ถ้าจะบอกว่า “ซาปา” เป็นสวิสฝั่งเอเชียเราว่าก็พูดได้ ด้วยวิวที่ว้าวตลอดทางระหว่างนั่งกระเช้าขึ้นเขาผ่านสายหมอก สู่ยอดเขาฟานสิปัน วิวมันสวยตลอดทางจนไม่สามารถละสายตาไปได้เลย และนี่คือแพลน 2 วัน 2 คืนในซาปาของเรา ถ้าคุณเป็นสายชิลล์ ชอบภูเขา ชอบหมอก ชอบนาขั้นบันได ตามแผนเราไปได้เลยไม่ผิดหวัง
ชิวไม่ได้ไปซาปามา 2 ปีตอนนี้คืออลังมาก นางสร้างเก่งเหลือเกินพี่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทางด่วนอย่างดีก็พร้อม นั่งรถ 5 ชม.จากฮานอยถึงซาปาเลยแบบสะดวกสบาย หรือจะไปทางรถไฟก็ชิคไม่น้อย ตัวเมืองคือเจริญแบบเจริญ! ร้านข้าวดีๆ คาเฟ่ชิคๆ ร้านกาแฟวิวเทพ หรือ ร้านชานงชานมคือนางมีครบหมด แถมอร่อยได้มาตรฐานด้วยนะไม่ใช่ไก่กาอาราเร่
ที่พักเราแนะนำสองที่ดีเลิศทั้งคู่แบบประหยัด Sapa Meriton Bourtique Hotel แต่ถ้าเอา5ดาววิวอลังก็ Pao’s Sapa Leisure Hotel
วิธีไปซาปา
ขอเริ่มต้นสมมุติว่าพวกเธอทุกคนอยู่ฮานอยแล้วกันนะ ปัจจุบันไปซาปามีวิธีหลักๆสองทางคือ
- นั่งรถบัส ไม่ว่าจะเป็นแบบธรรมดา หรือแบบสบายหรูหราระดับเฟริสคลาส ถ้าเอาแบบไฮโซหน่อยก็แนะนำยี่ห้อ Sapa express ใช้เวลา 5 ชม. ชิวนั่งแล้วชอบนะเจ้านี้
- นั่ง night train รถไฟสุดเก๋วิธีการเดินทางสุดคลาสสิคในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลกก็ไม่ผิด อันนี้ก็จะแพงกว่า นานกว่า สบายน้อยกว่า แต่คูลกว่ารถบัสสิบล้านเท่า พวกเธอก็ลองเลือกดู แล้วรถไฟก็จะมีหลายเจ้ามาก รถไฟที่ชิวนั่งชื่อว่า Chapa express train ออก 4 ทุ่มถึงสถานี Lao cai ตอน 6 โมงเช้า จากนั้นจะมีรถไปส่งถึงโรงแรม ใช้เวลาอีก 1 ชม.ครับ ชิวแนะนำจองตรงเลย เพราะจะถูกกว่าผ่านเอเจ้นท์ เว็บนี้นะ official (มั้ง) เดียวเค้าจะส่งเมลล์กลับมาคุยเรื่องจ่ายตังค์ เราได้มา 36$ แถมรถส่งถึงซาปาฟรี https://www.chapaexpresstrain.com.vn/
ส่วนตัวเราไปด้วยรถไฟ ส่วนขากลับเรากลับด้วยรถบัสนะ เอารีวิวไปแบบสั้นๆ รถไฟคือเท่กว่าคูลกว่า นอนไปโผล่เช้าเลย ประหยัดเวลา แต่รถบัสไวกว่าและนั่งสบายกว่า เลือกเอาตามความสบายความหรู ความอยากถ่ายรูปนาจา
Day1: Sapa – Café in The clouds – Cat cat village
จากที่บอกเรานั่งรถไฟมาเพราะอยากคูล แบบมันเป็นรถไฟในฝันของเรา รถไฟจะไปจอดที่สถานี Lao cai จากนั้นก็ต่อ shuttle bus ก็มาจอดให้ใกล้ๆที่พักตอนเช้า เราลากกระเป๋าไปเช็คอินที่ Sapa Meriton Bourtique Hotel ใจคิดนะว่าขอให้ห้องว่างเหอะน้องอยากนอนให้เต็มตื่นสักงีบ!
