แจกแพลนเที่ยว Hokkaido หน้าหนาวแบบฉบับเก็บหิมะกับแลนด์มาร์คให้พอชุ่มใจ แต่ที่เหลือเราจะเอาเวลาไปกิน เที่ยว ช็อป ทริปนี้เที่ยวสบายเก็บแต่ไฮไลท์ กินแต่ของอร่อย มี 5 วันก็เที่ยวได้!
.
DAY1 : SAPPORO
DAY2 : SAPPORO – OTARU
DAY3 : Biei
DAY4 : Asahiyama
DAY5 : Sapporo


DAY1 : SAPPORO 

ชิวแนะนำให้เริ่มต้นวันที่ดีที่ “ตลาดปลานิโจ” ที่นี่เปรียบเหมือนครัวประจำเมืองซัปโปโร แถมเดินทางสะดวกตั้งใจอยู่กลางเมืองซัปโปโร ที่นี่มีอาหารหลากหลาย สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราก็คงยากที่จะซื้อของสดไปทำกินเอง แต่ที่นี่ก็มีอาหารดังจำพวกข้าวหน้าปลาดิบมากมายหลายร้าน ดังนั้นสิ่งที่เราพาทุกคนมานั่นก็ครือออออออ “กิน”

 

แต่เราจะไม่พาไปกินร้านแบบเดิมเดิมที่คุณคุ้นเคย ชิวขอแนะนำให้ทุกคนไปเปิดโลกซูชิ Omakase แท้ในราคาย่อมเยา เป็นร้านเล็กๆร้านลับๆที่มีเพียง 3 ที่นั่ง ทุกคำเชฟบรรจงปั้นให้เราทานกันแบบสดๆ ชื่อร้าน “Ta Ke E Sushi”  ชิวหาร้านนี้เจอจาก google map แต่เพียงแค่เดินผ่านหน้าร้านก็จะรับรู้ได้ถึงพลังออร่าความอร่อย ดังนั้นไม่รีรอพุ่งตัวเข้าไป

พิกัด : https://goo.gl/maps/j1PpispKsu9RMMmR8

ร้านนี้เป็นแบบ Omakase คือเราสั่งไม่ได้นะ เชฟจะจัดให้เรา ซึ่งปลาก็อาจจะปรับเปลี่ยนไปแต่ละวัน โดยมาตรฐานร้านเค้าจะมีราคาอยู่แค่ 2 เซ็ตเท่านั้นคือ

แบบ 10 คำ = 2300 เยน และ แบบ 12 คำ = 3000 เยน มาทั้งทีก็จัดหนักจัดเต็ม 12 คำไปเลย คิดออกมาเป็นเงินไทยไม่ถึงบาทเลยครับ !

และแล้วซูชิทั้ง 12 คำก็มาเสริฟ อธิบายลำบากเอาเป็นว่าเพื่อนๆดูภาพเลยแล้วกันว่าเชฟเสริฟอะมาให้เราทานบ้าง รสชาติดีสุดๆเลยครับ ปลานี่สดมากจริงงงงงงงง อร่อยฟินไฟออกตาเลย ในราคาไม่ถึง 1000 บาท คุ้มเกินคุ้มแนะนำมากร้านนี้ ตอนแรกคิดว่าจะไม่อิ่มแต่พอกินครบ 12 คำ “จุก”

อันนี้ชิวถ่ายตรงข้ามตลาดปลาร้านสีสวย ตัดกับหิมะ สวยดีจัง

 

Sapporo TV Tower

อิ่มแล้วได้เวลาเดินเที่ยวเมืองครับ จริงๆแล้วตัวเมือง Sapporo สามารถเดินเที่ยวได้หมดเลย แลนด์มาร์คทั้งหลายทั้งปวงอยู่ใกล้กันหมด แค่ออกจากตลาดปลาเราก็จะเห็นหอคอยขนาดใหญ่ที่มองเห็นจากแทบทุกมุมในเมืองก็คือ Sapporo TV Tower นั่นเอง

