รีวิว karaksa โรงแรมที่ทำเลดีสุดใน Sapporo อยู่ใจกลางถนนที่เที่ยวกินช็อป !

สำหรับบล็อกนี้จะมารีวิวโรงแรมที่ทำเลเลิศที่สุดในสามโลก โรงแรมตั้งอยู่ที่ถนนคนเดิน Tanuki Koji ของเมือง Sapporo สามารถเดินไปยังSusukino และ สวนสาธารณะ Odori park ได้ และ สามารถเดินเชื่อมจาก Sapporo station ได้เลยโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเจอเรื่องฝนหรือหิมะ หรือถ้าจะให้อธิบายง่ายๆให้เห็นภาพก็เหมือนเที่ยวกรุงเทพแล้วนอนอยู่กลางสยามนั่นแหละครับ! 

พักย่านนี้ก็ไม่ต้องห่วงเลยเรื่อง กิน เที่ยว ช็อป จะเช้ามืดดึกดื่นแค่ไหนก็มีให้คุณเดินเที่ยวได้ตลอดแบบไม่หมดดดดดดด  ช็อปปิ้งถือของจนเมื่อยมือแล้วย้อนกลับมาเอาของมาทิ้งไว้ในห้องแล้วลงไปช็อปต่อยังได้ !

ทริปนี้พอชิวแผนว่าจะต้องมีนอนที่ Sapporo นี่ก็นึกถึง karaksa hotel ก่อนเลยเพราะรอบก่อนที่ไปนอนที่ Kyoto & Osaka รู้สึกว่าโอเคมากกับแบรนด์นี้ ห้องดีมาก โรงแรมดีมาก ทำเลดีมาก ข้างของเครื่องใช้ครบ ไวไฟทั่วโรงแรม แล้วราคาก็แบบโอเคจ่ายได้จ่ายไหว  ด้วยรูปแบบแล้วจะเห็นในลักษณะของ hotel ในเมืองเลยนะครับตั้งอยู่ในย่านช็อปปิ้งเลยไม่ใช่แนวรีสอร์ทนะ  แม้ห้องพักจะไม่ใหญ่เวอร์นัก (แต่ก็ใหญ่กว่า business hotel ทั่วไปอยู่ ) แต่รับรองได้ว่าเค้าออกแบบได้ดีจริงๆตรงตามที่อ่านรีวิวมาเลยว่าเป็น compact hotel ที่จัดสรรพื้นที่ได้ดีมาก มีทุกอย่างที่คุณต้องการแบบครบครัน

จองที่พัก  Karaksa Hotel Sapporo ในราคาดีที่สุดผ่าน booking.com  >>> Click <<<

จองที่พัก Karaksa Hotel Sapporo  ในราคาดีที่สุดผ่าน agoda.com    >>> Click <<<

จองที่พัก Karaksa Hotel Sapporo  ในราคาดีที่สุดผ่าน expedia.com >>> Click <<<

นี่คือถนนช็อปปิ้งที่ดังสุดคึกคักสุดใน Sapporo และโรงแรมก็อยู่ในถนนนี้เลย ทำเลดีเกิ้นนนนนนนน

ไปครับไปสำรวจกันต่อ ในส่วนของโซน Lobby จะประมาณนี้เลย โล่งๆเคลียร์ๆ ตอนเข้าเช็คอินพนักงานคือบริการดีมากกกกกกกก Japanese standard มาเต็มให้การต้อนรับอย่างดียิ้มแย้ม  พนักงานพูดภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียวครับ และตอนที่เรา check-in ที่นี่มีกิมมิคเล็กๆคือเค้าจะให้เราเลือกการทำความสะอาดห้องครับว่าเราจะทำแบบไหนด้วย

