รีวิวนี้พาไปเที่ยวศรีลังกา ประเทศน่าเที่ยวอันดับหนึ่งของปี 2019! เป็นประเทศดีงามจนชิวไปซ้ำสองปีติด หลายคนอาจจะร้องยี้คิดว่าต้องวุ่นวายแบบอินเดีย ป่าว!! คนศรีลังกาคือชิลล์มาก นิ่งมาก ไม่มีความวอแวอะไรเหมือนอินเดียเลย สามารถเที่ยวด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย อาหารทะเลก็เด็ดมาก ชิวแนะนำร้าน ministry of crab ไปกินกุ้งกินปูนะ คืออร่อยมาก ก.ไก่ล้านตัว รีวิวนี้ก็จะเป็นแบบ quick guide อ่านแล้วเข้าใจพอได้ concept ในการไปเที่ยวศรีลังกาพร้อมแผนเที่ยว 5 วันแบบง่ายๆเอาไปตามรอยได้เลย
#ข้อควรรู้ก่อนไป ศรีลังกา
01. ศรีลังกา อยู่ตรงไหนของโลก?
ศรีลังกาเป็นประเทศเกาะขนาดเล็กอยู่ล่างของประเทศอินเดีย อยู่ใกล้กับมัลดีฟท์ มีหลายสายการบินที่บินตรงไปถึงเมือง Colombo
02. ศรีลังกา วีซ่า ?
สำหรับการถือพาสปอร์ตไทย ต้องใช้วีซ่า แต่การไปเที่ยวศรีลังกาคือง่ายมากเพราะเราสามารถขอ Visa online ได้เลย หรือถ้าไป Transit แวะเที่ยวแค่โคลัมโบ สามารถขอ Transit visa ได้ฟรีด้วย แต่แบบนั้นจะอยู่ได้ 2 วันนะ ก็เลือกเอาว่าจะเที่ยวกี่วันตามสะดวก
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องวีซ่า >> https://www.eta.gov.lk/slvisa/visainfo/fees.jsp?locale=en_US
03. แลกเงินไปศรีลังกา ?
แนะนำให้แลกเงินสกุล USA / EU ไปจากไทยแล้วไปแลกเป็นเงินศรีลังกาเอาที่สนามบินครับ หรือถ้าตามร้านใหญ่ๆเค้าก็รับบัตรเครดิตนะ
04. การเดินทาง
ถ้าในโคลอมโบ เราแนะนำให้เรียก Uber น่าจะสะดวกสุดชัวร์สุด หรือถ้ามีสกิลการต่อรองที่ดีก็เรียกตุ๊กๆของที่นี่ได้นะ ส่วนข้ามเมืองที่นิยมก็มี 2 แบบครับคือนั่งรถไฟ หรือนั่งรถบัส ยังไงลองถามทางที่พักให้เค้าแนะนำก็ได้ คมนาคมที่นี่โอเคครับไม่โหดร้าย
05. ไปกี่วันดี?
