วังเวียงเป็นที่ฮิตติดลมบนของ Backpacker ชาวไทยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา … แต่ในรีวิวเขียนว่าให้นั่งรถทัวร์ไป โอ้ววววพับแผนไว้ก่อน ไม่อยากลำบากและนั่งรถนานขนาดนั้น พอได้ข่าวว่า AirAsia เปิดรูทบินลงเวียงจันทน์ก็มีความหวังขึ้นมา แต่พอหารีวิว… เห้ย!ทำไมไม่มีคนเขียนรีวิวไปวังเวียงด้วยวิธีบินไปลงที่เวียงจันทน์เลยฟะ ทั้งๆที่ค่าตั๋วเครื่องบินกับค่ารถทัวร์ก็ไม่ได้ต่างกันมากเลยนะ (ค่ารถไปกลับ กรุงเทพ-เวียงจันทน์ ก็ขา 900 บาทแล้ว) ในเมื่อไม่มีคนเขียนก็ลุยเองเลยแล้วกัน นี่ครับได้แผนนี้มา
สรุปแผนเที่ยว
Day1 : ดอนเมือง -> บินลงเวียงจันทน์ -> นั่งแท็กซี่ไปสถานีรถบัสสายเหนือ -> ต่อรถตู้ไปวังเวียง
Day2 : ไปตาม Day tour วังเวียงทั้งวัน ( ถ้ำจัง – ถ้ำน้ำ – ถ้ำช้าง – พายคายัค – บาร์น้ำ – บลูลากูน – ถ้ำภูคำ )
Day3 : ชิวอยู่วังเวียงครึ่งวัน -> นั่งบัสกลับไปเวียงจันทน์ -> เที่ยวเวียงจันทน์
Day4 : เที่ยวเวียงจันทน์ -> บินกลับดอนเมือง
เตรียมตัวและสิ่งควรรู้
- ใช้ภาษาไทยได้เลย คนลาวฟังออก
- ต้องใช้พาสปอร์ต แต่ไม่ต้องขอวีซ่า
- ใช้เงินไทยได้ แต่ควรแลกเงินลาว(กีบ)ด้วย ให้ถามเอาว่าคิดเงินไทยกี่บาท เงินลาวกี่กีบ อันไหนถูกกว่าจ่ายแบบนั้น
- ห้องพักที่วังเวียงไม่ต้องจอง ให้เดินหาเอาถูกกว่าจองผ่านเว็บเยอะมาก
- ฤดูกาลไทยเหมือนกันลาว ถ้าไปหน้าฝนก็เตรียมร่มไปด้วย
- ของแพงมาก!! อาหารและข้าวของที่ลาว นำเข้าจากไทย ดังนั้นแพงกว่าไทย 40%
- เรทเงินแลกที่สนามบิน / ธนาคาร ดีสุด
- ถ้ามีรถบัสให้นั่งบัสเอา ค่าแท็กซี่อย่างแพง
- ควรเอากล้องกันน้ำไปด้วย
- รถเวียงจันทน์ <-> วังเวียง มีออกทุกชั่วโมง
Day1 : ดอนเมือง-เวียงจันทน์-วังเวียง
เริ่มต้นทริปด้วยสนามบินดอนเมือง ตามที่ชิลบอกเราจะบินจากดอนเมืองไปลงที่วังเวียงกัน ไฟล์ท AirAsia ออกตอน 12:05 จะบินใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมง 20 นาทีก็จะมาถึงสนามบิน Wattay International Airport (VTE) ตอนเวลา 13:25
นั่งแป๊ปเดียวจริงๆพอลงเครื่อง (13:25) ก็ผ่าน ตม. ตามปกติ พอออกมาเราต้องทำ 3 สิ่งแบบรวดเร็ว
- ไปแลกเงิน บาท->กีบ แลกสักประมาณ 3,000 บาท (สำหรับ2คนใช้ในวังเวียง)
- ซื้อซิมมีให้เลือกเจ้าเดียว Unitel ราคา 180 บาทใช้ได้ 470 MB , 300 บาทใช้ได้ 2 GB
- นั่งแท็กซี่ไปสถานีรถบัสสายเหนือ (northern bus station) ติดต่อตรง Airport information หน่ะแหละราคาต่อไม่ได้ 300 บาท
รถแท็กซี่ของเรา
