึงบัว ป่าไผ่ ดอกไม้หลายชนิด มีกิจกรรมต่างๆ ร้านค้ามากมาย ได้มาเดินเล่นดูผู้สูงอายุร้องเพลงประสานเสียง เต้นระบำ รำไทเก็ก เล่นหมากรุกจีน ก็เพลินดีนะคะ ที่นี่ยังมีฝูงนกนางนวลปากแดงที่อพยพหนีความหนาวมาจากไซบีเรียด้วย
งาน Kunming expo ช่วงที่เรามา มีงานนี้จัดอยู่ใกล้ๆ กับสวนสาธารณะพอดี มีของขายมากมายทั้งเสื้อผ้า และอาหารด้วยค่ะ
Day : 2 เที่ยวแชงกรีล่า / นอนแชงกรีล่า
รถ sleeper bus จากคุนหมิงมาถึงแชงกรีล่า 9 โมงเช้า เราต้องแวะพักและเที่ยวที่นี่ก่อนวันนึง เพราะไม่ทันรถไปเต้าเฉิงที่มีแค่วันล่ะรอบตอนเช้าตรู่ และเพื่อให้ร่างกายได้ปรับระดับความสูง ได้อาบน้ำ พักผ่อนหลังจากเดินทางไกลมาจากไทยด้วยค่ะ
วัดซงจ้านหลิน (วัดโปตาลาน้อย) เป็นวัดทิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนาน มีอายุมากกว่า 300 ปี และเป็น 1 ใน 13 วัดที่ชาวทิเบตต้องไปสักการะให้ได้ครั้งนึงในชีวิต มีพระลามะจำพรรษาอยู่กว่า 700 รูป อยู่ห่างจากเมืองแชงกรีล่าขึ้นไปทางเหนือประมาณ 4 กม.
เมืองเก่าจงเตี้ยน (แชงกรีล่า) ย่านเมืองเก่าอยู่ตอนใต้สุดของตัวเมือง เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านของที่ระลึกและเกสต์เฮาส์ ถนนปูด้วยหินกรวด ตอนเย็นจะมีการแสดงพื้นบ้านของชาวทิเบตที่จัตุรัสใหญ่ด้วย ซึ่งเมื่อต้นปี 2557 เกิดเหตุไฟไหม้รุนแรงในบริเวณเมืองเก่าที่มีอายุกว่า 1,300 ปี เสียหายไปมากกว่า 200 หลัง ความเสียหายทางเศรษฐกิจราว 500 ล้านบาท และโบราณสถานสำคัญในพื้นที่ก็ถูกทำลายลงเช่นกัน โดยเฉพาะหอสวดมนต์ของชาวทิเบต…
ผ่านไป 2 ปี เมืองเก่าจงเตี้ยนได้รับการฟื้นฟูจนเกือบสมบูรณ์แล้ว ไปเที่ยวช่วงนี้ก็เลยยังเห็นการซ่อมแซมอยู่ทั่วไป และบ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในสไตล์เดิมค่ะ
วัดต้าฝอซื่อ เป็นวัดทิเบตศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแชงกรีล่า ตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีกงล้อสีทองขนาดยักษ์ ต้องช่วยกันมากกว่า 20 คนในการออกแรงหมุนเพื่ออธิษฐานขอพร เราไปลองวิ่งหมุนกับคนอื่นๆ ได้ 3 รอบ…แทบเป็นลมค่ะ เพราะระดับความสูงที่มีออกซิเจนเบาบางด้วย หายใจไม่ทัน!