ถ้าเอาแบบทริปเบสิคก็ตามลอกแผนนี้ได้เลยใช้เวลา 4-5 วันในการเที่ยว แต่ถ้าใครอยากเก็บให้ครบไฮไลท์จริงควรมีสัก 8-9 วันนะ ใครเวลาเยอะก็จัดไปเลย ต่อจากในรีวิวนี้แล้วไปที่เมือง Nuwara Eliya / Ella / Tangalle / Galle ไล่ไปเลยฮะครบประเทศพอดี
ช่วงแจกกกกก! ใครกำลังหาที่พักอยู่ มีเครดิตเงินคืนมาให้แบบจัดเต็ม 1000 บาท
เพียงจองที่พักจาก booking.com เว็บไซต์จองที่พักชั้นนำของโลกที่ชิวใช้ตลอดเวลา
อะจิ้มเลยจ้ะ https://www.booking.com/s/2ff5bcda
เงื่อนไข
*จองที่พักยอดรวม 2,000 บาทขึ้นไป
*จำกัด 1 สิทธิ์ต่อ 1 บัญชีผู้ใช้เท่านั้น
*ต้องผูกบัตรเครดิตบน Booking.com เพื่อรับเครดิตเงินคืนเท่านั้น
*เครดิตเงินคืนจะเข้าบัตรเครดิต โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 รอบบิล (30-60 วัน) หลังจากเข้าพักและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
*สามารถใช้สิทธิ์จองได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายนนี้
DAY1-2 : Bangkok – Colombo
01.วัดกัลณียา ถ้าให้เราเลือกแนะนำวัดสักวัดที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาถึงศรีลังกาก็ต้องวัดกัลณียาเลยครับ สวยมากจริงๆ พอได้ย่างก้าวเข้ามาก็จะได้พบกับทั้งความสวยงาม ทั้งความศรัทธา ความขลัง ความเก่า ครบรสมากมาก หรือใครไม่อินสายวัดวาอาราม วัดนี้ก็ยังเป็นวัดที่ถ่ายรูปขึ้นมาก IG spot ก็มา
วัดกัลณียา ชื่อเต็มว่า เกลานียาราชมหาวิหาร (Kelaniya Raja Maha Viharaya) ถือเป็นวัดประจำเมืองที่ชาวศรีลังกาให้ความเคารพอย่างสูงสุด เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 1,900 กว่าปีที่แล้ว โดยชาวศรีลังกาเชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ที่เป็นสาวกอีก 500 รูป ได้เคยเสด็จมายังวัดแห่งนี้ในวันวิสาขบูชา
ในบริเวณวัดมีพระเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสีขาวขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าเป็นพระเจดีย์ที่บรรจุพระแท่นบัลลังก์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับเมื่อคราวมาโปรดพญานาคมณีอัคขิกะและบริวาร จุดเด่นที่สำคัญของวัดคือพระวิหาร ซึ่งประกอบด้วยพระนอน ห้องประดิษฐานพระสารีริกธาตุ และภาพจิตรกรรมฝาผนังบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ศิลปินชื่อดังของศรีลังกาได้อุทิศเวลากว่า 20 ปีในการสรรค์สร้างภาพจิตรกรรมที่งดงาม
ชาวศรีลังกาเค้าก็จะมาขอพร เดินวนรอบโพธิ์กัน
02. บรรยากาศเมืองโคลอมโบ
โคลอมโบก็วุ่นวายไม่แพ้กรุงเทพอะนะ ด้วยความที่เมืองเค้ากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว มองไปทางไหนก็เห็นว่ากำลังก่อสร้างตึกระฟ้าเต็มไปหมด มองไปที่ผู้คนจะรู้สึกว่าเฮ้ย! หน้าคล้ายคนอินเดีย แต่ถ้ามองดีๆจะไม่ใช่! ความน่ากลัวของเมืองนี้เราว่าแทบไม่มี ผู้คนน่ารักเป็นมิตรมาก เออจะว่าไม่มีเรื่องให้เตือนเลยก็ไม่ได้เพราะเราก็เจอพวกพยายามชวนขึ้นตุ๊กๆไปเที่ยวพอตัว ( น่าจะโขกสับราคาใช้ได้ ) ถ้าไปไหนมาไหนเราแนะนำว่ากดเรียก Uber ดูจะเป็นทางเลือกที่มั่นใจกว่า
03. จตุรัสอิสระภาพ ( Independence Square Colombo ) อย่างที่รู้กันว่า ศรีลังกาอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมายาวนานกว่า 150 ปี พอได้อิสระภาพเค้าก็เลยสร้างจัตุรัสอิสรภาพสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ระลึก