ผมมาถึงสถานีรถบัสตอน 13:50 ก็ไปติดต่อ Ticket office แหละว่ารถบัสไหนไปวังเวียงครับ เค้าบอกเนี้ยๆมีรถตู้ไปรอบ 14:00 จ่ายเงินบนรถตู้เลย 50,000 กีบ(215 บาท) ต่อคน ( รถบัสเกือบทุกสายที่ขึ้นเหนือจะผ่านวังเวียงหมดครับ ถ้ามาไม่ทันรอบ 14:00 แบบผมก็ถามพนักงานเอาแล้วกันขึ้นสายไหนได้ )
สภาพรถตู้ เหมือนบ้านเรานั่งสบายอยู่นะ 3 ชั่วโมง
นั่งฟังเพลงไป 3 ชั่วโมงก็จะมาถึงรถตู้จะจอดห่างจากตัวเมืองมาสัก 3 บล็อกถนน ให้เดินมุ่งหน้าเข้าสู่แม่น้ำ เดียวเราไปเดินหาที่พักกัน
อันนี้คือที่พักที่ผมเลือก เดินถามไปเรื่อยๆแหละอันนี้ 400 บาทครับ (น่าจะเรทหน้าฝน ถ้าหนาวหนาวอาจจะแพงกว่านี้หน่อย) ดูห้องและวิวแล้วเวิคมาก ที่นี่ชื่อ “เรือนพัก ชายคำ”
วิวตรงระเบียงห้องพัก งามมากกกก มองไปด้านล่างคือ Thavonsouk Hotel & Resort ( เดียวไปพักพรุ่งนี้เพราะจองในเน็ตมาล่วงหน้ากลัวเต็ม )
หลังจากนั้นก็เดินเล่นในเมืองครับ เมืองวังเวียงเล็กมากไม่ต้องมีแผนที่ เดินไปเรื่อยๆ และก็ถามราคา Day tour ไปเรื่อยๆด้วย ผมเจอเจ้าที่ถูกใจในราคาโอเคสุดที่ Vangvieng tour Co.,LTD (พิกัดอยู่ใกล้กับ Sakura bar ) โปรแกรม ถ้ำจัง – ถ้ำน้ำ – ถ้ำช้าง – พายคายัค – บาร์น้ำ – บลูลากูน – ถ้ำภูคำ ได้มาในราคา 120,000 กีบ ( 515 บาท )
วังเวียงตอนค่ำไม่คึกคักมากนัก ถ้าไม่ไปผับ 4 ทุ่มก็เข้านอนได้แล้ว
Sakura bar ผับดังสุดของวังเวียง ถ้ามาช่วง 2-3 ทุ่มจะดื่มฟรี แต่ถ้าจะเอาให้คึกคักก็เหมือนผับบ้านเราแหละ ดึกๆโน้น
Day2 : Day trip วังเวียง
โปรแกรมทั่วไปที่เค้าขายกันจะไม่มีถ้ำจัง แต่ผมซื้อเพิ่มมาอีกหน่อยทั้งหมดนี้ในราคา 120,000 กีบ (515 บาท) เริ่มวันก่อนคนอื่นด้วยการไปถ้ำจังทางทัวร์นัดมารับตอน 7:00 เรามาถึงหน้าถ้ำจังประมาณ 7:30 … แต่ถ้ำจังเปิด 8 โมง!! ณ จุดจุดนั้นเพื่อนร่วมทีมบอกจะเหวี่ยงคนขายทัวร์ฮ่าๆๆ แต่แถวนั้นมีบลูลากูนไปนั่งเล่นน้ำชิวกันไปก่อน
พอ 8 โมงนิดๆเจ้าหน้าที่ก็มาครับ จ่ายค่าเข้าคนละ 15,000 กีบ (65บาท) แล้วเราก็เดินขึ้นบันได สูงพอได้เหงื่อขึ้นไปชมถ้ำจังกัน
ด้านในถ้ำจังจะเป็นหินงอกหินย้อย ขนาดถ้ำที่เปิดให้เดินไม่ใหญ่นักใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาทีก็น่าจะครบ
ในถ้ำจังเดินไปสุดทางหนึ่งจะเจอปล่อยให้ออกไปชมวิวได้
ประมาณ 9 โมงนิดๆรถก็มารับเรากลับไปรวมกลุ่มกับคนอื่นเพื่อเริ่มโปรแกรมมาตรฐานกัน เริ่มจากการเดินผ่านทุ่งนาเพื่อไป Tubing ที่ถ้ำน้ำกันก่อน
Tubing เข้าถ้ำน้ำมันส์มากกกกก เราจะใส่ชูชีพนอนบนห่วงย่างแล้วสาวเชือกเข้าไปในถ้ำที่เต็มไปด้วยน้ำ พอผ่านคนอื่นก็จะตีน้ำใส่กันอย่างเกรียน แต่สนุกมาก
ขออภัยในถ้ำมืดเลยไม่ได้เก็บภาพข้างในมาให้ดู แต่รับรองว่าคุ้มค่า … พอออกจากถ้ำเราก็ทานข้าวกลางวันกัน (รวมในค่าทัวร์) เป็นข้าวผัด+ขนมปัง+บาบีคิวไก่ 2 ไม้ จากนั้นก็มานั่งเล่นน้ำกับเพื่อนๆ เจอเพื่อนคนไทยใหม่อีกหลายคนที่ซื้อทัวร์มาด้วยกัน
จากนั้นก็เดินกลับผ่านทุ่งนาเส้นทางเดิม ไกด์พาไปแวะถ้ำช้างแป๊ปหนึ่ง… ที่ผมชี้นั่นแหละเล็กจิ๊ดเดียว = =”
กิจกรรมต่อไปคือไปพาย Kayak ระยะทาง 8 กิโลเมตร คายัคพายไม่ยากเดียวไกด์สอนให้ พวกของที่ไม่กันน้ำฝากไว้ในรถเลย แม้จะไม่ยากแต่ก็คว่ำมาแล้ว 555
หลังภาพนี้ไม่นาน มัวแต่ Selfie ไงลืมดูว่าข้างหน้ามีกิ่งไม้ …. หักหลบไม่ทัน โครมมมมมมมมมมมม คายัคคว่ำจ้า 555
พายไปได้ประมาณ 5 กิโลจะมี บาร์น้ำ เป็นบาร์ริมน้ำเปิดเพลงตื้ดๆ EDM และขายเบียร์ขายข้าวไรงี้ สนุกดี
แล้วก็พายต่อไปเรื่อยๆจนครบ 8 กิโล แล้วขึ้นรถไปบลูลากูนกันต่อเป็นโปรแกรมสุดท้าย
.
.
บลูลากูนเป็นที่ๆน่าจะดังสุดของวังเวียงเลยครับ สระน้ำบลูลากูนไม่ใหญ่หนักที่มีชื่อว่าบลูลากูน เพราะถ้าฝนไม่ตกน้ำจะใสเป็นสีฟ้า นักท่องเที่ยวจะโดดน้ำวัดใจกันจากต้นไม้ (แต่วันที่ผมไปฝนตกหนักสีเลยไม่สวยแบบหน้าถ้ำจัง) เพื่อนผมบอกว่าถ้าอยากได้สีสวยๆให้มาหน้าหนาวนะ ใครอยากโดดน้ำวัดใจก็ปีนบันไดลึกขึ้นไปเลย แน่นอนว่าผมโดดมาถึงแล้วยังไงก็ต้องลอง !
ได้โดดน้ำบลูลากูนให้เสียวไปสักรอบก็ดี หรือถ้าใครใจไม่ถึงก็มายืนเป็นกองเชียร์ก็ได้ มีคนหลายคนพอขึ้นไปยืนข้างบนแล้วขาสั่นไม่กล้าโดดก็ได้พวกกองเชียร์นี่แหนะนับ 3333 2222 1111 บิ้วให้โดด สนุกดี
ใกล้ๆกันกับบลูลากูนจะมีถ้ำภูคำ ด้านบนไม่มีไฟในถ้ำครับมืดมาก แนะนำให้เช่าไฟติดหมวกที่ทางขึ้นแล้วเดินขึ้นไปประมาณ 20 นาที (ทางค่อนข้างชัน) ภายในก็ผมว่าไม่มีอะไรเด่นนะ ถ้ามีเวลาเหลือก็มา ไม่มีเวลาเหลือก็ไม่ต้องก็ได้
โอเคไกด์ให้เวลาถึง 5 โมงเราก็กลับถึงที่พักประมาณ 6 โมงหน่ะแหละ จากนั้นก็เดินเล่นหาข้าวกินในวังเวียงไป ใครจะไปตื้ดที่ซากุระบาร์คืนนี้ก็จัดเต็มไปเลย คืนสุดท้ายที่จะอยู่วังเวียงแล้วนะ
Day3 : วังเวียง-เวียงจันทน์
เมื่อคืนย้ายมานอนที่ Thavonsouk Hotel & Resort ราคาห้อง 1,100 บาท นอนได้ 2 คน ที่พักห้องไม่อยู่ริมน้ำนะ แต่ตัวรีสอร์ทอยู่ริมน้ำเลยก็เดินไปถ่ายรูปชิคๆคูลๆได้ ตัดสินใจกันเองแล้วกันว่าคุ้มหรือเปล่า คือตอนที่ผมจอง ผมว่าก็ไม่แพงนะเทียบกับโฮสเทลที่ยุโรปคืนละพัน อันนี้พักได้สองคนติดริมแม่น้ำด้วย (แต่วิวเดียวกันกับ 400 เมื่อคืนไงเลยรู้สึกแพง) ถ้าใครกลัวเต็มจะล่วงหน้าจองลิงค์นี้ >> https://goo.gl/s3shaO
เช้านี้ที่วังเวียงก็ไม่มีอะไรมากครับ ตื่นสายๆ เดินเล่นในเมือง กินเฝอ กินโรตี และก็นั่งเล่นริมน้ำ
พอ 11:30 รถตู้รอบเที่ยงที่จองไว้แต่เมื่อคือ(จองร้านเดียวกะทัวร์) ก็เรากลับเวียงจันทน์ก็จะมารับกลับนครหลวงเวียงจันทน์ นั่งไป 3 ชั่วโมงเหมือนขามาก็จะมาถึง เค้าจะจอดที่สถานีรถบัสสายเหนือ ให้นั่งรถบัสสาธารณะเข้าเมือง ศูนย์กลางเมืองเวียงจันทน์ชื่อว่า “ตลาดเช้า” (รถบัสแบบในภาพ 5,000 กีบ หรือ 22 บาทเอง)
พอถึงตลาดเช้าก็เดินหาที่พักกัน ผมมาถูกใจที่พักอันนี้ Dokkret Guesthouse อยู่ใกล้ตลาดเช้าดีเดินทางสะดวก ห้องดีมาก เค้าจะมี 2 แบบ ห้องน้ำในตัว 650 หรือ ห้องน้ำรวม 550 บาท ผมว่าที่นี่ดีนะแนะนำ สามารถจองผ่านเว็บก็ได้ราคาถูกกว่านิดหน่อยด้วย >>> https://goo.gl/DaQw8A
จากนั้นก็เดินเล่นในเมืองเอาเหล่านี้เป็นสถานที่ยอดฮิตของเวียงจันทน์นะครับ สามารถเดินได้หมดเลยจากตลาดเช้า ยกเว้นวัดพระธาตุหลวงอันเดียวที่ต้องนั่งรถนะ
- ตลาดเช้า
- หอคำ
- วัดพระแก้ว
- วัดสีเมือง
- อนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์
- ประตูชัย
- Night market ( อยู่แถวสวนที่มี อนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์ )
- พระธาตุหลวง*
หมายเหตุ : วัดเปิด 8 โมงปิดประมาณ 4 โมง ดังนั้นวันแรกถ้ากลัวมาตอนเที่ยงแบบผมไม่ต้องไปวัดเลยครับวัดปิด
หอคำ
ประตูชัย
เพดาน ในประตูชัย สวยมาก
จบจากประตูชัยแล้วแนะนำให้เดินย้อนกลับไป Night market แต่วันที่ผมไปฝนตกนะเค้าเลยไม่มาขายของกัน
Day4 : เวียงจันทน์ – ดอนเมือง
วันนี้เราตื่นแต่เช้าหน่อยครับออกจากห้องพักประมาณ 7 โมงเพื่อไปเก็บบรรยากาศตลาดเช้า และเก็บตกวัดทั้งหลายที่เมื่อวานปิด
เดินวนในตลาดเช้าสักพักก็หมด ออกมาหาอะไรกิน วันนี้แผนเราคือไปเก็บที่ไกลก่อนคือ วัดพระธาตุหลวง แล้วค่อยกลับมาเก็บวัดในเมืองที่เหลือ ระหว่างกินโจ๊กแถวตลาดเช้าก็ถามคนลาวแถวๆนั้นว่านั่งรถบัสสายอะไรได้ไปได้ เค้าบอกมันไปยากนะถ้านั่งบัส ขึ้นตุ๊กๆไปดีกว่าคนละ 15,000 กีบ (65บาทต่อคน) … แต่คุยไปคุยมาสงสัยพี่เค้าสงสาร เค้าบอกเอ้าเดียวไปส่ง สรุปผมเลยไม่เสียเงิน ^^
พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี (ลาว: ທາດຫລວງ หรือ ลาว: ພຣະທາດຫລວງ) นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งเวียงจันทน์ และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออก สถานที่นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างของประเทศลาว ดังปรากฏว่าตราแผ่นดินของลาวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีรูปพระธาตุหลวงเป็นภาพประธานในดวงตรา
