Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

มนุษย์เงินเดือนท่องโลกปี 2 : เที่ยวจนชีวิตเปลี่ยน 1 ปี 11 ประเทศ 17 เที่ยวบิน [ Chill Journey ]

 

.        สวัสดีครับกลับมาอัพเดทอีก 1 ปีหลังจากปีที่แล้วผมเขียนเรื่อง  “บันทึกมนุษย์เงินเดือนท่องโลก : 2 ปี ทำงานประจำ เรียนโท และท่องเที่ยว 10 ประเทศไปพร้อมกัน” ใครขี้เกียจย้อนกลับไปอ่าน คืองี้ครับ จขกท.เป็นมนุษย์เงินเดือนทำงานออฟฟิศเนี้ยแหละ ทะลึ่งไปลงเรียนปริญญาโทภาคพิเศษที่เรียนเสาร์อาทิตย์มา พอเรียนแล้วก็เครียด เครียดแล้วเลยออกไปเที่ยว พอเที่ยวแล้วก็รู้สึกว่ามันใช่ตัวเอง เลยเที่ยวรัวๆ เที่ยวกันจนชีวิตเปลี่ยน

 

“นี่มึงยังทำงานอยู่ป่ะเนี้ย” 

“นี่มึงอยู่ไทยหรือเปล่า?” 

คือคำถามที่เพื่อนเจอหน้ากันมักถามประจำ คำตอบที่ตอบกลับไปทุกครั้งคือ

“เฮ้ยทำดิวะ ไม่ทำแล้วจะเอาอะไรแหลก ตอนทำงานกุไม่ได้โพสป้ะวะ”

 

.        ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือปีนี้ตั้งแต่หลังเดือน 3 ที่เรียนจบแล้วก็เลยมีเวลาให้กับชีวิตมากขึ้นครับ เสาร์อาทิตย์ไหนว่าง เวลาลงตัวใครชวนไปไหนก็ไป ใกล้ไกลไปหมด มีเวลาเขียนบล็อคมากขึ้น และทุกวันหยุดยาวก็เตร็ดเตร่ไปออกล่าท้าฝันต่างประเทศบ้าง แต่แล้วชีวิตหลังจากเดือน  พค.ผมก็เริ่มเปลี่ยนไป… เรียกว่าเที่ยวจนชีวิตเปลี่ยนเลยก็ว่าได้ครับ

 

.        วันนี้เลยมาเล่ากันมันส์ๆมาสรุปว่าปี 2015 นี้ผมได้ไปไหนมาบ้าง เที่ยวกันจนชีวิตเปลี่ยนมันเป็นยังไง เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจ หรือใครจะสนใจทริปไหนก็ตามรอยกันนะครับ กระทู้นี้อาจจะไม่ได้เขียนสาระอะไรมาก ไม่ได้มารีวิว เน้นเล่าชีวิต และ อวดภาพซะมากครับ

 

เริ่มปีด้วยการเที่ยว

.        เค้าบอกว่าปีใหม่เริ่มต้นด้วยอะไรจะได้สิ่งนั้น 555 ปีใหม่พาที่บ้านไปแบกเป้ทั่วไต้หวันมา 9 วันมาก็สนุกดีประทับใจมากครับ ประทับใจจนอยากกลับมาเล่า มาบอกต่อ พอเขียนรีวิวแล้วก็ได้รับการตอบรับดีมากๆ  คนไปเที่ยวไต้หวันตามเยอะมากก็ดีใจครับ ทุกวันนี้ไม่ค่อยได้เขียนอะไรเกี่ยวกับไต้หวันแต่คนก็ยังเข้าเว็บมาหาเรื่อยๆ น่าจะเป็นทริปที่หลายๆคนเริ่มรู้จัก Chill Journey ( นามปากกา )

review : https://www.chilljourney.com/category/travel/asia/taiwan/

Process-1807

 

.         หลังจากทริปนั้นเป็นช่วงชดใช้กรรมครับ จขกท.เรียน MBA ไงก่อนจะจบก็ต้องทำ IS ( คล้ายๆวิทยานิพนธ์ ) และอ่านหนังสือเพื่อสอบ Comprehensive exam และเตรียมตัวสอบ Present  กับอาจารย์ที่ปรึกษาและคณะกรรมการ  ผนวกรวมกับการทำงานประจำไปด้วยวุ่นวายมากครับ และที่สำคัญกบดานเก็บเงินเพื่อเตรียมพร้อมสู่ความฝันคือทริป สวิส-อิตาลี ที่เป็นการฉลองเรียนจบช่วงสงกรานต์