04. วัดคงคาราม (Gangarama) วัดแลนด์มาร์คของเมืองหลวงแห่งนี้ที่ต้องมาเยือนแล้วกัน บรรยากาศในวัดก็คล้ายๆกับวัดพระเขี้ยวแก้วเลยครับคือรู้สึกได้ว่า ขลังมาก คนศรีลังกาเค้ามีความเชื่อและศรัทธากับศาสนาสูงมากกกกกกกก จะไม่เหมือนวัดในไทยที่จะรู้สึกสบายๆกว่า อันนี้ผมรู้สึกเค้ามีความตั้งใจภาวนากันสูง
วัดคงคาราม เป็นศิลปะผสมผสาน ระหว่าง ศรีลังกา อินเดีย ไทย จีน วัดคงคารามสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2428 (ค.ศ. 1885) ซึ่งเป็นยุคที่ชาวพุทธในศรีลังกาตื่นตัวเกี่ยวกับ การฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ภายในก็จะมีการเก็บสมบัติเก่าแก่มากมายเลย
ภายในโบถส์ ในภาพอาจจะดูไม่ใหญ่แต่ของจริงคือใหญ่มากครับ สูงกว่าคนละ 3-4 เท่า และรายละเอียดคือเยอะมาก วิจิตรงดงามมากต้องไปดูเอง
ป้ายระหว่างทางที่เจอไม่เกี่ยวกับวัด…สวยดีเลยถ่ายมา
ที่พักแนะนำในโคลอมโบ ( Colombo ) ทริปนี้เราได้พักโรงแรม 5 ดาวก็คือ Hilton colombo โรงแรมตั้งทำเลดีมาก ใจกลางเมืองสุด ไปไหนก็ง่าย มาตรฐานสมกับเป็น 5 ดาวอยู่นะครับทั้งพนักงานทั้งห้องอะไรดีหมด รวมทั้งความปลอดภัยคือสแกนกระเป๋ากันจริงจังมากเวอร์ ทุกใบต้องสแกน ยั่งกะเข้าสนามบิน!
ช่วงแจกกกกก! ใครกำลังหาที่พักอยู่ มีเครดิตเงินคืนมาให้แบบจัดเต็ม 1000 บาท
เพียงจองที่พักจาก booking.com เว็บไซต์จองที่พักชั้นนำของโลกที่ชิวใช้ตลอดเวลา
อะจิ้มเลยจ้ะ https://www.booking.com/s/2ff5bcda
เงื่อนไข
*จองที่พักยอดรวม 2,000 บาทขึ้นไป
*จำกัด 1 สิทธิ์ต่อ 1 บัญชีผู้ใช้เท่านั้น
*ต้องผูกบัตรเครดิตบน Booking.com เพื่อรับเครดิตเงินคืนเท่านั้น
*เครดิตเงินคืนจะเข้าบัตรเครดิต โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 รอบบิล (30-60 วัน) หลังจากเข้าพักและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
*สามารถใช้สิทธิ์จองได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายนนี้
06. Jami Ul Alfar Mosque มัสยิดแดงแห่งศรีลังกา
มัสยิดแดงนี้มีความสูง 6 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1909 ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่า Pettha ในกรุงโคลอมโบ เมืองหลวงของประเทศศรีลังกา ซึ่งชาวมุสลิมในศรีลังกายังคงใช้มัสยิดแห่งนี้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนามาจนถึงปัจจุบันนี้ ในปัจจุบันก็เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวมากกกกกก เป็น IG Spot ประจำเมืองเลยทีเดียวด้วยสีสันและลวดลายสวยงามอะนะ
ย่านนี้เป็นย่านการค้าปลีกค้าส่งที่สำคัญของเมืองโคลอมโบด้วย ดังนั้นเราแนะนำมากๆให้มานอกจากจะได้มาถ่ายรูปมัสยิดสีแดงแล้ว ก็ยังได้เห็นบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของคนที่นี่ด้วย อารมณ์เหมือนเดิมสำเพ็ง เดินคลองถม เดินตลาดนัดอะไรทำนองนั้นอะ สนุกกกก
07. Ministry of crab
ร้านอาหารที่ดังสุดในศรีลังกา! ห้ามพลาดดดดดดดดดดด เราไปศรีลังกามา 2 ครั้ง รวมกันทั้งหมดเกือบ 10 วัน นี่คือร้านอาหารที่อร่อยที่สุดเท่าที่เราทานมา !! ใครสายปู สายกุ้ง สายซีฟู้ดบอกเลยว่าห้ามพลาด โดยเฉพาะ เมนูกุ้งกระเทียม อือหือออออออออ กุ้งตัวใหญ่ยักษ์เวอร์เต็มปากเต็มคำ ทำมาสุกกำลังดี และอย่าลืมสั่ง ปูผัดพริกไทยดำ ( crab with black pepper sauce ) และ ปูผัดพริก ( Chilli crab ) ทั้งสองเมนูนี้คือฟินมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
คำเตือน! ร้านนี้โคตรแพง เราไปกินกัน 10 คนบิลออกมา 15,000 บาทนะครับ แต่ถือว่ากินกันแบบอิ่มเลยแล้วอร่อยมากกกกกกกกก ไม่เสียดายเงินสักบาท !!!!
DAY 3 : Dambulla – Sigiriya
วันที่สามเราออกเดินทางแต่เช้าวันนี้เราจะไปเที่ยว 2 มรดกโลก 2 แลนด์มาร์คดังของศรีลังกาคือ วัดถ้ำดัมบูลลา จากนั้นไปปีนขึ้นเขาที่ สิกิริยา กันนะ นั่งรถออกมาสักประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงจุดแรกที่วัดถ้ำดัมบูลลา เราจะต้องเดินขึ้นเขาเล็กน้อยสัก 10 นาทีพอได้เหงื่อ ไม่ใช่เหนื่อยนะ เพราะร้อน 555
08. วัดถ้ำดัมบูลลา (Dambulla Cave Temple)
ที่นี่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2534 ถือเป็นมรดกโลกแห่งล่าสุดในศรีลังกา สร้างโดยพระเจ้าวาลากัมบา หรือพระเจ้าวัฏฏคามณีอภัย พระองค์ทรงเคยพำนักในถ้ำที่ดัมบูลลา ช่วงที่พระองค์เสด็จพลัดถิ่นจากเมืองอนุราชปุระ เพื่อเป็นการตั้งหลักก่อนที่จะรวบรวมไพร่พลกลับไปรบกันอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาเมื่อพระองค์ทรงรบชนะ และเสด็จกลับขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้ทรงสร้างวิหารศิลาภายในถ้ำ ที่ดัมบูลลานี้ ภายในมีถ้ำทั้งหมด 5 ถ้ำด้วยกันมีขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกันออกไป ถ้ำทั้ง 5 ถ้ำ มีพระพุทธรูปประดิษฐานทั้งหมด 153 องค์รูปปั้นกษัติรย์ 3 องค์ และ รูปปั้นของเทวีและเทพในศาสนาฮินดูอีก 4 องค์
ความเท่ความแปลก ก็คือเค้าสร้างวัดกันในถ้ำเลยอะครับ แล้วก็มีภาพเขียนสีต่างๆคอยบอกเล่าเรื่องราวมากมายอยู่ในนั้น
09. ไปต่อที่เมืองสิกิริยา ไฮไลท์ดังสุดแลนด์มาร์คสุดของศรีลังกา มีคนบอกว่าคล้ายกับมาชูปิชู เพราะเป็นเมืองที่สร้างอยู่บนเขาเหมือนกันครับ ยอดเขาสิกิริยา (SIGIRIYA) เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดเดินขึ้นบันได 2,200 ขั้น!!! ซึ่งบนยอดเขานี้ในอดีตเป็นพระราชวังเก่า บางคนก็เรียกว่าเป็นเมืองคนบาปอะครับ เพราะตามตำนานเล่าว่า พระราชวังลอยฟ้าของพระเจ้ากัสยปะ นี้มีความน่าสนใจอยู่ว่า พระองค์ได้ก่อกรรมหนักหนาโดยการปลงพระชนม์พระราชบิดา แล้วก็เลยกลัวถูกเอาคืนเลยหนีมาสร้างวังอยู่บนเขา นั่นแหละฮะแบบย่อๆ
ก่อนเข้าชมเค้าก็จะมีส่วนของพิพิธภัณฑ์ก่อน ที่จะเล่าเรื่องราวความเป็นมาของที่นี่อะนะ ความสูงเท่าไหร โน้นนี่นั่น พอจบส่วนนี้ก็ได้เวลาฮึบบบบบ เดินขึ้นเขากันแล้วครับ เอาจริงๆความสูงก็ไม่ได้สูงมากนะ แต่ทำไมเหนื่อยมากกกกกกกกกก ก็ไม่รู้ แนะนำให้ใส่รองเท้ามาดีๆแต่งตัวเตรียมเหนื่อยได้เลย
อันนี้เดินขึ้นมาได้สักครึ่งทางก็จะเจอ ขาสิงโตแบบนี้ฮะ เป็นที่มาของอีกชื่อ Lion rock นั่นเอง แปลว่าเรามาได้ครึ่งทางแล้ว หลังจากนี้กัดฟันเดินต่ออีกไม่ไกล #เหรออออออออ
ทางดีครับไม่ต้องกังวล พาร่างตัวเองฟิตๆเดินให้ถึงก็พอ !
