Chill Journey | Thai Travel & Lifestyle blog

สอนวางแผนการเที่ยวต่างประเทศกันง่ายๆแค่ 5 ขั้นตอน [ Feat. AccorHotels ]

“วางแผนการเที่ยวต่างประเทศเริ่มอย่างไร?”

[ Advertorial ]

 

.     สวัสดีครับวันนี้เราคุยกันในหัวยอดนิยมที่มีคนถามเยอะมากกกก ว่าอยากไปเที่ยวต่างประเทศด้วยตัวเองจะเริ่มยังไงดี? อยากไปเองแต่แค่คิดก็มึนแล้วใช่ไหมหล่ะ วันนี้มาไขข้อสงสัยกัน แล้วก็เป็นหัวข้อที่ผมเคยได้ไปพูดในงาน Big pro days ที่เซ็นทรัลเวิลด้วยหล่ะ

IMG_0488

ขั้นตอนการวางแผนแต่ละทริปสำหรับผมมี 5 ขั้นตอนดังนี้

1. เล็งประเทศในฝัน และ วันหยุดให้พร้อม

.    อย่างแรกเลยเราต้องรู้ก่อนครับว่าเราอยากไปไหน? ไปได้กี่วัน? จะไปเมื่อไหร? 3 คำถามที่ต้องตอบให้ได้ก่อนเลย ถ้ายังไม่เคยไป Backpack ที่ไหนแนะนำประเทศใกล้ๆ ไม่ต้องใช้วีซ่า และมีคมนาคมที่สะดวกก่อนครับ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น

.    ส่วนตัวชิลก็จะมี Bucket list (สถานที่ในฝัน) ไว้ในใจเยอะครับ ตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์ อินโดนีเซีย(ภูเขาไฟโบรโม่)  ไอซ์แลนด์ ก็จดไว้ครับว่าเราอยากไปไหนบ้าง แล้วก็ค่อยๆหาข้อมูลดูรีวิวไปเรื่อยๆ ว่าเค้าไปกันกี่วัน ไปช่วงไหนดี เพิ่มเติมสำหรับคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือนก็ต้องดูวันหยุดเราเพิ่มไปด้วยนะว่าเราจะหยุดได้ช่วงไหน   เล็งไว้ให้พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปครับ

2. ตั๋วโปรต้องมา

 

.      ค่าใช้จ่ายหลักประมาณ 30% ของทริปคือตั๋วเครื่องบิน ดังนั้นสำหรับผมจะใส่ใจตรงนี้เป็นพิเศษและทุกทริปผมจะเริ่มจากตั๋วเครื่องบินก่อนครับ เพราะสมมุติไปยุโรปถ้าจองแบบไม่มีโปรอะไรเลย ราคาไปโน้นครับ 3-4 หมื่น แต่ถ้าเฝ้ารอติดตามดีๆจะได้แถวๆ 25,000 หรือถ้าโปรถูกโคตรๆจองแบบ multicity อาจมีไม่ถึง 2 หมื่นก็เจอได้เยอะแยะ ( เห็นไหมครับว่าต่างกัน 20,000 ต่อคน ถ้าไปหลายคนเกือบแสน)

.      ดังนั้นสิ่งเดียวที่ต้องทำคือ “อดทนรอ และ ซื้อเมื่อรับได้” ชอบมีคนตั้งกระทู้ถามอยู่บ่อยๆว่า ตั๋วไปญี่ปุ่นสงกรานต์จะถูกกว่านี้ไหมค่ะ? บอกเลยว่าเทศกาลนี่ทำใจครับ ถ้าราคารับได้ให้รีบจองไปเลย ตัวอย่างถ้าบิน full service บินตรงไปญี่ปุ่นช่วงสงกรานต์(ซากุระ)ได้สัก 17,000 นี่กดไปเลยครับ ราคามันไม่ค่อยลงแล้ว