และจากด้านบนของวัด มองลงมาด้านล่าง ก็จะเห็นทะเลหลังคาเมืองเก่าได้ 360 องศา บวกกับวิวภูเขาสูงอีกไกลๆ เป็นวิวที่สวยประทับใจมากอีกวิวนึงเลย
Day : 3 แชงกรีล่า – เต้าเฉิง / นอนเต้าเฉิง
วันนี้นั่งรถยาวๆ ใช้เวลา 10 ชม.ครึ่ง จากแชงกรีล่าไปเต้าเฉิง เส้นทางออกจะโหดสักหน่อยนะ ทั้งระดับความสูงและโค้งไต่ขึ้นเขา ลงเขาตลอดทาง แต่วิวข้างทางสวยจนไม่กล้าหลับเลยค่ะ
วิวระหว่างทาง ผ่านหุบเขา ภูเขาหิมะ หมู่บ้านทิเบต จะเห็นดอกไม้ป่า นาข้าวสีเขียวเหลือง ป่าสนสวยๆ ไปตลอดทาง
Day : 4 เต้าเฉิง – เที่ยวย่าติง (วันแรก) / นอนเต้าเฉิง
จากเต้าเฉิงมีรถแวนไปย่าติงค่ะ ใช้เวลา 2 ชม. รถจอดส่งที่อาคารจุดขายตั๋ว เสียค่าธรรมเนียม ซึ่งรวมกับค่าบัสเข้าอุทยานด้วย จากนั้นนั่งบัสขึ้นเขาไปอีก 32 กม. ใช้เวลาอีก 1 ชม. ก็จะถึงทางเข้าอุทยานค่ะ
เราแบ่งการเดินทางในอุทยานย่าติงออกเป็น 2 วัน ในวันแรกนี้จะเดินทางด้านขวาของอุทยานไปกันที่ทะเลสาบไข่มุก ชมวิวยอดเขาเซียนไหน่ยื่อ สูง 6,032 เมตร และวัดชงกู่ ที่มีอายุกว่า 800 ปีค่ะ
อุทยานย่าติง ขอเล่าความเป็นมาของคำว่า “แชงกรีล่า” กันสักนิด ซึ่งก็คือดินแดนในจินตนาการของนวนิยายชื่อดังเรื่อง Lost Horizon แต่งโดย Jame Hilton พรรณนาว่าเป็นดินแดนลึกลับอยู่ในเทือกเขาสูงชันทอดยาว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเทือกเขาคุนลุน ซึ่งกล่าวว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ล้วนมีชีวิตยืนยาว มีความสุข อาจกล่าวได้ว่าสถานที่นี้เปรียบเหมือนสวรรค์บนดินเลยทีเดียว ซึ่งมีการค้นพบดินแดนนี้ตั้งแต่ ปี 1920 จนถึงในปี 1928 ก็มาถึงเขตย่าติง และภาพถ่ายของเขาได้ถูกเผยแพร่ในหนังสือ National Geographic มากถึง 60 หน้า
เมื่อชื่อแชงกรีล่าโด่งดังไปทั่วโลก เมืองในเทือกเขาหิมาลัยก็มักอ้างว่าเป็นดินแดนของตน จนในปี 2001 ทางการจีนได้เปลี่ยนชื่อเมืองจงเตี้ยนเป็นแชงกรีล่า เพื่อเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยว แต่จริงๆแล้วภาพถ่ายที่ดูเหมือนจะใกล้เคียงกับของ Jame Hilton ก็คือเมือง Riwa ในบริเวณอุทยานย่าติง ไม่ใช่จงเตี้ยน แต่เมื่อทางการจีนได้เปลี่ยนชื่อเมืองจงเตี้ยนเป็นแชงกรีล่าไปแล้ว ก็เลยเรียกย่าติงว่าเป็น The Last Shangri-La แล้วกัน
Day : 5 เต้าเฉิง – เที่ยวย่าติง (วันที่สอง) / นอนเต้าเฉิง
การเดินทางไปย่าติงจะเหมือนกับเมื่อวานค่ะ แต่วันนี้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมอีก เพราะตั๋วที่ซื้อเมื่อวานสามารถใช้เข้าอุทยานได้ 2 วัน เสียแค่ค่าบัสของอุทยานเพิ่มค่ะ
อุทยานย่าติง มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้แล้วค่ะ กับการเดินเขาที่อุทยานย่าติงไป-กลับ 10 กว่ากม. บนความสูงเกือบ 5,000 เมตร และออกซิเจนที่บางเบา โดยมีจุดมุ่งหมายที่ทะเลสาบน้ำนมกับทะเลสาบห้าสี แล้วก็มีแรงบันดาลใจเล็กๆ ว่าอาจจะมีโอกาสมองเห็นยอดเขาเอเวอร์เรสจากที่นี่ ถ้าท้องฟ้าเคลียร์…เอาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ?
