ถ้าอยากพัก ณ จุดนี้ขอเชียร์เกาะสีชังแบบชูป้ายไฟ
เกาะสีชังมีครบทั้งหาดทั้งทะเลทั้งของกินทั้งที่พักร้านกาแฟชิคๆในราคาน่าคบ
ไม่แพงแรงเวอร์อย่างเกาะอื่น ชาวบ้านยังอยู่กันแบบพึ่งพาไม่พาณิชย์อวยฝรั่งมากจนรู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้า
ตามเรามานะเราจะเล่าให้ฟัง
ที่พักแนะนำเกาะสีจัง
เราพักที่ Somewhere hotel โรงแรงสวยๆ คุมโทนสีฟ้าขาว ห้องหรูมาก ถ่ายรูปขึ้นเวอร์ ในราคาน่ารัก
จองที่พัก Somewhere Koh Sichang ในราคาดีที่สุดผ่าน booking.com >>> Click <<<
จองที่พัก Somewhere Koh Sichang ในราคาดีที่สุดผ่าน agoda.com >>> Click <<<
#การเดินทาง
กรุงเทพ-ศรีราชา
- รถตู้ : นั่งไปลงโรบินสันศรีราชา แล้วต่อตุ๊กๆไปยังท่าจรินทร์
- รถส่วนตัว : ถ้าพักที่โรงแรมSomewhere Koh Sichang เหมือนผมสามารถไปจอดที่โรงแรมแคนทารีเบย์ ศรีราชา ได้ฟรีและเค้าจะมีรถไปส่งให้ถึงท่าเรือเลย
ข้ามไปยังเกาะสีชัง
มีเรือโดยสารออกทุก 1 ชั่วโมงตรงเป๊ะ เช่น 12:00 13:00 14:00 เป็นต้น
ควรไปก่อนเวลา 15 นาทีเพราะเค้าออกตรงเวลาจริง
—
เริ่มจากท่าเรือจรินทร์ (ท่าเกาะลอยปิดปรับปรุง2ปี) ซื้อตั๋วข้ามฝั่งไปเกาะสีชัง ราคา 50 บาท
โดยเรือจะออกทุก 1 ชั่วโมง ออกตรงเป๊ะๆ อย่าติดนิสัยคิดว่าเรือต้องออกเลท ตกเรือไม่รู้นะจ๊ะ
เรือข้ามฟากจะใช้เวลาประมาณ 45 นาทีระหว่างนี้ก็มองน้ำมองทะเล กินขนมวนไปก่อน ใครมีใหล่คนข้างให้ซบก็หาจังหว่ะงีบเอาได้
ตัดภาพมาตอนถึงท่าเรือสีชัง! ที่เกาะสีชังมีทางเลือกให้ 2 ทาง คือ
- จ้างรถสกายแลป เหมาเที่ยว 4 ที่ทั่วเกาะ 250 บาท
- เช่ามอไซด์ 300 บาทต่อวัน(รวมน้ำมันแล้ว)
ถ้าขี่มอไซด์เป็นขี่แข็งเราแนะนำให้เช่ามอไซด์จะสะดวกสบายสุด คืออยากแวะตรงไหนก็แวะ อยากไปตรงไหนก็ได้ ในขณะที่รถสกายแลปนี่ถ้าไปนอกเหนือ 4 ที่จะบวกเพิ่มค่อนข้างแพงเลย เช่น ที่ละ 100 บาทงี้
วันที่ไปถึงมีพวกกระเป๋าไรเยอะแยะ เลยโทรบอกทางที่พักให้ส่งรถมารับก่อนเค้าก็แจ้งมาว่าให้ขึ้นสกายแลปเบอร์ 98 นะ พอขึ้นเรือมาก็เจอรถเบอร์ 98 เลย จุดนี้เริ่มประทับใจโรงแรมละว่าเลือกไม่ผิด สวย ขาว คลีน !