 

ฝันเป็นจริงที่สวิสเซอร์แลนด์

.       การแบกเป้ไปยุโรปนี่เป็นความฝันของใครหลายคนรวมทั้งผม… หลายๆคนคงได้ผ่านตากับรีวิว “ลาไปตามหาฝัน สวิส-อิตาลี” ของผมมาบ้าง  เป็นการแบกเป้ไปยุโรปครั้งแรกในชีวิตโดยผมเลือกประเทศที่อยากไปที่สุดคือ สวิสเซอร์แลนด์ 5 วัน และ บวกเพิ่มไปอีก 10 วันในอิตาลี

.       การไปยุโรปถ้าเทียบกับรายได้ที่ผมมีนั้นออกจะยากสักหน่อย ดังนั้นผมจึงต้องเก็บเงินเป็นเวลานาน ผนวกกับส่วนหนึ่งของโบนัสทำให้ผมสามารถไปได้  ก่อนไปผมคำนวณค่าใช้จ่ายด้วยโจทย์ที่ว่า

ต้องมีเงินเท่าไหร ถึงไปสวิตและอิตาลีแบบจนสุดๆได้วะ?”

.        พอได้ไปผมรู้สึกดีมาก เป็นทริปที่ฟินสุดๆในชีวิตของผมเลยครับ การได้ไปเห็นเมืองสวยๆที่เคยฝันไว้ เที่ยวแบบไม่เร่งรีบเกินไป ไม่ต้องทำ 6-7-8 ได้หยุดถ่ายรูปในจุดที่อยากถ่าย  ได้ทำอะไรที่อยากทำ แบกเป้ใบโต ไปกับกล้องคู่ใจ นอนโฮสเทล เม้ามอยกับเพื่อนต่างชาติ มันสุดๆ
review :

  1. https://www.chilljourney.com/2015/04/29/swizitalyoverview/
  2. http://pantip.com/topic/33698817
  3. https://www.chilljourney.com/2015/08/25/zermatt-2015/
  4. https://www.chilljourney.com/2015/10/04/italypart1/
  5. https://www.chilljourney.com/2015/10/18/italypart2/

 

ก่อร่างสร้างตัว

            ชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากกลับทริป สวิส-อิตาลี … กลับมาแป๊ปหนึ่งพอเดือน พค. ก็มีคนผ่านมาเห็นฝีมือการถ่ายรูปและการเขียน ผมได้รับชักชวนให้เขียนรีวิวเพื่อช่วยโปรโมทประเทศไทยในหลายๆเส้นทาง เช่น กระบี่ และ ร้อยเอ็ด  ซึ่งเป็นการเที่ยวที่ผมไม่ได้ออกเอง 100% ครั้งแรก มีตั๋วเครื่องบินให้และค่ากินอยู่เล็กๆน้อย

ร้อยเอ็ด : http://pantip.com/topic/33839211

กระบี่ : https://www.chilljourney.com/2016/01/25/krabi-7greens/

 

.       ต่อเนื่องถึงเดือน มิถุนายน ผมได้รับเชิญเข้าโครงการ “The Amazing Journey Blogging Contest” คือโครงการที่มีจุดประสงค์หลักคือให้ Blogger ท่องเที่ยวประเทศไทยมาช่วยกันเขียนรีวิวโปรโมทประเทศไทย ผ่านเมืองต้องห้ามพลาดทั้ง 12 เมือง โดยผมได้ร่วมทีมกับฟลุ๊ค ( สองเท้า-เกาโลก ) ไปทำรีวิวจังหวัดสมุทรสงครามกันครับ ซึ่งตอนแรกเราหวังไว้เยอะนะ อยากไปไกลๆจังหวัดปังๆ แต่จับฉลากทีมแรก ได้จังหวัดใกล้สุดเลย 555 จริงๆทริปนี้เราไม่ได้คาดหวังรางวัลกันหรอกครับ ได้ทำสิ่งที่รักและได้ทำเพื่อโปรโมทประเทศไทยที่เคยคิดไว้ตั้งแต่เด็กๆก็ดีใจสุดๆแล้ว

review : http://pantip.com/topic/34012903/

มาไกลเกินฝัน

.        ต่อเนื่องในเดือนถัดไป กรกฎาคม ระหว่างนั่งรถกลับบ้านผมจำได้แม่นตอนเวลาประมาณ 1 ทุ่มผมได้รับ E-mail ปริศนาที่ทำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหว่ะ