วิวระหว่างทาง มันสวยมากกกกก เดินไปหยุดถ่ายรูปไป กับมิตรภาพระหว่างทาง เหนื่อยก็นั่งพักกินขนม แบ่งขนมให้ชาวบ้านที่ทำงานทำถนนให้พวกเราได้เดินสะดวกขึ้น ทักทายคนที่เดินสวนมาให้กำลังใจกัน เมื่อเจอบรรยากาศนี้เราหายกังวลไปจนหมด เพราะก่อนหน้านี้อ่านรีวิวมาเยอะ ว่าส่วนใหญ่จะเดินหลง ไม่ค่อยมีคน ไม่มีป้ายบอกทาง เราว่าน่าจะเป็นช่วงที่หิมะตกบริเวณนี้จะกลายเป็นสีขาวหมดจนมองไม่เห็นทางเดิน แต่เรามาช่วงเดือนมิ.ย อากาศกำลังสบาย เป็นทุ่งหญ้าสีเขียวไม่มีหิมะ ก็จะเห็นเส้นทางชัดเจนไม่หลงแน่นอนค่ะ
Day : 6 เต้าเฉิง – แชงกรีล่า / นอนแชงกรีล่า
สำหรับวันนี้จะเกือบเหมือนเป๊ะกับรีวิววันที่ 3 แชงกรีล่า – เต้าเฉิงค่ะ เพราะเป็นขากลับเส้นทางเดิม วิวเดิม พักรถเหมือนเดิม ห้องน้ำเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือทางโหดกว่าเดิม เพราะเมื่อคืนฝนตกหนักมีหินสไลด์ลงมาตามถนน นั่งกระแทกจนจุกตลอดทางเลย
วิวระหว่างทาง ผ่านหุบเขา ภูเขาหิมะ หมู่บ้านทิเบต จะเห็นดอกไม้ป่า นาข้าวสีเขียวเหลือง ป่าสนสวยๆ ไปตลอดทางเหมือนขามาวันที่ 3 ค่ะ
ขากลับคราวนี้ คนขับจอดรถระหว่างทางตรงจุดวิวเทือกเขาสวยๆ ให้ได้ลงไปถ่ายรูปกันด้วยค่ะ
Day : 7 จงเตี้ยน (แชงกรีล่า) – เที่ยวธารน้ำขาวไป๋สุ่ยไถ / นอนหุบเขาเสือกระโจน
มีบัสจากแชงกรีล่าไปธารน้ำขาวไป๋สุ่ยไถ รอบเช้า 09:10 ใช้เวลา 3 ชม. ใช้เวลาเดินเที่ยวอีกประมาณ 1-2 ชม. ก็ทั่วล่ะ จากนั้นหาขอแชร์รถกับนักท่องเที่ยวจีนไปต่อที่หุบเขาเสือกระโจน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1:30 ชม. เสียค่าธรรมเนียมเข้าหุบเขาเสือกระโจน แล้วเข้าพักที่ Tina ‘s guesthouse
ธารน้ำขาวไป๋สุ่ยไถ เป็นธารน้ำไหลแบบขั้นบันได มีสีขาวของหินปูน ที่เกิดจากการตกสะสมตัวของสารละลายแคลเซียมคาร์บอเนต นักธรณีจะเรียกลักษณะหินปูนแบบนี้ว่า ทราเวอร์ทีน (Travertine) มักพบก่อตัวใกล้บริเวณน้ำพุร้อน เหมือนดังเช่นที่พบใน ปามุคคาเล (Pamukkale) ในประเทศตุรกีค่ะ
วิวระหว่างทาง จากธารน้ำขาวไป๋สุ่ยไถ ไปหุบเขาเสือกระโจนสามารถมองเห็นภูเขาหิมะฮาป๋า ภูเขาหิมะมังกรหยก และหุบเขาเสือกระโจน เป็นเส้นทางที่วิวสวยมากกกกก
Day : 8 เที่ยวหุบเขาเสือกระโจน – ลี่เจียง / นอนเมืองเก่าลี่เจียง
จาก Tina’s Guesthouse มีรถมาส่งตรงจุดที่จะเดินลงเขา ห่างไปประมาณ 3 กม. ฟรี ใช้เวลาเดินลงแม่น้ำและไต่เขากลับขึ้นมาประมาณ 3 ชม. จะมีเสียค่าธรรมเนียมตรงจุดที่เริ่มเดินกับตรงบันไดลิง แล้วกลับมาที่ Tina GH ขึ้นรถไปลี่เจียงมีวันล่ะรอบตอน 15:30 ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ถึงเมืองเก่าลี่เจียง เสียค่าธรรมเนียมเข้าเมืองเก่า เดินหาโฮสเทล เก็บกระเป๋า แล้วออกมาเดินเที่ยวเมืองเก่ากับหาทัวร์ไปภูเขาหิมะมังกรหยกในวันพรุ่งนี้ค่ะ
