เริ่มจากความอยากล่องแก่งล้วนๆ เอาแบบที่ไม่ไกลกรุงเทพฯมาก รวมทั้งได้เชิญจากโรงแรม Kantary กบินทร์บุรี ให้ไปพักด้วยก็เลยวาดแผนขึ้นมา โดยมุ่งหน้าออกจากกรุงเทพฯขับผ่านฉะเชิงเทราเข้าถนนสาย 304 ระยะทางจากกรุงเทพฯถึงโรงแรมก็น่าจะประมาณ 170 กิโลเองครับ ขับ 2-3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว เปิด Google map โลด
มาถึงแล้วก็มาสำรวจห้องกันสักหน่อยครับ รอบนี้ชวนเพื่อนมาด้วยก็เลยบอกไว้ล่วงหน้าว่าขอเป็นห้อง twin นะครับเตียงแยกกันจะได้นอนสบายหน่อย
ส่วนของห้องรับแขกที่กว้างมากๆๆๆ และอุปกรณ์ครบครัน เดี๋ยวไว้แวะกลับมาชื่นชมความอลังของห้องอีกที ขอรีบไปล่องแก่งกันก่อนดีกว่า
เช็คอินเสร็จก็สอบถามทางโรงแรมแหละครับว่าล่องแก่งเจ้าไหนดี ติดต่อยังไง ซึ่งก็แนะนำศักดิ์สุภา รีสอร์ทมา เบอร์โทร 0814540076 โทรไปจองก่อนล่วงหน้าแล้วก็ขับรถไปทิ้งไว้ที่รีสอร์ทพี่เค้าได้เลย ราคา คนละ 500 บาทต่อคน รวมทุกอย่างแล้วทั้งค่ารถไปแก่งหินเพิง ค่าเขาอุทยาน ค่าล่องแก่ง และพี่เค้ามีน้ำ และ ซาลาเปา ให้กินหลังจบด้วย แนะนำเลย (ถ้าไปหลายคนต่อรองได้ และมีหลายแพคเกจนะ ลองโทรถามพี่เค้าดูครับ)
จากตัวเมืองจะห่างจากแก่งหินเพิงประมาณ 30 KM ก็ใช้เวลาสัก 45 นาทีในการขับรถนะ พอมาถึงอุทยานแก่งหินเพิงแล้วพี่เค้าก็ให้อุปกรณ์ทุกคน คือ เสื้อชูชีพ ไม้พาย น้ำ 1 ขวด และขึ้นรถไปอีกนิดหนึ่ง
นิดหนึ่งจริงๆ … ถ้าจะสั้นขนาดนี้ และรถจะไปต่อไม่ได้แล้วเราต้องเดินต่อไปอีก 2.5 KM ครับ เดินป่าไปเรื่อยๆทางไม่โหดแต่ก็เหนื่อยใช้เล่น
ระหว่างทางก็จะมีมุมให้แวะชมน้ำเล็กน้อยพอชื่นใจ (คิดว่าถึงแล้วซะอีก ) 555
เดินไม่นานก็มาถึงแก่งหินเพิงครับ ทางเจ้าหน้าที่รีสอร์ทก็จะเป่าลมเรือไป ระหว่างนั้นเราก็เล่นน้ำไปชิวๆ
พอเสร็จแล้วเค้าก็จะเรียกไปสอนวิธีพาย คือจริงๆไม่ต้องไรมาก คนเรือพายหมดอะเอาจริง 555
พอล่องมาได้สักนิดก็จะเป็นแก่งสไลด์เดอร์แบบให้เราลงน้ำไปเลย แล้วล่องไปกะน้ำ คือเค้ารู้ว่าตรงนี้ทำได้ไม่อันตรายครับ สนุกมากกกกก ผมว่ามันส์กว่าที่ผมไปเล่นที่วังเวียงอีก (แต่อันนี้ระยะสั้นกว่า)
เล่นล่องแก่งเสร็จก็สักบ่าย 3 แล้วเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับรถต่อไป Verona ทับลาน กันครับ จริงๆทั้งชิวและเพื่อนนี่ไปเที่ยวอิตาลีกันมาแล้ว เคยไป Verona จริงๆมาแล้ว ถามว่ามันเหมือนไม๊ มันไม่เหมือนหรอก แต่รวมๆแล้วชิวชอบที่นี่นะคนไม่เยอะ และก็มีมุมให้ถ่ายรูปชิคๆคูลๆเยอะดี และก็ไม่เสียค่าเข้าด้วย
เสร็จจากที่นี่ก็เย็นแล้วล่ะ ขับรถกลับโรงแรมกันดีกว่าครับ เดี๋ยวจะพาไปดูส่วนต่างๆของโรงแรมกัน เริ่มจากห้องก่อน ห้องของโรงแรมในเครือ Kantary นั้นการันตีความกว้างเลยครับ ขนาดห้องใหญ่มาก รวมทั้งอุปกรณ์ก็ครบครัน เหมือนอยู่คอนโดเลย