.        “ในนามของสายการบิน Qatar ร่วมกับการท่องเที่ยวสเปน ขอเชิญคุณชิลร่วมเดินทางไปสเปนในฐานะสื่อออนไลน์ กรุณาตอบกลับ ภายในวันนี้นะคะ”  ถ้าเพื่อนๆเป็นผมจะใจสั่นไหมครับ?? ผมอ่านแล้วขยี้ตาสามรอบ อะไรนะไปยุโรปฟรี !! ทริปที่แล้วตูเก็บตังเป็นปีๆกว่าจะได้ไป  รีบโทรหานายเลยครับว่าอีก 2 อาทิตย์จะไปสเปนนะพี่ลาได้ไหม …หัวหน้าโอเคแล้วรีบตอบกลับไปทันทีเลยครับ  ( ก่อนโทรกลับไปเอาเบอร์ไปค้น google ก่อนว่าตกลงนี่หลอกป่าว โทรหาแม่บอกจะสเปนนะ แม่ถามว่า เค้าจะหลอกไปขายป่าวชั้นมีลูกชายคนเดียวนะ  555 )

.         นั่นแหละครับจากทริปที่แล้วไปเที่ยวแบบโคตรจน ทริปนี้ผมได้กลายร่างเป็นไฮโซ ผมได้บิน business class ครั้งแรกในชีวิต ได้กินอาหาร Michelin star ครั้งแรกในชีวิต !!

Review :

Spain : http://wp.me/p5vPKm-eS

Business Class :  http://goo.gl/sjXHp7


 

ยังรักษาสัญญา

.         ถ้าใครเคยอ่านมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ผมเคยบอกเค้าไว้ตั้งแต่เรียนจบว่า “จะพาแม่เที่ยวปีละอย่างน้อย 1 ครั้ง” ปีนี้ยังรักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้ครับ กลางปีพาไปกระบี่มารอบหนึ่ง ช่วงวันปิยะ(ตุลาคม) ก็พาไปฮ่องกง-มาเก๊า มาอีกรอบ  ได้พาแม่ไปไหว้พระและกินอาหารอร่อยๆที่ฮ่องกงซักที เคยบอกเค้าไว้นานแล้ว ( ปีนี้ผมไปฮ่องกงมา 2 รอบ )

review :

ครั้งแรก : http://goo.gl/zMtL2f

ครั้งสอง : http://goo.gl/eV2uA2

 

มีสมหวังก็ต้องมีผิดหวัง

            ปีนี้สมหวังมาหลายอย่างได้เที่ยว ได้ทำอะไรที่อยากทำเยอะมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ตั้งใจไว้แล้วทำไม่สำเร็จคือ “หนังสือ” ตั้งใจว่าปีที่แล้วจะต้องตีพิมพ์หนังสือให้ได้ 1 เล่ม ผมมัวแต่หลงทางเขียนแนว How to ซึ่งมันใช้เวลาและข้อมูลเยอะ พอกลับลำมาเขียน Story book เล่าเรื่องสวิสอิตาลี กว่าจะเสร็จก็สักเดือน 10 ซะแล้วครับ  … ผมส่งไปสำนักพิมพ์หนึ่ง รอประมาณ 1 เดือน บก. แจ้งกลับมาว่า

“เนื้อหาน่าสนใจมากค่ะ แต่ผู้บริหารแจ้งว่าเรายังมีต้นฉบับอยู่อีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์”

            ฮ่าๆๆไม่เป็นไรครับถือว่างานเขียนเราใช้ได้แล้วติดเรื่องของธุรกิจก็ยังดีกว่า ตอบมาว่าไม่ผ่าน  ( ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตีพิมพ์ถ้า สำนักพิมพ์ไหนสนใจคุยได้นะครับ #พื้นที่โฆษณา )

 