หุบเขาเสือกระโจน เป็นช่องหุบเขาเหนือแม่น้ำแยงซี มีความยาว 15 กิโลเมตร อยู่ในบริเวณที่แม่น้ำไหลผ่านระหว่างภูเขาหิมะมังกรหยกที่สูง 5,596 เมตร และภูเขาหิมะฮาป๋าที่สูง 5,396 เมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่น้ำไหลเชี่ยวและอยู่ใต้หน้าผาสูง 2,000 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า มีเสือตัวหนึ่งได้หนีการตามล่าจากนายพราน โดยกระโดดข้ามแม่น้ำที่จุดที่แคบที่สุด (กว้าง 25 เมตร) จึงเป็นที่มาของชื่อหุบเขา นอกจากนี้หุบเขาเสือกระโจนเป็นหนึ่งในหุบเขาเหนือแม่น้ำที่ลึกที่สุดในโลกอีกด้วยค่ะ
เมืองเก่าลี่เจียง เป็นเมืองโบราณอายุกว่า 800 ปี มีสถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแตกต่างไปจากเมืองโบราณอื่นๆของจีน เนื่องจากเป็นเมืองที่เป็นที่ตั้งรกรากของชาวหน่าซีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เมืองนี้ยังขึ้นชื่อว่าเป็น “เวนิสแห่งตะวันออก” และยูเนสโก้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย เมืองโบราณลี่เจียงยังคงรักษาความงามในอดีตไว้ได้เป็นอย่างดี มีทางเดินที่ปูด้วยหินอัดแน่น อาคารไม้แบบจีนโบราณ ลำธารที่ไหลผ่านเกือบทุกหลังคาเรือน และสะพานโค้งหินเก่าแก่สวยงามค่ะ
Day : 9 ซื้อทัวร์ one day trip หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน – ภูเขาหิมะมังกรหยก / นอนเมืองเก่าลี่เจียง
จากโฮสเทล รีเซฟชั่นจะเดินมาส่งตรงจุดนัดขึ้นรถทัวร์ ออกเดินทางจากเมืองเก่าลี่เจียง มีจุดจอดรถระหว่างทางเพื่อรับเสื้อกันหนาว ออกซิเจนกระป๋อง อาหารเบรค แต่เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนเยอะมากกกกกกก ทำให้กรุ๊ปเราได้คิวขึ้นกระเช้าภูเขาหิมะมังกรหยกตอนเย็นแพลนเที่ยวก็เลยเปลี่ยนมาเป็นหุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงินก่อน ต่อด้วยมาทานมื้อเที่ยงเป็น Hot Pot พร้อมการแสดงโชว์ แล้วก็ได้ขึ้นกระเช้าตอน 5 โมงเย็น!!! มีเวลาเดินอยู่บนเขาประมาณ 1 ชม.ครึ่ง จากกำหนดการจบทริปประมาณ 4 โมงเย็น กลายเป็น 2 ทุ่มครึ่งเลย
หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน หุบเขาแห่งนี้บริเวณยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี สามารถขึ้นไปบนยอดเขาได้โดยการนั่งกระเช้าขึ้นไป ส่วนบริเวณหุบเขามีแม่น้ำไหลผ่าน มีน้ำตกเล็กๆ น้ำในแม่น้ำจะเป็นสีฟ้าครามได้มาจากหิมะที่ละลาย จุดนี้ยังเป็นที่ยอดนิยมของหนุ่มสาวที่มาถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยค่ะ
ภูเขาหิมะมังกรหยก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองเก่าลี่เจียง เป็นภูเขาสูงที่ตั้งตระหง่าน มียอดเขาทั้งหมด 13 ยอดที่มีหิมะปกคลุมตลอดปีมีลักษณะคล้ายมังกร จึงถูกเรียกว่า ภูเขาหิมะมังกรหยก ยอดหลักคือ Shanzidu มีความสูงที่สุดถึง 5596 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งอยู่ในระดับเส้นละติจูดที่ต่ำที่สุดของซีกโลกทางด้านเหนือของเส้นศูนย์สูตร ถือเป็นภูเขาหิมะที่ใกล้ประเทศไทยที่สุดด้วยนะ