อ่านเรื่องจองตั๋วเพิ่ม >> click<<

3. วางแผนใหญ่

.       หลังจากได้ตั๋วเครื่องบิน ซึ่งจะรู้แล้วหล่ะว่าเราจะต้องบินวันไหน และ กลับวันไหน ทีนี้ก็มาวางแผนภาพใหญ่กันครับ แพลนคร่าวๆพอว่าด้วยจำนวนวันที่เรามีเนี้ยมันไปไหนได้บ้าง? แต่เชื่อว่าต้องมีคนถามต่อว่า

.       “แล้วจะรู้ได้ยังไงหล่ะ?” อันนี้ก็เลยขอเพิ่มเติมไป ปกติผมหาข้อมูลจาก 3-4 แหล่งครับ ก็จะไล่หาไปครับ ส่วนมาก็ดูตามรีวิวแล้วก็อ่านข้อมูลจากแหล่งอื่นประกอบ ดูเน้นที่เราอยากไป

  1. หนังสือเที่ยว
  2. รีวิวใน pantip
  3. เว็บต่างประเทศ เช่น tripadvisor , lonelyplanet , blogger ต่างประเทศ , wiki.travel
  4. Google

จากนั้นผมก็จะมากรอกลง Template ที่ผมตีขึ้นมาง่ายๆ หลักๆคือ วันนี้ไปเมืองไหน และ นอนที่ไหน เอาไปใช้ตามได้ไม่หวงครับ

4. จองที่พัก

.       ข้อถัดมา เมื่อเรารู้ว่าแต่ละวันเราจะนอนที่ไหนแล้วก็ต้องจองที่พักกันครับ ซึ่งปกติผมก็จะค้นๆลองมองหาจากเว็บ agency ทั้งหลาย เช่น Agoda,Booking,Expedia และเครือโรงแรมที่อยากแนะนำให้รู้จักคือเครือของ AccorHotels 

.       AccorHotels ไม่ใช่ชื่อของโรงแรม แต่เป็นชื่อของ “เครือโรงแรม” ซึ่งจะเรียกได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการโรงแรมโลกเลยก็ได้ว่าได้ ก็พี่ท่านเล่นมีโรงแรมในมือกว่า 3700 แห่ง ถ้าไปเมืองไหนก็ต้องเจอหล่ะครับ โรงแรมในเครือนี้ก็จะมีพวกหรูแบบ Novotel , Pullman , Mercure หรือถ้าเอาราคาย่อมเยาลงมาหน่อยที่คุ้นๆกันก็จะเป็นพวก IBIS ครับ

.       ถ้าไปกับครอบครัวพอมีงบขึ้นมาหน่อยสัก 3-5 พันต่อคืนลองมองโรงแรมในเครือ AccorHotels ดูก็เป็นทางเลือกที่มั่นใจได้เลยว่าจะได้จะได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจแน่ๆ จองได้ทางนี้ >> click<<

5. ลงรายละเอียด

 

.   จริงๆแล้วปกติผมจะจบที่ 4 ขั้นตอนด้านบนครับ แต่ถ้ามีเวลาว่างจะค่อยมาดูรายละเอียดกันอีกที

  • แต่ละวันจะมี Landmark อะไรทีจะไปบ้าง?
  • การเดินทางในแต่ละเมืองเป็นยังไง มีรถบัส หรือ บัตรเหมาอะไรน่าซื้อไม๊?
  • จะเดินทางข้ามเมืองได้ยังไง?
  • ค่าใช้จ่ายแต่ละอันประมาณเท่าไหร? ( เพื่อจะได้แลกเงินไปได้ถูก )

พอได้ข้อมูลก็มากรอกลง Template แบบนี้ครับ ค่อยๆใส่ไปอะไรไม่รู้ก็ไม่ต้องเครียดกับมันเดียวไปถามเอาหน้างานได้

         ด้วย 5 ขั้นตอนง่ายๆไล่ตามขั้นตอนนี้ แค่นี้ก็ทำให้เรามั่นใจก่อนไปเที่ยวต่างประเทศสนุกๆด้วยตัวเองกับได้แล้วหล่ะครับ

 


มาพูดคุยกับชิล มนุษย์เงินเดือนที่ฝันจะไปรอบโลกได้ที่ช่องทางนี้เลย

Facebook : http://www.fb.com/ChillJourney

Instagram : @ChillJourneyTH

 

Exit mobile version