ชีวิตเปลี่ยน

.        จะว่าไปนับตั้งแต่เดือน พค. เป็นต้นมาถือว่าชีวิตผมเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะเลยครับจากเดิมที่ผมเที่ยวด้วยออกเอง 100% ปีหนึ่งก็ไปได้ไม่มาก พอมีสปอนเซอร์เข้ามาช่วย support ค่าใช้จ่ายบ้างบางส่วน ตอนนี้ลองคำนวณๆดูก็ออกเองเหลือเพียง 50-60% เท่านั้น ด้วยงบเที่ยวเท่าเดิมก็ทำให้ผมสามารถไปเที่ยวได้เยอะขึ้น ( ผมค่อนข้างเลือกสปอนเซอร์พอสมควร อะไรที่เราไม่คิดว่ามันดี ไม่คิดว่าจะเอามาใช้จริง ก็จะไม่รับ… เอาที่ทำแล้วสบายใจ )

.        แต่โลกมีสองด้าน ผมก็ทำงานหนักขึ้นเช่นกันครับ พอเรามีแฟนเพจมากขึ้น มีคนรออ่านทุกๆวัน ก็กลายเป็นภารกิจในชีวิตว่าทุกวันหลังจากกลับจากที่ทำงาน ผมก็จะเปิดคอมดูรูปที่เราอยากเล่า หาเรื่องมาเล่าให้คนอื่นฟัง หรือเสาร์-อาทิตย์ไหนที่ผมไม่ได้ออกไปไหน ผมก็จะทำภาพเพื่อเขียนรีวิวในทริปที่ผมได้ไปมา

.         หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ากว่าจะผลิตรีวิวดีๆออกมา 1 รีวิวมันต้องใช้เวลาเยอะมาก นับเวลาทำต่อรีวิวน่าจะเกิน 24 ชั่วโมงด้วยซ้ำครับเสาร์อาทิตย์ใช้เวลาทั้งสองวันต่อรีวิว แต่เป็นการทำงานที่เรามีความสุข สิ่งที่เราเขียนเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ยิ่งหลายๆคนกลับมาขอบคุณ บอกว่าเค้ากล้าออกไปเที่ยวเพราะได้เราเป็นแรงบันดาลใจ นี่ยิ่งเพิ่มกำลังใจเป็นสิบเท่าเลยครับ

เที่ยวรัวส่งท้ายปี

ปิดท้ายด้วยอีก 3 ทริปส่งท้ายปี 3 ทริปในระยะเวลาประมาณ 1 เดือนครึ่งจัดไป 3 ทริป 3 ประเทศ

สิงคโปร์

ทริปนี้มาแรงแซงทางโค้ง เพราะได้รับสปอนเซอร์จากสายการบินหางแดงได้ตั๋วเครื่องบินไปกลับฟรีมา เลยทำแคมเปญชวนแฟนเพจไปเที่ยวกัน ฮ่าๆๆอยากลองเที่ยวกับคนแปลกหน้าดูมั่ง ไปกันแค่เสาร์อาทิตย์ เพราะเจ้าของทริปต้องเก็บวันลาไว้ทริปอินเดีย แต่ก็สนุกมาก ทั้ง 4 คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลยแต่ก็เที่ยวกันได้ทั้งวัน แทบไม่นอน เที่ยวคุ้มเว่อร์มาก 555

review : http://goo.gl/1R1e8N


อินเดีย

อินเดียนี้คือแบบว่ามันเป็นอารมณ์แบบ เฮ้ย backpacker ต้องไปพิสูจน์ความแข็งแกร่งที่อินเดีย ดูหนังพาไปแล้วยิ่งอยาก ขอไปลองของที่อินเดียหน่อยครับ ไปมาตั้งกี่ประเทศแล้วก็ไม่เห็นจะถูกหลอกอะไร … แต่ก็โดน ฮ่าๆมันดีครับมัน รสชาติชีวิตสุดๆ

review :

Part 1 : http://goo.gl/8dFBgI

Part 2 : http://goo.gl/uNWqMN

พม่า

ปิดท้ายปีด้วยไป count down ที่พม่า “พม่าใกล้แค่นี้ วีซ่าก็ยกเลิกแล้ว ทำไมตูยังไม่ได้ไปวะ!” นี่คือคำถามสั้นๆกับตัวเอง เหลือบมองปฏิทินหยุดยาวปีใหม่ 4 วัน วันหยุดหายากมากกกก ไปก็ไปวะ จริงๆไม่คิดอะไรมากเลยนะคิดว่าพม่าดีกว่าอินเดียนิดหน่อยทำใจ แต่พอไปแล้วกลับประทับใจมากกกกกกกกกก คนพม่านิสัยดีมากๆ ดีกว่าที่คิดไว้เยอะมาก มากจนเราอยากกลับไปอีกรอบเร็วๆนี้เลยครับ

review : https://www.chilljourney.com/2016/01/17/yangon-bago-goldenrock/

ปิดฉากปีเก่าด้วย “งานปริญญา”

