. สวัสดีครับ ชิลพามาเดินชิลๆสวนรถไฟสถานที่ออกกำลังกายและถ่ายรูปยอดฮิต หลายคนไม่รู้ว่าชื่อเต็มๆของสวนรถไฟคือ “สวนวชิรเบญจทัศ” ซึ่งภาพทั้งหมดในรีวิวนี้จะถ่ายด้วยมือถือ Huawei G7 Plus ซึ่งมีหลายโหมดการถ่ายรูปที่เหมาะกับคนที่ชอบเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นโหมด Good food โหมด Beauty โหมด Make up เฮ้ยผมไม่ต้องใช้โหมด Make up ก็ได้มั้ง เอ้าเริ่ม
ข้อมูลเบื้องต้น
“สวนวชิรเบญจทัศ” เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 375 ไร่ ตั้งอยู่ที่ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงจตุจักรเขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร มีเนื้อที่ติดกับสวนสาธารณะอีก 2 สวน คือ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ และสวนจตุจักร อยู่ในความดูแลของ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
การเดินทาง
วิธีการง่ายสุดคือนั่ง BTS มาลงสถานีหมอชิต หรือ MRT สถานีสวนจตุจักรครับ แล้วต่อมอเตอร์ไซด์ มาประมาณ 30-40 บาท
บรรยากาศ
. ภายในสวนค่อนข้างร่มรื่นทีเดียวในช่วงเช้าและช่วงเย็นมักจะมีผู้คนมาออกกำลังกายเยอะเลยแหละ ที่ยอดฮิตก็คือ การวิ่ง และ การปั่นจักรยานนะครับ โดยรีวิวนี้ผมไปหลังเลิกงานมีเวลาเดินเล่นชิลๆรอบๆสวนประมาณ 2 ชั่วโมง เดินมั่งนั่งมั่งไปตามเรื่องตามราว เข้าใจว่าตัวเองยังเดินได้ไม่ถึงครึ่งของสวนเลยแหละมืดซะแล้ว มาดูภาพรวมกัน
. จากปากทางเข้า เดินเลี้ยวตามเลนไปทางซ้ายจะเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งก็จะมีเรือคายัคให้พาย ถ้าใครพาแฟนมาจะมาพายมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งก็น่าสนใจไม่น้อยเลย
. โดยภาพรวมสวนจะคล้ายๆกันหมดครับ เป็นถนนเล็กๆแบ่งครึ่งเป็นสองเลน ทางแบบ one way สองเลนที่ว่านั้นทางด้านซ้ายจะเป็นเลนจักรยาน ส่วนทางด้านขวาจะเป็นทางสำหรับคนวิ่ง ระหว่างเดินก็ระวังอย่าไปเข้าเลนผิดนะครับเดี๋ยวโดนจักรยานชน เพราะบางคันเค้าก็ปั่นเร็วมากๆ
. ที่ผมชอบมากเพราะเวลาเดินในสวนรถไฟ เหมือนผมไม่ได้อยู่ในกรุงเทพมหานครที่วุ่นวายเลยครับ ตัวสวนสงบร่มรื่น มีนกหลากหลายชนิด มีกระรอก มีคนมาเดินเล่นใช้ชีวิตช้าๆ มีคนมาออกกำลังกายเยอะแยะ จะมาถึงตอนเย็นๆอยู่จนถึงหัวค่ำไม่ต้องกลัวเปลี่ยวเลย
. ผมมาเดินได้เกือบ 2 ชั่วโมงฟ้าก็เริ่มมืดซะแล้วยังเก็บได้ไม่ครบแต่ท้องเริ่มหิว เลยชวนไปหาอะไรกินกันที่ร้านดังย่านนี้ ร้าน“ไฟกลมธนา” ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรจากสวนรถไฟ จะเดินก็พอไหว แต่นั่งแท็กซี่ไปน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
. วันนี้มากัน 5 คนสายแข็งทั้งนั้นสั่งกันมา 6 อย่างลงกันรัวๆ แต่ละเมนูยั่วน้ำลายทั้งนั้น ก่อนจะกินก็เลยขอถ่ายรูปไว้ซะหน่อย ซึ่ง Huawei G7 Plus เค้ามีโหมด Good Food สำหรับถ่ายรูปอาหารด้วย เท่าที่ผมลองเล่นตัวฟังก์ชั่น Good Food ดู ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยปรับสีสันอาหารให้ดูน่าทานมากขึ้นครับ
