Backpacker 101 วิชาท่องโลก : บทที่ 1 การวางแผน

ขอเขียนให้สำหรับคนที่กล้าๆกลัวๆ ดูรายการท่องเที่ยวในแบบ backpacker เช่น หนังพาไป , สองข้างทาง แล้วรู้สึกว่ามันเจ๋งอะ อยากทำบ้าง เกิดมีชีวิตหนึ่งต้องทำให้ได้สักครั้ง ผมสังเกตจากเพื่อนในเฟสบุ๊คมักจะมีคำนี้มาก “สักครั้งในชีวิต”

แต่พอคิดไปคิดมา ก็เริ่มกลัวเพราะเชื่อว่า

1. ภาษาอังกฤษเราก็ไม่คล่องจะรอดไหม ถ้าคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องเลยมันจะรอดเหรอ
2. ถ้าตกเครื่องจะทำอย่างไร จะกลับไทยได้ไหม แค่คิดก็สยองแล้ว
3. จะเตรียมตัวยังไง ต้องทำอะไรบ้าง จะข้ามเมืองไปโน้นยังไง จะหาข้อมูลยังไง
4. เฮ้ยต้องขอวีซ่าเองด้วยเหรอ ปกติส่งแต่ passport ไปทัวร์จัดการให้หมดเลยนะ
5. ลองกดดูตั๋ว พร้อมที่พัก โหแค่สองอย่างนี่ แพงกว่าไปกับทัวร์แล้วนะ ยังไม่นับ ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าเดินทาง อื่นๆอีก

สุดท้ายซื้อทัวร์ดีกว่า… แล้วก็วน loop กลับไปคำเดิม “สักครั้งในชีวิต”   

แล้วพอถึงอายุหนึ่งที่ร่างกายไม่สามารถลุยได้แบบนี้ก็บอกว่า “ฉันแก่แล้ว”  ก็ไม่ได้ทำสักที

ผมว่า 99% ของทุกคนต้องมีความคิดแบบนี้  ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนั้นมาก่อน  วันนี้จะมาเขียนเหมือน Beginner guide ให้แล้วกัน

เอาตามประสบการณ์ของผม มั่วๆซั่วๆของผมแต่ก็รอดทุกครั้งแหละ concept การเที่ยวของผมคือ ” Low cost and Well plan ”

แปลเป็นไทยง่ายๆก็คือ ข้อมูลแน่น แผนเป๊ะ ในราคาประหยัด ถามว่า backpacker ควรจะเที่ยวแบบไม่มีแผนสิ อันนี้ไม่จริงครับผมว่านิยามของ backpacker น่าจะแค่เราไปด้วยตัวเอง วางแผนเองตัดสินใจเองแค่นั้นพอ   ทำงานแล้วเวลามีจำกัดจะให้เที่ยวแบบล่องลอยคงทำไม่ได้

Ep 1 : การวางแผน

ขอเริ่มเขียน Episode 1 ด้วยการวางแผนแล้วกัน หลายคนตายตั้งแต่จุดนี้ พอวางแผนแล้วมึนไปหมด สุดท้ายกลับไปซื้อทัวร์เหมือนเดิม

Step 1 : เลือกประเทศ/จังหวัดโดนใจ

ผมเชื่อว่าคุณทั้งหลายต้องมีประเทศในฝันกันบ้างแล้วหล่ะ อย่างผมก็จะมี 5-6 ประเทศที่อยู่ในใจ ให้เลือกมาสักหนึ่งประเทศที่รู้สึกว่า มันไม่ยากเกินเอื้อม  เช่น  บางคนอาจใฝ่ฝันที่จะไปเห็นแสงเหนือที่ Iceland แต่มันยากไปไหม? ใช้งบเยอะไปไหม? เอาไว้ทริปถัดไปดีกว่าไหม

ผมแนะนำให้เริ่มในเอเชียก่อน ยกตัวอย่างง่ายๆว่า ญี่ปุ่นแล้วกัน ถ้าญี่ปุ่นเป็นประเทศในฝันของคุณ ก็เริ่มหาข้อมูลเลย ว่าญี่ปุ่นเค้าไปเที่ยวอะไรกัน ดูอะไรกัน นั่งอ่านรีวิวดีๆสักวันสองวัน  คุณก็จะได้ไอเดียแล้วหล่ะ ว่าอยากไปไหนบ้าง

ช่วงโฆษณา : [CR]+++Chill’s Journey : ‘ชวนแม่ แบกเป้เที่ยว’ ญี่ปุ่น 10 วัน จากโตเกียวถึงโอซาก้า+++