ข่าวดีจากพนักงานต้อนรับอัธยาศัยดีคือเราสามารถเข้าพักได้เลยเพราะห้องว่าง ปลื้มมากกกก ด้วยความมารถไฟมันฉึกฉักนอนไม่หลับเต็มอิ่มนักอยากอาบน้ำแล้วทิ้งตัวลงนอนสุด ที่พักเราชื่อ Sapa Meriton Bourtique Hotel จองผ่าน booking.com แนะนำมากเพราะทำเลดีสุดๆอยู่ใจกลางเมือง ห้องดีมาก เตียงนอนสบาย สะอาด น้ำแรง มีน้ำอุ่น พนักงานก็ดี อาหารเช้าอร่อย โอ้ยคือดีแบบไม่รู้จะติอะไรจริงอะ แล้วราคาคือดีมากไปอีก!
เจอเตียงดูดวิญญาณไปตื่นมาอีกที 11 โมง!! โอ้ยยยยตกใจ รีบหยิบเสื้อโค้ชตัวเก่ง คว้าเป้แล้วลงไปรับกุญแจมอไซค์ เราก็เช่าจากที่พักแหละ เราคิดว่าเช่ามอเตอร์ไซค์มันเดินทางสะดวกดี แต่ถ้าพวกเธอขับไม่เป็นก็ใช้บริการแท็กซี่แทนก็ได้ แต่ถ้าขับเป็นแว๊นซ์ในตัวเมืองก็โอเคนะไม่ได้อันตรายอะไร
พิกัดแรกคือร้านกาแฟวิวเทพ ชื่อ Café in The clouds รอบก่อนมาก็ประทับใจรอบนี้ก็ยังประทับใจ นอกจากวิวจะดีงามสมชื่อแล้ว ตัวกาแฟเค้าก็ดีไม่น้อยเลยนะ เราสั่งกาแฟสไตล์เวียดนามมา หอมมันอร่อยมาก
เรานั่งอยู่ที่นี่เป็นชม.เลย มาเที่ยวเน้อะไม่ใช่มาเก็บแต้ม เน้นชิลล์ไปจ้า วิวแบบนี้นั่งกันไปยาวยาว ฟินจริงอะ
เต็มอิ่มกับบรรยากาศแล้วเราไปต่อกันที่ Cat Cat village ชื่อเหมือนหมู่บ้านแมวแต่มันไม่ใช่หมู่บ้านแมวนะ คืออ่านว่า กั๊ต กั๊ต ต่างหาก เป็นหมู่บ้านประมาณอารมณ์ชาวเขาชาวม้ง บ้านเราอะ ที่นี่จะเป็นหมู่บ้านที่ดังสุดในซาปา คนมาเที่ยวเยอะสุดเพราะมันใกล้ ห่างจากซาปาแค่ 3 กิโลแค่นั้นเอง ( เสียค่าเข้า70000ดอง)
ในหมู่บ้านก็จะมีทางเดินเป็นสัดเป็นส่วนมีบันไดปูนให้เดินตลอดทาง สองข้างทางนอกจากจะได้ชมวิวหมู่บ้าน ชมนาขั้นบันได แล้วก็จะได้เจอ การขายของ ขายของ ขายของ โอ้ย ชาวบ้านขายของเยอะเวอร์จนรู้สึกว่าปัจจุบันนี้เค้าคงเลิกทำมาหากินแบบดั้งเดิมแล้วอะ มาขายของนักท่องเที่ยวคงได้เยอะกว่า 555
ให้ทุกคนเดินมาจนถึงโซนน้ำตกและกังหันลมนะ มันจะไกลหน่อยแต่คุ้มค่ามากกกกกกก ตอนแรกเราเงิบอยู่นะกับหมู่บ้าน แต่พอเดินมาถึงจุดนี้คือฟินเลย ดีต่อใจมากกกก
และวันนี้เราก็ไม่ได้ทำไรมาก กินวนๆไปจ้าใจกลางเมืองของกินเยอะเวอร์ เอออออแล้วจะบอกว่าชาชีสร้าน Royal tea คือดีมากกกกกกกกกกกกก อร่อยจริงจังชาเอิร์ลเกรย์หอมมากทุกคน !!