• Standard : อันนี้ทำครบถ้วน เปลี่ยนทุกอย่างตามปกติ
• Eco : ถ้าคุณเลือกรักษ์โลกขึ้นมานิดหนึ่งให้ทำความสะอาดแบบนี้คือแค่เปลี่ยนผ้าเช็ดตัว กับ เคลียร์ขยะในห้อง คุณก็จะได้เหรียญไปหยอดตู้น้ำฟรีที่ชั้น 2 นะ

ไปห้องพักเรากันครับ ทริปนี้นี้ชิวมาเป็นครอบครัวนะ ( ผู้ใหญ่ 4 เด็ก 2 ) ก็เลยเลือกแบบ Connecting room ไว้ครับคือเป็นห้อง Twin with Extra Bed 2 ห้อง ที่ทะลุกันได้  ซึ่งที่ karaksa เค้าก็จะมีห้องหลากหลายแบบให้เลือกอยู่  ไม่ว่าจะมาเดี่ยวมาคู่มาเป็นครอบครัวเลือกได้เลยตามที่ต้องการ  โดยห้องแบบ connecting room ก็จะเป็นห้องที่คุ้มค่าที่สุดสามารถพักได้ถึง 6 ท่านเชียว!

ดูข้อมูลรูปแบบห้องพักได้ที่นี่ครับ >> https://karaksahotels.com/en/sapporo/room/ 

พอเข้ามาในห้องแล้วรู้สึกได้ถึงความสะอาด และน่าพักมากครับ ใช้โทนสีไม่มากดูเรียบหรูดี มีสีไม้เข้ามาช่วยเสริมให้รู้สึกบรรยากาศสบายมากขึ้น

ในส่วนของห้องน้ำนั้นจะถูกแยกเป็น 3 โซนครับ สามารถใช้แยกกันได้ไม่ต้องรอคิวกัน  เค้าออกแบบมาได้ดีมากๆ ณ จุดนี้

• ห้องขับถ่าย : อยู่ทางหน้าสุดเข้ามาแล้วเจอเลย
• โซนอ่างล้างหน้า : อยู่ด้านในสุด
• ห้องอาบน้ำ : อยู่ด้านในสุด ( ตรงข้ามกับอ่างล้างหน้า )

โซนห้องน้ำมีฉากกั้นด้วยเพื่อความเป็นส่วนตัว เผื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรแบบนี้นะ  พอผ่านประตูมองทางซ้ายจะเป็นโซนล้างหน้า มองทางขวาจะเป็นห้องอาบน้ำ

• อุปกรณ์เครื่องใช้ครบครันตามมาตรฐานญี่ปุ่นที่คุณไม่ต้องขนอะไรมาเลย ไม่ว่าจะเป็น สบู่ ยาสระผม หวี ที่โกนหนวด แปรงสีฟัน คอตตอนบัด สำลี โอ้ยครบทุกอย่าง!

ที่หัวเตียงมีการออกแบบปลั๊กไว้ได้เข้ากับยุคนี้มาก  มีที่เสียบชาร์จ usb ให้ด้วย!

ส่วนของอุปกรณ์จำเป็นอื่นในห้องก็มีครบจริงๆ คือทุกอย่างออกแบบมาได้ดีจริงๆ #กราบบบบบบ สามารถยัดทุกอย่างเข้าไปในห้องได้โดยไม่รู้สึกว่ามันอึดอัดเลยแม้แต่น้อย!

• ชุดชงชา/กาแฟ
• กาน้ำร้อน
• ตู้เย็น
• ทีวี
• โทรศัพท์
• โต๊ะนั่งทาน

มีอุปกรณ์Handyให้บริการ สามารถเอาออกจากห้อง และใช้ค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต และยังสามารถโทรศัพท์ในและนอกประเทศได้ด้วยนะ แล้วส่วนตัวชอบแผงไฟของโรงแรมนี้มาก หัวปลั๊กเป็นแบบ universal เลย ไม่ว่าจะมารูปแบบไหนมาจากประเทศอะไรก็ก็เสียบได้ไม่ต้องหาหัวแปลงให้ยุ่งยาก รวมทั้งมีช่องเสียบ usb ด้วยเอ้า! ยุคนี้อะไรๆก็ชาร์จผ่าน usb จิ้มไปเลยจ้าไม่ต้องใช้ adapter