กลับมาทำงานได้แค่สามวันก็ไปรับปริญญาต่อเลยครับ ปริญญาที่อาบมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน ค่าเทอมหมดไปเกือบๆ3แสน ไม่รวมค่าสังคม ค่าโน้นนี่นั่น… คิดๆดูถ้าเอาเงินตรงนี้ไปเที่ยวนี่ไปได้สักครึ่งซีกโลกละ   แต่คณบดีบอกว่า “ผมไม่เคยเห็นคนลงทุนกับการศึกษาแล้วขาดทุน” 55+ เชื่อครับเชื่อ

 

ไหนๆก็เขียนมาขนาดนี้แล้วจะเล่าเรื่อง Travel Blogger ให้ฟัง Blogger แปลตรงตัวเลยว่า “นักเขียนบล็อค” คำนี้อธิบายให้ท่านแม่ฟังหลายรอบกว่าเธอจะเข้าใจ

    Travel blogger = คนเขียนบล็อคด้านท่องเที่ยว จริงๆมันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับโลกใบนี้เลยครับ ต่างชาติเค้าทำกันเป็นล่ำเป็นสัน ตอนทริปที่ผมไปสเปน คนชาติอื่นที่มาร่วมทริปเช่นสิงคโปร์ มาเลเซีย เป็น blogger ล้วนๆเลยครับ มีของไทยนี้แหละเราได้โควต้า 5 คน เป็น 3 นิตยสาร 2 blogger ( ซึ่งแต่ก่อนพี่จากนิตยสารเค้าเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนเป็นนิตยสารล้วนไม่มี blogger มาแจม… เห็นไหมว่า trend โลกเปลี่ยนไป ไทยในอนาคตผมก็คิดว่าตามครับ  )

.      มองกลับไปนะครับว่าแต่ก่อนเราจะอ่านเรื่องเที่ยวเราอ่านอะไร? เราอ่านจากหนังสือเที่ยวใช่ไหมครับ แต่ปัจจุบันมันเป็นโลกออนไลน์หมดแล้ว เรามักอ่านกันที่เขียนรีวิวกันเนี้ยแหละ มองว่าเป็นนิตยสารอออนไลน์ก็ได้ครับ   หรือง่ายกว่านั้นรายการทีวีก็ได้ครับ ปัจจุบันก็มีคนทำ channel youtube ของตัวเองไม่ต้องง้อสื่อเดิมๆอีกต่อไปแล้วครับเราสามารถสร้างช่องทางของตัวเองได้ ทุกคนเป็นเจ้าของเว็บไซต์ได้ ถ้าสนใจผมเคยเขียนไว้แล้วอ่านเพิ่มได้ลิงค์นี้ https://www.chilljourney.com/2015/09/14/traveller/

 

จะยังไงต่อ?

.       ตอนนี้ผมไม่รู้เหมือนกันครับว่าอนาคตผมจะเป็นยังไงต่อ มีแพลนๆไว้บ้างแต่ก็ไม่ได้เป๊ะๆขนาดนั้น แค่ปีที่ผ่านมาชีวิตก็พลิกผันไปตั้งหลายตลบละครับ งานประจำก็ยังทำอยู่ ถ้าอยากไปเที่ยวไหน ถ้าคำนวณแล้วมีเงินก็จองไปเลยครับ การมีงานประจำทำให้ไม่ต้องง้อสปอนเซอร์ 55+ ถ้าไม่มีคนช่วยก็ออกเองเลยสบายใจ วันนี้ใครจะเรียกผมว่าอะไรก็ไม่ได้สนใจครับ จะ Blogger จะนักเดินทาง จะนักท่องเที่ยว ผมรู้แค่ทุกวินาทีที่ผมได้ออกเดินทางไม่ว่าจะเจอทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย ผมมีความสุขมากๆที่ได้ทำ  🙂

Exit mobile version