Day3 : Tokyo – Osaka
วันนี้เราจะเริ่มใช้ JR Pass วันแรก ด้วยการนั่งรถไฟ Shinkansen รถไฟหรูหราสุดไฮโซ นั่งสบายกว่าเครื่องบิน economic classและเนื่องจากที่พักเราอยู่ใกล้เมือง Yokohama แล้วดังนั้นเราจึงไปขึ้นรถไฟกันที่สถานี Shin-Yokohama และเป้าหมายเราคือ Shin-Osaka
พูดถึงเมือง Osaka จะเป็นเมืองใหญ่ที่เจริญมากๆคล้ายๆกับ Tokyo เลยครับ เป็นเมืองที่มีแสงสีสวยงามตอนกลางคืน ว่ากันว่า Osaka จะหลับตอนกลางวัน และ ตื่นตอนกลางคืน เห็นว่าจะจริงครับ
เคล็ดไม่ลับ – การนั่งรถไฟจาก Tokyo-Osaka ให้จองที่นั่งทางด้านขวา เพราะช่วงหนึ่งจะผ่านภูเขาไฟฟูจิ ถ้าอากาศดีเราจะมองเห็นอย่างชัดเจน
ถ้าใครจองไม่ทันเนื่องจากด้านขวาจะเต็มไวมากกก ให้อาศัยมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีเอา
ผมก็เป็นหนึ่งคนที่จองไม่ทัน แต่อยากได้ภาพมากเลยขอฝรั่งที่นั่งทางขวา
ยูๆขอถ่ายหน่อยนะ ฝรั่งท่านนั้นโอเค ผมเอามือถือถ่ายมาได้ดังนี้หล่ะครับ
มิตรภาพในหมู่นักเดินทางมีเสมอ ใจเค้าใจเราแบ่งๆกันสุข
หลังจากนั่งรถไฟมาสักพักก็ได้เจอฟูจิสมใจ โชคดีมากๆเพราะภูเขาไฟฟูจิขึ้นชื่อเรื่องขี้อาย หลายคนมาญี่ปุ่น 3 รอบแล้วยังไม่เคยได้เห็นสักครั้ง แต่ผมเห็นแต่ครั้งแรกที่พบเจอเธอ มันช่างประทับใจจริงๆ
เรานั่งชินคันเซ็นแบบสบายๆมาประมาณ 3 ชม.กว่าๆก็มาถึงเมือง Osaka เรียบร้อยครับ
ภารกิจแรกก็คือ เอาสัมภาระไปเก็บที่โรงแรม และ ซื้อ Osaka 2 days pass ตามแผนที่วางไว้
จริงๆถามว่าใช้ pass คุ้มไหม ผมว่าผมใช้ไม่คุ้ม แต่ก็แลกมากับความสะดวกไม่ต้องกังวลว่าจะขึ้นผิดขึ้นถูก หรือค่าเข้าตรงโน้นตรงนี้เสียเพิ่ม
อ้อ… Osaka unlimit pass ไม่มีขายที่ Shin-Osaka ต้องไปซื้อที่สถานี Osaka นะครับ
ผมพักโรงแรมแถว Shin Osaka นั่นหล่ะ เนื่องจากเราจะเน้นเดินทางด้วยชินคังเซ็นเป็นหลัก การพักใกล้ Shin-Osaka เป็นเรื่องที่ดี
สถานที่ๆเราไปที่แรกหลังจากซื้อ Osaka unlimited pass แล้วก็คือ Heap five ขึ้นกระเช้าชมเมือง Osaka สักหน่อย
ผมว่าไม่ค่อยมีอะไรนะ ถ้าใครซื้อ Osaka pass แล้วมานั่งก็ดี แต่คิดว่าถ้ามาตอนดึกๆคงสวยกว่านี้
เป้าหมายหลักของเราที่จะมา Osaka ก็คือ ปราสาท Osaka นั่นเอง ดูแผนที่แล้วก็ไปกันเลย แค่ปากทางเข้าก็สวยแล้วหล่ะ
เดินไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่ใกล้ แต่ทำเอาเหงื่อเกือบออกได้เหมือนกัน (จริงๆเหนื่อยแต่อากาศดีเลย เหงื่อเลยไม่ออก )บรรยากาศภายใน เราใช้ Osaka pass อยู่แล้วรวมทุกสิ่งเข้าได้เลย
เมื่อเดินถึงด้านบนสุด จะเจอเจอปลาเพศผู้สีทอง ! ปลาคราฟ สีทองนั่นเอง ตึ่ง!!