นั่งแค่ 5 นาทีเองมั้งเกาะสีชังเป็นเกาะเล็กๆเราก็มาถึงโรงแรมซัมแวร์ Somewhere Koh Sichang โรงแรมที่ตบแต่งสไตล์ชิคๆคุมโทนสีน้ำเงิน ฟ้า และ ขาว มีมุมถ่ายรูปสวยๆโดนใจวัยรุ่นแบบเรามาก
ด้วยความที่มาถึงบ่ายสองเช็คอินและออกไปเที่ยวทันที ไม่ช่ายยย นั่นไม่ใช่เรา มันร้อนเกินไปปปปป ในเมื่อห้องพักเราดีขนาดนี้เปิดแอร์แรงๆแล้วนอนพักผ่อนกันดีกว่าจะรีบทำไม !
รีวิวที่พักกันหน่อย ที่โรงแรมซัมแวร์นี้เป็นรีสอร์ทขนาดเล็กมีเพียง 20 ห้องเท่านั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเสียงเอะอะรบกวน เหมาะสำหรับการพักผ่อนขั้นสุด ห้องทุกห้องเหมือนกันหมด ชั้นบนจะเป็นวิวทะเล ชั้นล่างจะเป็นวิวสระน้ำ และ ด้านขวาๆจะเป็นวิวสวน
ในห้องพักมีอุปกรณ์ครบครันตามสไตล์โรงแรมในเครือ Cape and Kantary สบู่ แชมพู ครีมนวด โลชั่น ไดร์เป่าผมทุกอย่างครบจบเลยไม่ต้องขนอะไรมาทั้งนั้น
ห้องน้ำเป็นแบบฝักบัว น้ำอุ่นมีตลอด 24 ชั่วโมง มีกระจกใสกั้นระหว่างโซนอาบน้ำและโซนขับถ่าย ห้องน้ำก็ยังตบแต่งเข้าธีมฟ้าขาว เหมือนเดิม โคตรคูล
ทุกๆห้องจะมีระเบียงให้ออกมานั่งรับลมทะเลได้มีเก้าอี้ให้นอนเล่น และ โต๊ะเล็กๆพร้อมเก้าอี้2ตัวสำหรับสรรค์สรรเบาๆ
ต่อที่สระว่ายน้ำขนาดย่อม ยังสวยงามคุมโทนงานดีไม่ผิดเพี้ยน
จองที่พัก Somewhere Koh Sichang ในราคาดีที่สุดผ่าน booking.com >>> Click <<<
จองที่พัก Somewhere Koh Sichang ในราคาดีที่สุดผ่าน agoda.com >>> Click <<<
พอช่วงเย็น แดดร่มลมตกเราก็แว๊นซ์มอไซด์ไปดูพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในเกาะสีชัง “ช่องเขาขาด” จากโรงแรมไปง่ายมาก ถนนดี ขับมอไซด์ไป 10 นาทีก็ถึง พอถึงแล้วอึ้งเลย คือมันสวยมากจริงๆ !!
ถ้าใครไม่อยากเดินก็หยุดแค่ตรงที่เค้าทำไว้ให้ชมวิวก็ได้ แต่ถ้ามีแรงสักนิดขอเรียนเชิญให้ไปต่อเดินไปถึงสุดแหลมเลย วิวตรงนั้นอย่างฟิน เราการันตีว่าคุ้มค่าเหนื่อยแน่
ชมวิวฟินาเล่แล้วแว๊นซ์มอไซด์กลับมาที่พัก ทานข้าวที่โรงแรม ห้องอาหาร The Verandah ซึ่งก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง อร่อยจัดเต็มทั้งพิซซ่า ทั้งสเต๊ก ที่เราว่าพีคสุดคือ อาหารไทยอะอร่อยโคตรๆ
ปิดท้ายด้วยของหวานเป็นฮันนี่โทสต์ โอ้โหอร่อยจริงไรจริง โทสกรอบๆราดน้ำผึ้งโคตรดี
นอนหลับฝันดีกับเตียงนุ่มๆตื่นเช้ามาทานอาหารเช้า ที่นี่จะเป็นบุฟเฟ่แบบ a la carte มีพวกขนมปัง ผักสลัดให้ตัก แต่ไส้กรอกไข่ ข้าวต้มสั่งเอาแต่สั่งได้ไม่อั้นพวกเธอจะกินแค่ไหนก็ได้
อิ่มแล้วอาบน้ำไปเที่ยวเกาะสีชังกัน เนื่องจากเราพาแม่ไปด้วย ดังนั้นคงไม่เหมาะที่จะแว๊นซ์อะนะกลัวล้มทั้งคู่เลยให้ทางโรงแรมเรียกสกายแลปมา ตอนเช้าเราจะไปแค่ 2 ที่ก่อนคือ “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังเคารพนับถือ ลักษณะเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็นศาสนสถาน ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทย
และที่สำคัญ!! ตรงนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากกกก สามารถมองเห็นไกลทั่วทะเล และวิวมุมสูงของเกาะ งานดีบอกต่อเลย
ที่เกาะสีชังช่วงเช้าจะมีตลาด ก็เลยให้พี่สกายแลปช่วยจอดแวะให้เราเดินเล่นนิดหน่อย ตรงนี้เราจะสามารถสัมผัสวิถีชีวิตคนเกาะสีชังได้ดี เค้าค้าขายอะไรกัน เค้าซื้ออะไรกัน เค้ากินอะไรกัน ถ้ายังไม่อิ่มท้องแตกก็ลองชิมของชาวบ้านดูก็ได้นะ
ขึ้นสกายแลปต่อไปยังสะพานอัษฎางค์ สะพานสีขาวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างสะพานทอดลงไปในทะเลบริเวณแหลม สะพานนี้สวยมากมีละครมาถ่ายหลายเรื่องแล้ว
พี่คนขับบอกเค้าเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่แถวๆหน้าสะพานอัษฎางค์นั่นแหละอร่อยสุดในเกาะ เราก็แบบว่าพี่โอเคไป ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกชามละ 40 บาทเครื่องเยอะแน่นใช้ได้เลย รสชาติโอเคแหละก็อร่อยระดับกลางๆ ไม่ได้เวอร์วังตามคำโม้ 555
ก่อนกลับแวะเข้าร้านกาแฟชื่อดังที่นี่หน่อยชื่อ Flower Blue Coffee & Bistro ร้านตบแต่งสวยงามอารมณ์ร้านทองหล่อเลย เด็กที่เกาะสีชังบอกห้ามพลาดนะพี่อร่อยมาก
คุณก็รู้นี่ประเทศไทย แดดแผดเผาระดับไหน….ดังนั้นโปรแกรมตลอดช่วงบ่ายเราคือ “นอน” นอนเล่นในรีสอร์ทสวยๆถ่ายรูปชิคๆอัพเฟสวนไปค่ะ
เรื่อยๆชิวๆไปพอ 4 โมงเย็นก็เรียกรถสกายแลปให้มารับอีกรอบเราไปชมวิวหลังเกาะกัน หลังเกาะนี้ก็สวยไปอีกแบบนะ วิวดีและคนน้อยมาก ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว
ชมวิวหลังเกาะเสร็จก็ไปหาดถ้ำพังกันต่อ หาดถ้ำพังเป็นหาดที่สามารถเล่นน้ำได้และรถเข้าถึงแห่งเดียวในเกาะสีชัง มาเล่นน้ำถ่ายรูปดูพระอาทิตย์ตกตรงนี้คือดีมากๆ หาดสวยสะอาด เก้าอี้ชายหาดนั่งฟรี พาเพื่อนพาแฟนมานั่งดูทะเลกันสุดๆ
ไปต่อที่จุดสุดท้าย ให้รถไปส่งที่แหลมหาดถ้ำพังอยู่ใกล้ๆกับหาดแหละ ที่นี่จะเป็นแหลมยื่นไปในทะเลเป็นอีกจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ดีงามไม่แพ้ช่องเขาขาดเลย นั่งชิววิวพระอาทิตย์ตกเพลินๆเหลือบมองนาฬิกา 6 โมงแล้ว ตัวว่าต้องกลับได้ละ ขึ้นสกายแลปกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแล้วแล้วขึ้นเรือ เป็นอันจบทริป 2 วัน 1 คืน เกาะสีชังสวยและสงบมากชิวรู้สึกเหมือนพบขุมทรัพย์ชั้นดีของเมืองไทยจริงๆ ตามเรามาเที่ยวนะเชียร์ !!
จองที่พัก Somewhere Koh Sichang ในราคาดีที่สุดผ่าน booking.com >>> Click <<<
จองที่พัก Somewhere Koh Sichang ในราคาดีที่สุดผ่าน agoda.com >>> Click <<<