เฮ้!ในที่สุดก็เดินมาถึงยอดจนได้ แต่ก่อนพื้นที่นี้เป็นส่วนของปราสาททั้งหมดเลย มาสร้างกันได้ยังไงเนี่ย! บรรยากาศข้างบนสวยมากกกกกกกกกก คุ้มค่าทุกแรงขาที่เดินขึ้นมาแน่นอน ดีมากๆดีต่อใจสุด และที่เราเพิ่งเห็นคือภูเขาลูกโน้น ลูกในภาพน่ะ มันสวยมากเลย
บ่อน้ำในอดีต ที่เก็บกักน้ำไว้ใช้บนเขาแห่งนี้
ตอนแรกนัดกับน้องๆไว้ว่าจะไปปีนเขาอีกลูกหนึ่ง ที่อยู่ด้านหลังเขาลูกนี้จะถ่ายรูปสวย แต่พอชิวปีนกว่าจะถึงยอดเขาลูกนี้ก็ยอมแพ้แล้วครับ ปล่อยน้องๆไป ตัวเองนั่งชมวิวบนนี้ฟินๆดีกว่า ลมแรงดีมากและบรรยากาศดีมากกกก
คืนนี้เราพักที่เมือง Sigiriya ครับ รีสอร์ทชื่อ Heritance Kandalama ที่นี่ดีมากๆเลยชิวแนะนำ
เป็นรีสอร์ท 5 ดาวที่ซ่อนตัวอยู่ในเขาริมทะเลสาบ มองไปไกลๆจะเห็นเขา Sigiriya ที่เราเพิ่งไปปีนมาด้วยนะ ห้องพักคือดี้ดี ได้ฟิลล์ใกล้ชิดธรรมชาติม๊ากมาก
ช่วงแจกกกกก! ใครกำลังหาที่พักอยู่ มีเครดิตเงินคืนมาให้แบบจัดเต็ม 1000 บาท
เพียงจองที่พักจาก booking.com เว็บไซต์จองที่พักชั้นนำของโลกที่ชิวใช้ตลอดเวลา
อะจิ้มเลยจ้ะ https://www.booking.com/s/2ff5bcda
เงื่อนไข
*จองที่พักยอดรวม 2,000 บาทขึ้นไป
*จำกัด 1 สิทธิ์ต่อ 1 บัญชีผู้ใช้เท่านั้น
*ต้องผูกบัตรเครดิตบน Booking.com เพื่อรับเครดิตเงินคืนเท่านั้น
*เครดิตเงินคืนจะเข้าบัตรเครดิต โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 รอบบิล (30-60 วัน) หลังจากเข้าพักและชำระเงินเรียบร้อยแล้ว
*สามารถใช้สิทธิ์จองได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายนนี้
DAY4 : Kandy
จากนั้นเราก็นั่งรถกันยาวๆปลายทางอยู่ที่เมืองยอดฮิต Kandy เมืองแคนดี้ (Kandy) อยู่บนยอดเขา สูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 500 เมตร เป็นเมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของศรีลังกา เป็นเมืองที่ชิวชอบมากๆครับอากาศที่นี่จะค่อนข้างเย็นสบายตลอดปี มีทะเลสาบกลางเมือง บรรยากาศคือลงตัวมากๆอะเราชอบ