บรรยากาศหน้าหนาว ฟินสุด ที่เราชอบหน้าหนาวคือผู้คนจะแต่งตัวเต็มกันมาก ใส่หลาย layer ดูแปลกตาไปจากเมืองไทยมาก

Sapporo Clock Tower

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คห้ามพลาดก็คือ Sapporo Clock Tower เป็นสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร ที่ถ้ามาเยือนซัปโปโรแล้วไม่มาปักหมุดแล้วล่ะก็เหมือนมาไม่ถึงอะไรทำนองนั้น เค้าบอกว่าตัวเรือนนาฬิกาซื้อมาจากกรุงบอสตัน ประเทศสหรัฐฯอเมริกา ส่วนตอนนี้ก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ ไปแล้วครับ

Former Hokkaido Government Office Building

ที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโด ที่นี่เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของซัปโปโรเลยทีเดียว (เพื่อนๆคงเห็นผ่านตามาบ้างใช่ไหม?) ด้วยเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบอเมริกันนีโอบาร็อค เด่นด้วยก้อนอิฐแดงมากกว่า 2.5 ล้านก้อน และเป็นที่ทำการรัฐบาลฮอกไกโดมามากกว่า 80 ปี ก่อนที่จะย้ายไปตึกใหม่

ดังนั้นก็ต้องไม่พลาดที่จะมาแชะภาพสักรูปสองรูปล่ะครับ

 

วันนี้ก็ไม่ต้องเที่ยวเยอะ เพิ่งบินมาเมื่อคืนวันนี้ก็เป็นวันชิวๆ พอตกบ่ายแนะนำไป ถนนคนเดิน Susukino &Tanukikoji street ช็อปปิ้งไปกินไปเที่ยวไปเพลินสุด แล้วเชื่อเลยว่ารู้ตัวอีกทีก็จะเย็นแล้ว! เข้าโรงแรมเช็คอินได้ก็พักผ่อนโลด


DAY2 : Otaru

สำหรับวันที่สองออกแต่เช้าสักนิด (มาหน้าหนาวฟ้าจะมืดไวหน่อย บอกไว้ก่อน) ไปเมืองโอตารุ เมืองยอดฮิตสุดฮอต กันสักหน่อย ถ้าไม่เช่ารถขับก็สามารถไปด้วยรถไฟก็ได้นะเดินทางสะดวกมาก ใช้เวลาแป๊ปเดียวก็ถึง สิ่งแรกที่ต้องมาเช็คอินเลยก็คือ “คลองโอตารุ” แบบว่าถ้ามาฮอกไกโดแล้วไม่ได้มาเที่ยวคลองโอตารุก็เหมือนมาไม่ถึง!

โอตารุเป็นเมืองท่าที่สวยงาม และมีทีเด็ดที่ถนนคนเดินที่เต็มไปด้วยร้านขนมเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เรียกได้ว่าถ้าคุณเป็นสายขนมนมเนย คุณจะล้มละลายได้เลย ณ ถนนสายนี้ !

สำหรับ List ที่ต้องโดนเมื่อมาเยือนก็ตามนี้เลยจ้า Otaru aquarium / Otaru music box museum / Marchen square / Otaru canal  รวมทั้งร้านขนมหวาน LeTAO อันเลื่องชื่อที่ต้องไปจัดชีสเค๊กของเค้า

อย่าลืมกินชีสเค๊กร้าน LeTAO  นะอร่อยมากกกกกกกกกกก (ถ้าคุณชอบกินชีสเหมือนชิวนะ เพราะบางคนก็ไม่ชอบ มันชีสจัดมากกกกกก )

อะอะ แล้วอย่าลืมมมมมมมมไปชม นาฬิกาไอน้ำโบราณ (Steam Clock)แห่งเมืองโอตารุ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ ตั้งอยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี นอกจากจะมีรูปลักษณ์ที่งดงามในสไตล์อังกฤษแล้ว ยังคอยจะส่งเสียงเพลงและพ่นไอน้ำออกมาในทุก ๆ 15 นาทีอีกด้วยนะ

 