เดินชมจนทั่วแล้วก็นั่งรถกลับครับ ระหว่างเดินๆหารถบัสอยู่ก็มีตุ๊กๆมาชวนกลับตลาดเช้า แบบรถแบบไม่เหมานั่งรวมกะคนลาว ต่อรองมาได้ 2 คน 15,000 กีบ (65บาท) โอเคราคาไม่แพงนักไปก็ไป ( คนลาวก็คิดว่าคนไทยเป็นนักท่องเที่ยวแหละครับ เค้าจะคิดเรทแพงกว่าคนลาวกันเองค่อนข้างเยอะ )
พอกลับมาถึงแถวใจกลางเมืองก็เดินครับ เดินเก็บตกสถานที่เหลือ เริ่มจากวัดสีสะเกต
และเดินวนไปริมโขงอีกครั้งเพื่อถ่ายภาพอนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์
จากนั้นก็กลับไปขนของจากที่พักขึ้นรถบัสไปสนามบินกัน ค่าแท็กซี่เหมาไปสนามบินอยู่ที่ 50,000 กีบ(215บาท) ครับ แต่พวกเราจะนั่งรถบัสไป ขึ้นแถวตลาดเช้าครับ อย่าถามว่าไปสนามบินนะเค้างง ถามว่าไป “วัดไตย” เค้าจะแนะนำให้ครับมีหลายสายที่ผ่าน อ้อ…ขนมปังฝรั่งเศสใส่ไส้แถวตลาดเช้าอร่อยมาก 5,000 กีบ (22 บาท) เองเราฝากท้องกะอันนี้หลายรอบ
ขึ้นรถบัสมุ่งหน้าสู่ สนามบินวัดไตย ค่ารถคนละ 5,000 กีบ (22บาท) นั่งไม่นานครับรถก็จะมาจอดป้ายหน้าสนามบิน(บอกคนขับไว้ก่อนเลย) จากนั้นเดินเข้าไปอีก 500 เมตรก็ถึงตัวอาคารแล้ว เค้าเตอร์ check-in AirAsia จะอยู่ช่อง 15-17 ครับเราก็ไปเช็กอินกัน กินขนมปังที่ซื้อมาจากตลาดเช้าเป็นมื้อเที่ยงและบินกลับไทยเวลา 14:15 และจะถึงเวลา 15:35 ครับเป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจพิชิตลาว
สำหรับทริป เวียงจันทน์-วังเวียง 4 วัน 3 คืนแบบบินไปไม่ลำบาก ก็จบลงเท่านี้ ลาวเที่ยวง่ายมากๆ ยิ่งบินไปยิ่งง่ายไปอีก เที่ยวลาวใช้เงินไม่มากเลยครับ แต่ถ้าใครมีเวลามากกว่านี้อีกสัก 1-2 วันผมขอแนะนำให้นั่งรถต่อจากวังเวียงไปเที่ยวหลวงพระบางด้วยเลย แล้วบินกลับไทยจากหลวงพระบางเอาเพราะทาง AirAsia เค้าก็มีบินตรงจากหลวงพระบางเช่นกัน ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีครับ
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งทริป (ต่อคน)
กีบ | บาท | |
ค่าเครื่องบิน | 2,050.00 | |
ทัวร์วังเวียง | 120,000 | 515.00 |
ข้าว 9 มื้อ | 600.00 | |
ค่ารถไปวังเวียง | 50,000 | 215.00 |
ค่ารถกลับเวียงจันทน์ | 50,000 | 215.00 |
Taxi ไปท่ารถบัส | 150.00 | |
ค่าซิมการ์ด | 180.00 | |
ค่าห้องวังเวียง 2 คืน | 400.00 | |
ค่าห้องเวียงจันทน์ 1 คืน | 275.00 | |
ค่าเข้าและอื่นๆ | 400 | |
รวม | 5,000.00 |