จาก Osaka Castel เราจะมองเห็น Osaka ได้สุดลูกหูลูกตาเลย ผมว่าสวยกว่าบน heep five สะอีก
จริงๆปัจจุบันปราสาท Osaka ได้เป็น พิพิธภัณฑ์ ไปเรียบร้อยดังนั้นจะมีเรื่องราวการการต่อสู้ ชุดในอดีตของเมือง Osaka ให้ชมกันด้วยครับ
เมื่อชมปราสาท ให้คุณแม่พักเหนื่อยจนเต็มอิ่มแล้ว ตามแผนวันนี่เราจะไปล่องเรือ Cruise ship Santa maria กันที่รวมไปใน Osaka pass
(ค่าล่องเรือแพงมาก ถ้ามีเวลาควรมานั่งเพื่อความคุ้มของ Osaka pass ) แต่ดูจากเวลาไม่ทันแน่ๆ เลยถามแม่อยากไปไหน แม่ผมอยากไปสวนสาธารณะ ก็เลยไปกันมี osaka day pass อยู่แล้วนั่ง metro unlimit อยากไปไหนก็ไป แม่จิ้มไปในแผนที่ได้มาจาก guild book ตอนเราซื้อ Osaka pass นั่นคือ Tsurumiryokuchi Park
วิธีการไปก็ให้นั่ง metro มาลง สถานี Tsurumiryokuchi Station
ภายใน Tsurumiryokuchi Park จะมี Sakuya Konohana Kan ที่เป็นโดมแสดงต้นไม้เมืองร้อน
เช่น กระบองเพ็ชร
ออกจากโดมมาเดินชมสวนบ้าง ที่น่าสนใจคือซากุระที่สวนนี่กำลังพานเต็มที่ สุดฟิน
ชมเสร็จก็มืดพอดี ได้เวลาตะลุยค่ำคืนของ Osaka แน่นอนว่าเราไปที่ยอดฮิตอย่าง “Dotonbori “
แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง มาถึง Osaka ทั้งทีก็จัดต้องจัด ทาโกยากิ ของดีเมือง Osaka
เราได้กินร้านดังด้วยนะตอนนั้น คนไม่เยอะ รอคิว 10 นาทีเอง วิธีเดินหาไม่ยากเข้าไปที่แถวๆ Dotonbori แหละร้านอยู่ปากทางเลย
บรรยากาศในร้าน
มาแล้วทาโก๊ะของเรา รสชาติอร่อยมากกกกกกกกก ยังติดใจอยู่เลยครับ ทาโก๊ะที่ร้านนี้จะนุ่มๆนิ่มๆ แป้งไม่แข็งแบบบ้านเรา
เห็นโต๊ะข้างๆสั่งก็เลยสั่งมาบ้าน โอเด้ง ไม่ค่อยประทับใจแฮะแพงอีกตังหาก
เสร็จจากการกินเราก็ไปเดินเล่นต่อใน Dotonbori
ชมแสงสี
ป้ายที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปคู่ ป้ายกุลิโก๊ะนั่นเอง
เดินชมเสร็จ เราก็ใช้ Osaka pass ต่อคือการนั่งเรือ Tombori River Cruise ชมย่านช็อปปิ้งชื่อดังนั่นเอง อันนี้ผมชอบนะ แนะนำให้มานั่งครับ
หลังจากล่องเรือเสร็จเราก็ไปเดินช็อปที่ย่าน Nippombashi อยู่ใกล้ๆกันนี่แหละเดินแป๊ปหนึ่งก็ถึง ช็อปเสร็จก็กลับที่พักครับ
เป็นอีกวันที่หมดแรง เที่ยวถึกทัวร์มากเริ่มสงสารคุณแม่ แต่แม่ใจสู้มาก เดินทั้งวันไม่ท้อเลย
พรุ้งนี้เราจะไปลุย Kyoto (เกียวโต) เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นกัน เป็นเมืองที่ผมชอบมากๆอีกเมือง