ชุดนอน แน่นอนว่าไม่พลาด! มีให้ตามมาตรฐานโรงแรมญี่ปุ่น

ถ้าเป็น Connecting room แบบเราก็จะเปิดประตูเชื่อมหากันได้นะ  หรือถ้าอยากปิดก็ได้เช่นกันอย่างที่บ้าน อาม่า(แม่ผม)จะนอนไว แต่หลานๆเล่นเสียงดังตอนดึกๆพอจะเข้านอนก็จะปิดประตูกันเสียงเด็กก่อน เช้ามาค่อยเปิดใหม่ 555

แล้วที่โรงแรม karaksa sapporo ก็มีห้องที่น่าสนใจอีกประเภทหนึ่งคือ Japanese style room ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมด้วยที่เหมาะสำหรับคนที่อยากเข้าถึงความเป็นญี่ปุ่นให้ถึงที่สุด ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวล่ะ

โซนบ่อน้ำร้อนในร่ม

ถ้าใครชอบอากาศแบบถ่ายเท อากาศหนาวๆก็มาแช่น้ำร้อนด้านนอกก็ฟินเหมือนกัน ( ส่วนตัวชอบนี้ ท่อนบนสูดอากาศเย็นๆไป ส่วนตัวก็แช่น้ำร้อน ฟินมากกกก! )

ในชั้นเดียวกันก็จะมีโซนห้องนั่งเล่น มานั่งพักผ่อน ใช้เก้าอี้นวด อ่านหนังสือ กดตู้น้ำมาดื่มก็ได้

เก้าอี้นวด Horigotatsu และโต๊ะที่ให้ความอุ่นญี่ปุ่น รวมทั้งโซฟา

ตู้กดน้ำฉบับพิเศษ!  RoonⓇ ตู้ขายเครื่องดื่มที่ขายเฉพาะที่ฮอกไกโดเท่านั้นด้วยนะ

ความครบครันยังไม่จบ! มีตู้ซักผ้าหยอดเหรียญด้วยเอ้าาาาาา จะพักยาวหรือเตรียมเสื้อผ้ามาน้อยก็ไม่หวั่น โยนเข้าตู้ซักอบในคราวเดียวกันไปเลยจ้า

มาต่อที่โซนสุดท้ายก็คืออาหารเช้า เป็นอาหารเช้าที่จัดเต็มคุ้มค่าเลยทีเดียว มีครบตั้งแต่อาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่น สไตล์ฝรั่ง สลัด ขนมหวาน ชา กาแฟ น้ำส้ม นม อะไรมีครบถ้วนแบบกินได้ไม่อั้น !   และความพิเศษของห้องอาหาร Northern Buffet Restaurant Hana 華 นี้คือเค้ามักมีเมนูที่ใช้วัตถุดิบของฮอกไกโดตามฤดูกาลต่างด้วยนะ

กาแฟดีมากๆขอบอกกกกกกกกกกกกกก

มื้อเช้าของเราก็จะประมาณนี้  อย่าถามว่าทำไมกินน้อยยยยยย เดียวไปตักเพิ่ม !

สำหรับรีวิวโรงแรม karaksa hotel sapporo ก็จะประมาณนี้ครับผม เป็นโรงแรมที่สะดวกสบาย เป็น compact hotel ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพมีครบทุกสิ่งอัน Location ดีเวอร์ตั้งอยู่ที่ถนนคนเดิน Tanuki Koji สามารถเดินไปยังSusukino และ สวนสาธารณะOdori parkได้ และ สามารถเดินเชื่อมจากSapporo stationได้เลย ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอเรื่องฝนหรือหิมะ หลายๆคนเที่ยว Hokkaido ก็มักจะเช่ารถขับที่นี่มีที่จอดรถในราคาไม่แพงให้ด้วยครับ