10. จุดแรกที่แนะนำคือจุดชมวิวเมือง Kandy ที่จุดนี้คือดีงาม มองเห็นวิวเมืองทั้งเมืองได้หมดเลย ต้องมา! ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินขึ้นเขาด้วยนะเพราะขับรถมาได้เลย
11. ตอนเย็นอย่าลืมไปดูโชว์ชื่อดังของเมือง Kandy colorful show ให้ลืมภาพความอลังการของโชว์บ้านเราไปก่อน อันนี้เหมือนไปดูในโรงละครย้อนยุค มีความบ้านๆสูงมาก แต่โชว์โดยรวมแล้วก็สนุกสนานดีนะ เป็นการแสดงวัฒนธรรม การเต้น ชุด เหมือนของหลายๆชนเผ่าอะไรงี้ ก็เพลินๆใช้เวลาประมาณ 45 นาที ราคาไม่แพงด้วย
12. ปิดท้ายด้วยวัดพระเขี้ยวแก้ว Temple of the Sacred Tooth Relic แลนด์มาร์คที่ต้องห้ามพลาดของเมือง Kandy เลยครับ อันนี้ชมกันตรงๆว่าเป็นวัดที่สวยและรู้สึกได้ถึงแรงศรัทธามากๆ เพราะส่วนตัวเป็นคนไม่ค่อยอินกับวัดนัก (คงเพราะเห็นมาเยอะ) แต่ที่นี่เราชื่นชมจริงๆว่าสวยจริงและควรค่าแก่การมาชมจริงๆ
หมายเหตุ : มีการเปิดให้เข้าชมพระเขี้ยวแก้วเพียงวันละ 2 รอบ เช้าและเย็น เท่านั้น ( แต่วัดเปิดหลายเวลา ถ้าไปช่วงเวลาอื่นก็สามารถเข้าไปไหว้ได้ แต่จะไม่เห็นพระเขี้ยวแก้วที่อยู่ด้านในหอ ) รวมทั้งควรใส่ชุดขาวทั้งชุดนะครับในการเข้าชม
DAY5 : Kandy – Colombo – Bangkok
ในส่วนของวันสุดท้ายก็ไม่มีอะไรมากครับออกตั้งแต่เช้ากลับไปสนามบินที่โคลอมโบ บินไฟลท์บ่ายสามกลับประเทศไทยจ้า สำหรับเพื่อนๆที่มีเวลามากกว่านี้เราแนะนำให้ไปเมือง Nuwara Eliya / Ella / Tangalle / Galle ต่อด้วยนะเมืองเหล่านั้นก็สวยมากๆจะเน้นไปที่ธรรมชาติ เน้นทะเลเยอะขึ้น แผนจะเป็นวงกลมย้อนกลับไปที่โคลอมโบพอดีครับ แต่ถ้ามีเวลาน้อยแบบแค่ 5 วันแบบเราแผนนี้ก็ถือว่าโอเคแล้วล่ะ
นี่ก็เป็นการมาเที่ยวประเทศศรีลังกา รอบ 2 ของชิวแล้วนะถือว่ายังประทับใจเหมือนเดิม ผ่านไป 1 ปีคนก็ยังใจดีไม่เปลี่ยนเลย ศรีลังกาค่อนข้างปลอดภัยมาเที่ยวเองได้ไม่น่ากลัว ลองเปิดใจแล้วมาเที่ยวศรีลังกากันดูนะแล้วจะรักเหมือนเรา 🙂 ถ้าใครอยากอ่านต่อทริปที่แล้วเราไปเมือง Galle มาด้วยนะเมืองมรดกโลกเหมือนกัน สวยเหมือนกันเลย
รีวิว “ศรีลังกา” เท่าที่เห็น Stop over 3 วัน 2 คืน ไปไหนทำอะไรมาบ้าง