DAY 2 : Fansipan – Step rice field
วันนี้แพลนคือตื่น 6 โมงเช้าออกไปรอถ่ายรูปแสงสีทองฉาบเมืองซาปามาฝากแฟนเพจ ตัดมาที่ความเป็นจริงเราตื่น 10 โมง! 5555 สายชิลล์ตัวจริงก็มาจ้า อะกลับมาเล่าต่อแพลนวันนี้จะนั่งรถไฟ ต่อกระเช้า ขึ้นยอดเขาฟานสิปันกัน ตั๋วก็ซื้อที่สถานีได้เลยหรือถ้าอยากจะอุดหนุนที่พักก็ซื้อกับเค้าก็ได้
ช็อตแรกคือให้ไปที่สถานีรถไฟฟานสิปันก่อน ก็อยู่ใกล้กับที่พักนั่นแหละเดินไป 5 นาทีถึง เอาจริงคือตกใจมากกับการพัฒนาแบบก้าวกระโดดของเวียดนาม รถไฟลอยฟ้าดีงามยั่งกับสวิส วิ่งตัดข้ามเมืองเชื่อมไปสถานีกระเช้าขึ้นเขาฟานสิปัน
กระเช้าก็คือเลิศมากเลยนะทุกคน มันดีงามระดับสวิสเซอร์แลนด์เลยอะเหมือนนั่งกระเช้ายุโรปเบอร์นั้น นี่เราไม่ได้เวอร์ไม่ได้อวย แต่คือรู้สึกดีปลอดภัยมั่นคงอะ เลิศๆนั่งกระเช้าทะลุหมอกไปเลยจ้า
พอมาถึงแล้วแอบตกใจในความสร้างเก่งของเวียดนามอีก! ตกใจแล้วตกใจอีก เรามาสองปีก่อนตอนนั้นมีกระเช้าแล้วแต่สร้างอะไรยังไม่เยอะ ตอนนี้คือสร้างเต็มครบไปอีกจ้า ทั้งวัดทั้งวังทั้งเจดีย์ ทั้งรถรางที่พาถึงยอดเขาโดยไม่ต้องเดินอีกแล้ว! โอ้ย สร้างเยอะแยะไปหมดแล้วคือเค้าทำดีด้วยนะไม่ใช่แบบเก่งแต่สร้าง วาง layout ได้ดีถ่ายรูปสวยลงตัวมาก
ไม่อยากพูดเยอะแต่อยากอวดรูป รูปทั้งหมดนี้คือใช้กล้องถ่ายนะ ไม่ได้ใช้โดรนถ้าทุกคนไปแล้ว เจอฟ้าเปิดแบบเราก็จะได้มองด้วยตาตัวเอง ฟิน ฟิน แบบนี้เลย นี่มันเมืองสวรรค์ชัดชัดอะแกร
บันไดนี้คือช่วงสุดท้ายก่อนถึงยอดเขาฟานสิปันแล้วนะ
และแล้วก็ถึงยอดเขาฟานสิปัน สูงที่สุดในอินโดจีน ที่ความสูงถึง 3143 เมตรจากระดับน้ำทะเล พอถึงจุดนั้นคือฟินมากจ้าาาาาาาาา มองลงไปทางไหนก็ฟินอะ สวยเวอร์
ช่วงเย็นเราไปปิดท้ายก่อนกลับสู่โลกแห่งความจริงด้วยวิวนาขั้นบันไดสุดเทพจากโรงแรมหรู Pao’s Sapa Leisure Hotel วิวดีเวอร์วังพนักงานบริการเลิศสมเป็นโรงแรม 5 ดาวจริง ราคาก็ไม่แรง สองพันกว่าเอง เราว่าเวิร์คมากกกกกก เรารักโรงแรมนี้ ถ้ารอบหน้าพาที่บ้านมาเที่ยวซาปาเราจะให้นอนที่นี่เลย รักมาก
เอาจริงไม่ต้องไปหรอกหมู่บ้งหมู่บ้านไกลๆอะเชื่อเรา เราไปมาแล้ว ให้มาพักโรงแรมนี้เลย แล้วถ้าใช้ CODE ที่เราให้ก็จะเหลือแค่ พันกว่าบาทเองอะคุ้มเวอร์
ทริปซาปาสายชิลล์ 2 วัน 2 คืนก็จะประมาณนี้ รู้สึกอิ่มรู้สึกคุ้มมาก ฟินมาก ชอบทุกสิ่งทุกอย่างในทริปนี้ที่สุด รู้สึกได้พักร่างชมวิวที่แท้ทรู ไม่ต้องเก็บอะไรมาก ขอเนื้อๆเน้นๆในทุกช็อต ซาปาเมืองในสายหมอกรอเสริฟความฟินให้เธออยู่ รีบกดตั๋วแล้วไปสิรอไร!
Sponsored by booking.com