DAY3 : Biei

สำหรับวันที่ 3 เราออกไปค้นหาธรรมชาติอันสวยงานของเกาะฮอกไกโด แนะนำให้เช่ารถขับจะเป็นการเที่ยวที่สะดวกที่สุดนะครับ เพราะรถไฟเข้าไม่ถึงสถานที่เหล่านี้ ถ้าไปด้วยรถสาธารณะอื่นก็จะทำเวลาไม่ได้ดังนั้นก็เช่ารถขับเถอะ ( อย่าลืมตรวจสอบยาง โซ่พันล้อ และอุปกรณ์ที่ช่วยขับรถบนหิมะด้วยนะ )

Blue Pond

บ่อน้ำสีฟ้า Blue Pond อันโด่งดังส่งเข้าประกวดจากเมืองบิเอะ  ในวันที่มีหิมะปกคลุมนั้นสวยสุดยอดไปเลย (แต่แนะนำให้เดินระวังกันด้วยนะ) เพื่อนๆรู้รึเปล่าว่าอันนี้ไม่ได้เป็น บ่อจากธรรมชาตินะเค้าเป็นบ่อน้ำที่ถูกกักไว้จากการสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันโคลนถล่มบริเวณภูเขาไฟในแถวนั้น การที่น้ำในบ่อมีสีฟ้าสดกว่าบ่อน้ำทั่วไปๆ ก็เป็นเพราะอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์จากการปะทุของภูเขาไฟที่อยู่ในน้ำได้สะท้อนกับแสงแดดที่ส่องลงมา

Shirahige waterfall

ใกล้กันมีน้ำตกที่สวยงามมากกกกกกกกก น้ำตกนี้มีชื่อว่า Shirahige waterfall และฤดูที่สวยที่สุดก็คงไม่พ้นฤดูหนาว เพราะเราจะได้เห็นสีขาวของหิมะตัดกับน้ำใสใสสีน้ำเงิน สวยมากกกกกกกกกกก ให้ภาพเล่าเรื่องแล้วกัน

Seven Stars Tree

ต้นไม้เรียงกัน 7 ต้นอีกหนึ่งที่เที่ยวสุดฮอต ทำไมถึงฮอตล่ะอย่าถาม! นี่เองก็ยังงงอยู่ แต่ถ่ายรูปมาก็เท่ดีนะ!  จากนั้นแนะนำให้ขับรถต่อไปนอนที่เมือง Asahiyama ซึ่งเป็นเมืองใหญ่

 

DAY4 : Asahiyama 

แนะนำมากกกกกก แบบ ก.ไก่ ล้านตัวถ้ามาเที่ยวหน้าหนาวต้องมาที่ Asahiyama zoo สวนสัตว์ที่มีน้องๆน่ารักมาต้อนรับเยอะมาก โดยเฉพาะน้องเพนกวิ้น คือช่วงหน้าหนาวมันก็จะหนาวพอให้น้องออกมาเดินเล่นรับหิมะ ไรเงี้ย น่ารักจริงนะ


DAY5 : Sapporo ( กิน/เที่ยว/ช็อปปิ้ง )

มาถึงวันสุดท้ายของการเดินทางแล้ววววว วันนี้เป็นวันชิลล์อีกวันให้ทุกคนทำการตะเวนกินของอร่อยและช็อปปิ้งสินค้าจากญี่ปุ่นใน Sapporo ให้หนำใจก่อนกลับบ้าน ขอบอกว่าซัปโปโรก็มีที่ช็อปปิ้งไม่น้อยหน้าเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและโอซาก้า  รวมร้านเด็ดร้านดังก็เยอะมากกกกกกกกก  เตรียมพุงเตรียมตังไว้ให้ดีบอกก่อน!