Step 2 : กำหนดสถานที่ ลงในแผนที่

พอคุณได้สถานที่ในฝันมาแล้ว เราต้องวางแผนต่อด้วยการเปิด Google map ขึ้นมาเลยครับแล้วปัก สถานที่เหล่านั้นเข้าไปให้ครบ ทีนี้เราก็จะรู้แล้วหล่ะ ว่ามันเป็นไปได้ไหม แต่ละที่มันไกลกันแค่ไหน   และเราควรเดินทางอย่างไรไม่ให้ย้อนไปย้อนมา มีหลายคนถามว่าผมแพลนยังไง จะจัดแผนยังไงดี วันนี้ผมมีเคล็ดลับมานำเสนอ    ตัวช่วยสำคัญของผมคือ Google map แต่เราจะใช้ Feature ที่ดีกว่าของธรรมดาที่เรียกว่า map engine lite  และที่สำคัญ “ฟรี” เช่นเคย

ก่อนที่ผมจะไปเที่ยวทุกครั้งผมจะวางแผนด้วยการใช้ GoogleMap สร้างแผนที่ส่วนตัวขึ้นมาเสมอซึ่งมีประโยชน์มากๆ แผนที่ที่เราสร้างเองย่อมเข้าใจง่ายกว่าที่เค้าแจกมากๆเพราะว่าเราสามารถใส่เฉพาะที่ๆเราจะไปลงไปใน map ได้ อย่างนี้ก็ไม่ต้องกลัวหลงแล้วหล่ะ

ลองดูตัวอย่างแผนที่ ที่ผมสร้างเพื่อเตรียมไปเที่ยวญี่ปุ่นนะครับ

วิธีใช้งานก็เริ่มจาก  เข้าที่เว็บ https://mapsengine.google.com/map/ ครับ

1. ให้ทำการเลือก “Create a new map”

2. เมื่อสร้าง map ของเราใหม่ได้แล้วจะพบกับหน้าจอดังนี้ครับ

3. ก่อนจะสร้าง map ขึ้นมาจะต้องมีสถานที่ๆเราจะไปทั้งหมดในใจก่อนนะครับ แล้วก็พิมพ์ลงไปเลย ปักทุกที่ในใจให้หมดเดียวค่อยลบทีหลังได้   ตัวอย่างเช่น ผมจะเริ่มจาก kyoto station ผมก็พิมพ์ลงไป google นี่ฉลาดมากพิมพ์ไปนิดเดียวระบบจะขึ้น suggestion มาให้เลย ในตัวอย่างนี้ผมเลือก kyoto station  คลิกได้เลยครับ

4. ระบบจะแสดงจุดที่เราคลิกตากี้บนแผนที่ ให้เราคลิกที่ “Add to map” เอาจุดนี้ไปเก็บไว้ในแผนที่่ส่วนตัวของเราครับ

5. ปักจุดต่อไปที่เราตั้งใจจะไป เช่น ผมจะไปวัดน้ำใส เราต้องหามาก่อนนะชื่อสากลเค้าชื่ออะไร ผมก็ถามจาก google เหมือนเดิมได้ชื่อมาว่า “Kiyomizu-dera” พิมพ์ลงไปเลยครับ

6. วิธีการเพิ่มสถานที่อื่นๆก็ให้ทำตามขั้นตอน 4-5 ไปจนครบ เราก็จะได้แผนที่ส่วนตัวมาแล้วครับ เห็นจุดแดงๆทางด้านซ้ายไหมครับ แผนที่ผมเสร็จแล้วผมเพิ่มไปทั้งหมด 3 อัน

ข้อดีของการทำ map เองที่เห็นได้ชัดคือเราวางแผนได้ง่ายขึ้นมากจุดไหนใกล้กัน ทิศเดียวกันผมจะเที่ยวไปทีพร้อมๆกันจะได้ไม่เสียเวลาเดินทางไปๆมาๆครับ

7. เราสามารถเปลี่ยนสี เปลี่ยนรูปแบบของ ตัวหมุด รวมถึงแก้ชื่อที่ปักได้ด้วยครับทำตามนี้นะ

– ให้ไปที่จุดที่จะแก้ไข เลือกปุ่มที่เหมือนกันขวดสีด้านหลังครับ

– จากนั้นอยากเปลี่ยนสีเปลี่ยนรูปร่างยังไงก็เชิญตามใจชอบ

– สังเกตุจากภาพ ผมแก้วัดน้ำใสเป็นสีเขียว และรูปดาวเรียบร้อย ตอนนี้ผมจะมาเปลี่ยนชื่อนะครับ
ให้คลิกที่ จุดที่จะแก้ไข แล้วกด ปุ่มดินสอครับ