ติดต่อสอบถามข้อมูล 037-282-699 หรือ Call center 1627
Website : www.capekantaryhotels.com
มีสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนสครบครันเช่นกัน ( มี trainer ด้วยนะไม่ธรรมดา )
ค่ำนี้ผมกับเพื่อนฝากท้องไว้ที่โรงแรมเลย กับห้องอาหาร California steak ซึ่งขายเป็นเซ็ตครับ มีทั้งสลัด ซุป สเต๊ก ชา และ ขนมหวาน ในชุดละประมาณ 600 บาท รสชาติดีครับ ผมว่าไม่แพงเลยครับ
ตื่นเช้ามาวันอาทิตย์ก็ไปทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ที่โรงแรมครับ ซึ่งก็มีทั้งอาหารฝรั่ง อาหารไทย ผสมผสานบางส่วนที่เป็นอาหารญี่ปุ่นด้วย เช่น ซุปมิโซ๊ะ แซลมอนเทปันยากิ ข้าวญี่ปุ่นไรพวกนี้ครับ
ทานเสร็จก็ไปกลิ้งๆบนห้องสัก 11 โมงผมก็เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรม ขากลับว่าจะไปแวะเที่ยวตัวเมืองปราจีนสักหน่อยขับไปประมาณ 40 KM ครับเป้าหมายคือ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
โรงบาลนี้เป็นโรงพยาบาลศูนย์ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทย ใช้สมุนไพรบำบัดรักษาโรค มีการนวด อบ ประคบ และฝังเข็ม แปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์ และเครื่องสำอาง มากมายครับและที่สำคัญตึกสวยมากๆและถ่ายละครหลายเรื่องแล้ว
ด้านในอาคารจะมีโซนขายยาสมุนไพรด้วยครับ เค้าไม่ได้โชว์เฉยๆนะเพราะผมเห็น(น่าจะ)เป็นแพทย์แผนไทยเป็นคนซักอาการเลยครับ
จริงๆแล้วที่ปราจีนมีสถานที่เที่ยวอีกที่ชื่อ ดาษดา เป็นสวนดอกไม้ตอนแรกก็จะไปแหละ แต่ลองค้นดูเสียค่าเข้า 200 บาทต่อคนก็เลยไม่ไม่ไปกัน ขับกลับกรุงเทพโดยมีแผนจะไปแวะกินที่ตลาด 100 ปีฉะเชิงเทราครับ ก็เช่นเคย Google map ไปเลยพิกัด “ ตลาดริมน้ำ 100 ปี ตำบล บ้านใหม่ ฉะเชิงเทรา” ก่อนถึงตลาดมีที่จอดรถฟรีครับ ( แต่คนโบกรถให้อะ ก็เลยให้เงินเค้าไป 10 บาท )
คือตลาดนี้ผมประทับใจนะ คือปกติตลาดน้ำอื่นๆเช่นอัมพวาไรเงี้ย ตอนนี้ทุกร้านขายเหมือนๆกันหมดอารมณ์ไปรับของสำเพ็งมาขาย แต่ที่นี่ชาวบ้านเค้าทำเองซะมาก เช่น ลอดช่องก็ทำเอง ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ขนมไทย อีกมากมายอร่อยและบรรยากาศดีครับ แนะนำ
สิบร้านกินวนไปครับ
เดินๆกินๆในตลาดร่วมชั่วโมง กินไปสักสิบร้านจนพุงจะแตกก็ได้เวลากลับบ้าน เป็นอันจบทริป 2 วัน 1 คืนแบบสนุกๆมันๆครับ หวังว่าเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านคงจะพอได้ไอเดียในการเที่ยวนะครับ
ติตตามชิวตามช่องทางนี้เลยครับ :
Facebook : www.facebook.com/ChillJourney