เราขอแนะนำร้านข้าวหน้าหมู่ย่าง ร้านดังของเมืองฮอกไกโด “ข้าวหน้าหมูย่างซัปโปโร โทคาจิ อิปปิน” (Tokachi Butadon Ippin Sapporo Kitajuujou ) ตั้งอยู่บนชั้น 6 ห้าง Stellar Place Sapporo หรือมันก็คือห้างในสถานี JR Sapporo นั่นแหละ หาง่ายมาก

ร้านจะเริ่มเปิดตั้งแต่ 11 โมงเป็นต้นไป ถ้าเดินไปแล้วเจอคิวยาวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใจ นั่งรอไปคิวค่อนข้างรันไปไว (ร้านดังในญี่ปุ่นก็มักจะเป็นแบบนี้)  ร้านนี้ขายเมนูเดียวคือข้าวหน้าหมู่ย่าง! แต่สามารถเลือกได้ว่าจะเอาข้าวน้อย ข้าวเยอะ เพิ่มหมูไหม แต่ขอบอกว่าอย่าสั่งพิเศษนะ!! ขนาดชิวกินจุมากๆสั่งพิเศษยังกินแทบไม่หมดเลย โอ้ย ให้เยอะจริง!

เป็นวันสุดท้ายที่บอกตรงๆว่าไม่ทำอะไรเลย นอกจากเดินไปกินของอร่อยๆ กินเสร็จก็ไปเดินช็อปปิ้งให้ย่อย แล้วก็วนไปกินใหม่ 555

อาจจะดูเป็นการเที่ยวที่ไร้สาระ แต่ขอบอกว่าโคตรมีความสุขเลย

ช็อปปิ้งจนกระเป๋าแบน ท้องเริ่มย่อยแล้วไปกินต่อที่ร้านชาเขียวชื่อดังที่ชิวชอบมากๆ Nana’s Green Tea  แนะนำเมนู ที่ชิวสั่ง … ขออภัยจำชื่อไม่ได้ แต่หน้าร้านจะมีรูปอยู่ คือเป็นแบบคอมโบรวมของอร่อยของทางร้าน ขอบอกว่าอร่อยมากจริงจังอะ ใครชอบชาเขียวต้องเลิฟแน่ๆ

กินขนมอิ่มแล้วก็ไปช็อปปิ้งกันต่ออีกแล้ว สำหรับที่ซัปโปโรเราแนะนำที่ ถนนคนเดิน Tanuki Koji ของเมือง Sapporo ถนนช็อปปิ้งที่มีความยาวถึง 6 บล็อคถนน !  เป็นถนนคนเดินที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน  แถมยังมีโซนใต้ดินเอาไว้หลบหนาว มีหลังคา รวมทั้งจะมีทางเชื่อมไปยังทางเดินใต้ดินด้วย ซึ่งที่ใต้ดินก็มีที่กินเที่ยวช็อปอีกเป็นแนวยาวที่เค้าตั้งชื่อว่า Aurora Town โอ้โห ขอบอกว่าที่ซัปโปโรช็อปปิ้งสนุกไม่แพ้เมืองใหญ่อย่างโตเกียวหรือโอซาก้าเลยนะ

ปิดท้ายวันสุดท้ายด้วยซอร์ฟครีมสุดอร่อย และ ชีสทาร์ต อบสด ที่ร้าน KINOTOYA  อร่อยมากกกกกกกกกก กินจนอิ่มช็อปปิ้งกันให้เต็มกระเป๋า จากนั้นวิ่งกลับโรงแรมไปเอากระเป๋าแล้วพุ่งตัวไปสนามบินกลับเมืองไทยแบบสุดฟิน 🙂

 

สำหรับใครกำลังมองที่พักทำเลดีสุดๆใน Sapporo แนะนำที่นี่เลยครับสุดยอดมาก

จองที่พัก  Karaksa Hotel Sapporo ในราคาดีที่สุดผ่าน booking.com  >>> Click <<<

จองที่พัก Karaksa Hotel Sapporo  ในราคาดีที่สุดผ่าน agoda.com    >>> Click <<<

รีวิว karaksa โรงแรมที่ทำเลดีสุดใน Sapporo อยู่ใจกลางถนนที่เที่ยวกินช็อป !

 

 

ติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::

Instragram :@ChillJourneyTH
Facebook Page : Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Youtube : ChillJourney

Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!