Day : 10 เก็บตกลี่เจียง – เที่ยวต้าหลี่ / นอนบนรถไฟนอนกลับคุนหมิง
เช้าตรู่เดินจากโฮสเทลในเมืองเก่าลี่เจียงไปสระมังกรดำ 1.4 กม. โชว์ตั๋วที่จ่ายตอนเข้าเมืองเก่าลี่เจียงไม่ต้องเสียค่าเข้าเพิ่ม เดินเที่ยวในวัดเสร็จแล้ว ก็ออกมาเรียก taxi ไปสถานีบัสลี่เจียง มีบัสไปต้าหลี่รอบ 09:30 ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ครึ่ง มาถึงสถานีรถไฟต้าหลี่ซื้อตั๋วนอนแบบ Hard Sleeper กลับคุนหมิง เหลือรอบเดียวคือ 20.50 นอกนั้นมีแต่ตั๋วนั่ง มีเวลาเที่ยวต้าหลี่อีกครึ่งวันค่ะ หลังจากนั้นกลับมาขึ้นรถไฟนอนแบบ Hard Sleeper กลับคุนหมิงใช้เวลาประมาณ 7 ชม.กว่าๆ
สระมังกรดำ ห่างจากตัวเมืองเก่าลี่เจียงไปทางทิศเหนือประมาณ 1.4 กม. มีพื้นที่ประมาณ 11,390 ตารางเมตร สระน้ำมังกรดำมีจุดเด่นที่ความใสของน้ำที่ใสราวกับมรกต นอกจากนี้ ภายในสวนยังมีการสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมของชาวฮั่น ทิเบต และน่าซี ไว้ด้วยกันค่ะ
วัดเจดีย์สามองค์ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองโบราณต้าหลี่ไปทางทิศเหนือประมาณ 1 กม. บริเวณด้านหลังของเจดีย์เป็นภูเขาชังซานที่สูงสง่างาม และด้านหน้าเป็นทะเลสาบเอ๋อไห่ที่สวยงามกว้างใหญ่ที่มีสมญานามว่าไข่มุกบนที่ราบสูง เป็นวัดที่กว้างใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีพระพุทธรูป ถึง 11,400 องค์ค่ะ
Day : 11 คุนหมิง – ดอนเมือง
มาถึงวันสุดท้ายของทริปแล้ว หลังจากหลับสบายบนรถไฟจากต้าหลี่ มาถึงคุนหมิงประมาณตี 4 เดินออกมาจากสถานีรถไฟจะมี taxi มากมายอยู่ด้านหน้า เรียกกลับสนามบินได้เลยค่ะ แต่ถ้ามีไฟล์ทบินช่วงบ่ายหรือเย็นยังสามารถเก็บตกในเมืองคุนหมิงได้อีกนะ
จบรีวิวฉบับย่อทริปจีน 11 วันแล้วค่ะ จริงๆมีรายละเอียดค่าใช้จ่ายและการเดินทางเยอะมาก จนคิดว่าน่าจะเขียนรีวิวออกมาเป็นตอน เพื่อเป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยตัวเองได้ และสำหรับทริปนี้เราเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียวด้วยนะ
และถ้าพูดจีนไม่ได้ เรามีคำแนะนำค่ะ “จะแบกเป้ไปเที่ยวเมืองจีนได้อย่างไร โดยไม่รู้ภาษาจีนสักคำ” ตามลิ้งค์นี้เลย https://www.chilljourney.com/tips-เที่ยวเมืองจีน/
ติดตามข้อมูล รีวิวการเดินทาง พูดคุยกับผู้เขียนได้ที่…
Fanpage : https://www.facebook.com/Mytravelholicdiary/
Instagram : https://www.instagram.com/my_travelholic_diary/
Instragram :@ChillJourneyTHติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::
Facebook Page : Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Youtube : ChillJourney
Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!