กุ้งมะนาว – อร่อยดีครับ หวานๆเค็มๆเปรี้ยว กุ้งสดเด้งดี
หอยลายผัดพริกเผา– หอยสดมาก ขนาดตัวกลางๆ รสชาติใช้ได้ แต่ติดหวานเกินไปหน่อย
ทะเลโป๊ะแตก – ทะเลสดมากทุกอย่าง แต่ไม่เปรี้ยวอย่างที่คิดแฮะ ออกแนวคล้ายผัดฉ่า เครื่องโป๊ะแตกรสชัดดี รวมๆก็อร่อยดี
ปลาหมึกผัดไข่เค็ม – หมึกสด รสรวมๆก็โอเค แต่ติดหวานมากกกกก ต้องเอาน้ำปลาพริกมากลบเลยแหละ
ยำวุ้นเส้นทะเล – ก็รสมาตรฐานยำ ทะเลสดมาก รวมๆก็อร่อยดี แต่น่าจะแซ่บกว่านี้
ปลาดุกฟูผัดพริกขิง – เมนูดังร้านนี้เลยครับ ทุกโต๊ะต้องสั่ง แต่แอบติว่าติดหวานอีกแล้ว แล้วก็ไม่แซ่บเท่าที่เคยกินร้านอื่น
สรุปผล : เป็นร้านอาหารที่ใช้ของสดมาก ราคาค่อนข้างถูกถ้าเทียบกับคุณภาพ แต่รสชาติยังไม่จี๊ดจ้าดเท่าที่ควร และติดหวานไปหน่อย โดยรวมผมให้ผ่านครับ ถ้าได้ผ่านมาแถวนี้อีกก็คงกินอีกแหละ
. ก่อนจบรีวิวมาพูดถึงมือถือ Huawei G7 Plus ที่มาร่วมเดินทางในทริปนี้ซะหน่อย ซึ่งลองใช้แล้วบอกได้เลยว่ากล้องของรุ่นนี้ดีเกินคาดเลย เป็นเพื่อนเดินทางที่ช่วยให้สะดวกและสนุกสนานขึ้นได้จริงๆ เท่าที่ลองใช้มาสัปดาห์หนึ่งก็ประทับใจ กล้องหลัง 13 ล้านคมชัดกว่าที่คิดมากครับ และที่อเมซิ่งเลยนะคือกล้องหน้า มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และมีโหมดฺ Beauty ซึ่งจะช่วยปรับผิวให้เนียนกริ้บ ( ปรับได้ตั้งแต่เนียนระดับ 1-10 ) แบบว่าเนียนมากกกกก ตัวอย่างนี่ผมปรับไป 2 3 ระดับ หน้าใสกิ๊กเลย
. ยิ่งไปกว่านั้นมีโหมด Make up ให้เลือกถึง 9 แบบด้วยมันคือสุดยอดตามชื่อเลย สาวๆต้องชอบแน่นอน พอใช้กล้องหน้าส่อง กล้องก็จะปัดแก้ม ต่อขนตา ทำตาโต ให้เสร็จสรรพ พอใช้แล้วต้องร้อง เห้ยยยยยย!! ต่อไปก็ไม่ต้องแต่งหน้ากันแล้ว ( ขออภัยไม่มีภาพถ่ายตัวเองนะไม่กล้าถ่ายจริงๆมันแบ๊วไป 555 )
. มาคุยเรื่องตัวเครื่องมั่ง Spec จัดมาให้เต็มๆ ด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 616 แบบ Octa-Core Processor ( 8 core ) ความเร็ว 1.5 GHz +1.2GHz, พร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 3 GB และ หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB รันบนระบบปฏิบัติการ Android 5.1 (Lollipop) การใช้งานลื่นไหลสบายๆเลยหล่ะครับ
. ลองให้พี่ๆที่ทำงานเล่นกัน พอบอกราคาไปว่าหมื่นต้นๆก็อึ้งกันหมด ต้องเรียกว่าเป็นมือถือที่คุ้มค่าและหน้าจับตามองมากครับ เพราะด้วยสเปคที่จัดมาเต็มๆในราคาเบาๆ เพื่อนๆท่านไหนสนใจ สามารถดูข้อมูลเต็มๆได้ที่ลิงค์ http://bit.ly/1PkVG4D.
. ถ้าใครมีเวลา ลองหาวันว่างไปเดินเล่นสวนรถไฟ และไปกินของกินอร่อยๆย่านนี้ดู ทริปสั้นๆใช้เวลาแค่หลังเลิกงาน 3-4 ชั่วโมงก็พอ ตามรอยง่ายสุดๆ บวกกับตัวช่วย Huawei G7 Plus ถ่ายรูปอาหารสวยๆ selfie เนียนๆ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Beauty หรือ Make up (สำหรับสาวๆ) ยิ่งทำให้ทริปสนุกขึ้นอีกเยอะเลยครับ