พิมพ์ลงไปเลยชื่ออะไร ใส่ข้อความเพิ่มเติมได้ด้วยนะครับ

8. แผนที่นี้สามารถแชร์ให้เพื่อน ให้คนรู้จัก หรือแม้จะ public ก็ได้ด้วยนะครับ

Step 3 : กำหนดแผนคร่าวๆลง Template

หลังจากได้แผนมาแล้วก็จัดวันเที่ยว กรอกใส่ Template   ผมแจก template ที่กรอกข้อมูลไปญี่ปุ่นเลยแล้วกัน แผนเที่ยวนี่ นี่พาผมไปมาแล้วเกือบสิบประเทศ ใช้ได้ดีมากเลยครับ ( ลอกมาจากพี่ที่รู้จัก แล้วเอามาปรับอีกที ^^ )

Download : ChillJourney-JapanTrip   , password unlock workbook คือ ChillJourney

ลองดูตาม Template ก็กรอกไปครับ แนะนำให้พิมพ์เป็นภาษาอังกฤษเผื่อเราหลง หรือเอาไปยื่นวีซ่า ยื่นเข้าประเทศจะได้ให้เค้าดูได้เลยไม่ต้องแปลอีกรอบ แต่ถ้าใครภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง ภาษาไทยก่อนก็โอเคครับ วิธีหาข้อมูลผมก็ Google แหละครับ

ส่วนใหญ่จะอ่านจากพันทิป แต่ถ้าไม่มีข้อมูลในพันทิปก็จะหาเอาจาก Tripadvisor   รีวิวในนั้นส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษแต่ข้อมูลค่อนข้างครบถ้วนเลยครับ มักมีรีวิวสถานที่แปลกๆที่หาไม่ได้จากรีวิวคนไทย อ่านรีวิวไป เปลี่ยนไป ตัดไป สุดท้ายก็จะได้แผน Final ออกมาว่าเราจะไปไหนบ้าง ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร

Step 4 : จองตั๋วถูก !

เว็บที่ผมใช้ประจำคือ www.skyscanner.com

เริ่มจาก Skyscanner ก่อนเว็บพวกนี้ดีมากคือ มันจะไปค้นหาทุกเว็บ agency มาให้เลยว่าเจ้าไหนถูกสุด  วิธีใช้ก็คือใส่ต้นทาง กับ ปลายทาง แล้วกด ค้นหา เท่านั้นเองครับ  ถ้ายังไม่ถูกก็เฝ้าไปเรื่อยๆ เข้ามาดูวันละครั้งว่ามันถูกพอใจรึยัง 

อีกเว็บหนึ่งที่ดีกว่า เพราะสามารถหาตั๋วได้ถูกโคตรๆๆๆ ด้วยวิธีการ multicity

เข้าที่ www.kayak.com
1. คลิกที่แถบ Multicity
2. ใส่จุดเริ่มต้นเป็น SGN (โฮจิมิน) หรือ SIN ( สิงคโปร์ )
3. ใส่ปลายทาง
4. ใส่ขากลับปลายทางเป็น BKK

จากนั้นกด Find flight ได้เลยแล้วจะพบกับตั๋วราคาถูก ไปยุโรปแถวๆ 17,000-20,000 ในขณะที่ TG 38,000++

ครบ 4 Step แล้วแผนเป็นอันเสร็จสมบูรณ์สบายใจได้ เห็นไหมครับว่าวางแผนเองไม่ยากอย่างที่คิด ถ้าเรามัวเอาแต่พูดว่า “สักครั้งในชีวิต” แต่ไม่ลงมือทำสักที มันก็จะมีแต่สักครั้งในชีวิตไปเรื่อยๆหล่ะครับ

อ้อ… ทำข้ามขั้นตอนได้นะ ปกติผมมักเริ่มจากข้อ 4 ก่อนเจอตั๋วโปรโมชั่นของประเทศในใจอันไหนก็ไปอันนั้นแหละ แล้วค่อยหาข้อมูล แต่ไม่ดีตรงทีตั๋วโปรมักจะเปลี่ยนวันเดินทางไม่ได้ บางทีพอวางแผนแล้วเวลาไม่พอ ตัดเมืองโน้นเมืองนี้ออกกระหน่ำ เสียดายมาก เอาเป็นว่าถ้ามีเวลาก็เริ่มจาก Step 1 ละกันครับ

ติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::

Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!