จุดเริ่มต้นของทริปไต้หวัน
ได้เวลาพักเที่ยงของวันพุธ ผมเปิดเฟซบุ๊คเจอข่าว สายการบินพี่เสือ เปิดตัวทางบินใหม่บินตรงจากดอนเมืองไปไต้หวัน ผมลองกดเช็คราคาช่วงปีใหม่ดู หืม… 6000 บาท เฮ้ยราคาดี จากนั้นเลยโทรหาเพื่อนคู่หูชาวเที่ยว
ผม : “ไข่ ไปไต้หวันปีใหม่ไปป่าววะ ตั๋ว 6 พัน มึงชวนแม่มึงกูชวนแม่กู ไปกัน 4 คน”
ไข่ : “เออ…ไป” เพื่อนตอบรับการชวนไปเที่ยวภายใน 10 วินาที
ผม : “เดียวกูโทรไปหาแม่กูก่อนแป๊ป”
ตรู๊ด ตรู๊ด ผมโทรหาแม่ความกังวลใจ แม่บ่นหลายครั้งว่าปีนี้แกเที่ยวเยอะไปแล้ว ถ้านับจากต้นปีก็ … 3 ประเทศเอง
ผม : ” แม่ มีตั๋วโปรไปไต้หวันช่วงปีใหม่ สนใจไหม 6 พันเอง รวมๆทริปนี้ก็ไม่น่าเกินสองหมื่นหรอก น่าเที่ยวนะ Bla bla ” …
ผมอธิบายข้อดีสักพักเพื่อให้แม่ตายใจ
แม่ : ” เออฉันไปก็ได้ แต่เดียวชวนพี่ ม. และหลาน(3ขวบ) ไปด้วยนะ” ห๊ะ!อะไรนะ นี่ต้องเป็นไกด์เถื่อนนำทริปอีกแล้วเหรอ … ผมคิดในใจ
สรุปทริปเลยเกิดกะทันหัน สุดท้ายผมกับเพื่อนแยกกันเพราะต่างฝ่ายก็ต่างหอบหิ้วครอบครัวไปมากกว่าที่คิด
เพื่อนรวม 3 คน ของผมรวม 4 คน เราตกลงว่าเราจะแยกกันเที่ยวและมารวมกันบางวันที่ออกไปนอกไทเป เช่น ไท่ลู๋เก๋อ อาลีซัน
———–
6 โมงเย็นของวันที่ 27 ธันวา เรามาถึงสนามบินดอนเมืองต่อคิวเช็คอินสักพัก ถึงจังหว่ะชั่งกระเป๋า ผมซื้อน้ำหนักมา 40 กิโลกรัมแต่… กระเป๋าเรานั้นชั่งรวมแล้วพอดี 40 กิโล !! หลังจากเช็คอินเสร็จคือรู้เลยว่าต้องซื้อน้ำหนักเพิ่ม เพราะแม่กับพี่จะต้องช็อปเพิ่มแน่นอน พอเช็คอินเสร็จหลานผ่านตม.ไม่ได้ เพราะแม่มาคนเดียว พ่อไม่ได้มาด้วย !! กลัวว่าจะเป็นการลักพาตัวเด็ก วุ่นวายด้วยการให้ทางพ่อเด็กส่งเอกสารใบสูจิบัตร ผ่าน line มาให้เจ้าหน้าที่ดู สักพักก็ผ่านมาได้ เห้อ โล่งอกไปที
พอเข้ามาในสนามบินกินข้าวอย่างด่วนและก็รีบไปขึ้นเครื่อง และเรามาถึงสนามบินไทเป เวลาประมาณตี 1 ผ่านกระบวนการตม.เสร็จ รับกระเป๋า คืนนี้ผมจะพาแม่กับพี่และหลานตัวเล็ก นอนสนามบินกันครั้งแรก ผมหาข้อมูลมาดิบดีว่าให้เดินออกไปแถวๆผู้โดยสายขาเข้าจะนอนสบายกว่า
แต่ตอนนั้นดึกแล้วและเก้าอี้ทางซ้ายมือมันก็ว่าง สรุปเราเลยนอนตรงนี้แหละ งีบไปสักแป๊ปก็หิวเลยไปหาอะไรกินที่ร้านสะดวกซื้อชั้นล่าง ได้มาม่า กับ ชามะนาวมากินอิ่ม
ผมกับพี่สลับกันนอนเพราะเรารู้สึกไม่ไว้ใจกลัวของหาย แม้บรรยากาศในสนามบินจะดูไม่น่ากลัวเลยสักนิดเพราะเงียบมาก มีแต่พวกนอนค้างสนามบินอยู่แถวนี้เท่านั้นเอง
พอกินอิ่มก็ได้เวลานอน เราจะได้นอนประมาณ 4 ชม.พรุ่งนี้สัก ตี5ครึ่งเราจะเข้าตัวเมืองกัน …
———–
. ตี 5 ครึ่งผมไม่รู้ตัวว่าหลับไปแต่เมื่อไหร พี่ผมบอกว่าเช้าแล้วเข้าตัวเมืองกันเถอะเราไปล้างหน้าแปรงฟันกันในห้องน้ำสนามบิน จากนั้นเดินลงไปชั้นล่างเพื่อนั่งรถบัสเข้าเมือง ผมอ่านมาว่ามีรถบัสของยี่ห้อหนึ่งที่จะไปส่งเราถึงโรงแรมได้เลยโดยเพิ่มให้อีกหน่อย ฃื่อว่า “Free to go” อะไรทำนองนี้ แต่ผมถามพนักงานขายตั๋วด้วยภาษาอังกฤษ และพนักงานไม่เข้าใจ เปิดแผนที่โรงแรมให้ดูแล้วพนักงานบอกว่าไม่ไปๆ ไปส่งแค่ Taipei main station สรุปว่าไม่ได้ความ
สักพักมี 2 หนุ่มชาวไต้หวันมาซื้อตั๋วรถบัสยี่ห้อนี้เช่นกัน
ผม : “รถยี่ห้อนี้ ไปส่งถึงโรงแรมเลยไหมครับ”
สองหนุ่ม : ” !@#@!#!@# ” ไม่เข้าใจผม อืม…เลยถามใหม่ให้ดูน่าจะเข้าใจกันง่ายขึ้น
ผม : “มันแตกต่างกันยังไงทำไมรถบัสยี่ห้อนี้ถึงแพงกว่าอีกยี่ห้อหล่ะ” พร้อมชี้ราคาให้ดู
สองหนุ่ม : ” !@#@!#!@# ” อืม… ก็ยังไม่เข้าใจอีก แต่เค้าก็พยายามช่วยผมนะผมเอาแผนที่โรงแรมให้ดู เค้าบอกให้ขึ้นคันนี้แหละไป Taipei main เอ่อ…คุยกันไม่รู้เรื่อง ไปก็ได้วะ เราหอบหิ้วกระเป๋าขึ้นรถบัสกันเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองไทเปกัน …