. ในวันที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานอยากจะหาที่พักกายพักใจริมทะเลสงบๆสักที่ผมอยากจะขอแนะนำเกาะช้าง ที่มีความสงบเงียบกว่าภูเก็ตหรือกระบี่เยอะเลยครับ อาจจะไกลสักหน่อยแต่ผมคิดว่ามันคุ้มค่ากับการเดินทาง
. จากกรุงเทพผมใช้บริการรถตู้ของ Sea house tour วิ่งออกจากแถวสวนลุมประมาณ 8:30 จะมาถึงท่าเรืออ่าวธรรมชาติประมาณบ่ายสอง และข้ามเรือให้รถรีสอร์ทมารับจากที่พักจะห่างจากตรงจุดลงเรือประมาณ 15 กิโลเมตร และจะถึงที่พักประมาณบ่ายสาม ถึงเวลาเช็กอินพอดีครับ
การเดินทางมาเกาะช้าง
จากกรุงเทพถึงท่าเรือสามารถมาได้ 3 วิธีแล้วแต่ความสะดวกและเงินในกระเป๋าเลยครับ
- นั่งรถตู้ (มีหลายวิน)
- ขับรถมาเอง (สามารถเอารถขึ้นเรือข้ามไปขับบนเกาะช้างได้เลย)
- นั่งเครื่องบินมาลงสนามบินตราด ซึ่งมีเจ้าเดียวคือ Bangkok airways
เกาะช้างเที่ยวได้ทุกฤดู
เกาะช้างสามารถเที่ยวได้ทุกฤดูแม้กระทั่งในช่วงฤดูฝนก็สามารถเที่ยวได้เช่นกัน อย่างที่ผมไปฝนก็ไม่ตก ข้อดีมากๆของการเที่ยวช่วงนี้คือ ท้องฟ้าจะสีสวย นักท่องเที่ยวน้อย และ ราคาห้องพักที่ถูกลงมากๆถูกลงกว่า 40% เป็นโอกาสทองของนักท่องเที่ยวเลยหล่ะครับ
. พอมาถึงแล้วค่อนข้างว้าวเลยแหละ รีสอร์ทออกแบบในแนว Rustic Tropical เน้นปูนเปลือยขัดมัน คุมโทนเน้นขาว สีเทา สีดำ ให้ความรู้สึกเรียบหรู ผสมผสานกับวัสดุจากธรรมชาติ อาทิ หญ้าคา ไม้สนซีดาร์ เป็นต้น เพื่อให้ผู้เข้าพักรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด บรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ทค่อนข้างเงียบเหมาะกับการพักผ่อนมากจริงๆ
. พนักงานให้การต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมน้ำใบเตยหอมหวานช่วยทำให้สดชื่นจากการเดินทางมาเหนื่อยๆ
เช็กอินแล้วพนักงานพาไปส่งที่ห้องพัก ห้องพักโรงแรมนี้จะมีด้วยกัน 3 แบบ
- Deluxe – ห้องริมสระว่ายน้ำ
- Villa – ใกล้ทะเลกว่า
- Grand villa – เหมือน Villa แต่มีสองชั้น
. สำหรับทริปนี้เรานอนห้อง Villa กัน ทางเดินเข้าจะคล้ายกับเดินเข้าสู่สวนและบ้านแต่ละหลังจะออกแบบคล้ายๆกระท่อมทรงกล
. เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะพบกับทางแยกออกเป็นสองทางเลี้ยวซ้ายจะเป็นห้องพัก เลี้ยวขวาจะเป็นห้องน้ำเรามาดูส่วนของห้องพักกันก่อน ห้องพักมีขนาดกำลังพอดีสำหรับเข้าพักสองท่าน
. เตียงนอนขนาด King size พร้อมหมอน 4 ใบและหมอนข้างอันใหญ่วางอยู่บนเตียงพร้อมให้กับแขกเข้านอน ทางด้านซ้ายของเตียงจะมีโต๊ะทำงานขนาดย่อม มองไปสุดห้องจะเจอกับโซฟา บนโต๊ะจะมีผลไม้ complementary ต้อนรับแขกรออยู่ตรงนั้นสร้างความประทับใจได้ดี
. ติดกับโซฟาจะเป็น LCD TV ขนาดถ้าให้เดาก็น่าจะ 39 นิ้วด้านล่างสองฝั่ง ซ้ายเป็นตู้เย็นขนาดย่อม และ ด้านขวาเป็นพวกเครื่องแก้ว ชา กาแฟ หลากหลายอย่าง
. เมื่อเปิดหน้าต่างจะเจอกับ Garden view ให้ความรู้สึกเบาๆสบายๆ ด้านนอกระเบียงห้องมีเก้าอี้ให้นั่งเล่น 2 ตัว
ห้องน้ำ
มาดูต่อที่โซนห้องน้ำที่อลังการงานสร้างมากๆ ประกอบไปด้วย
- ห้องอาบน้ำฝักบัวแบบ Rain shower
- ห้องขับถ่าย
- อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
. อุปกรณ์อาบน้ำมีให้ครบครัน สบู่ ยาสระผม แปรงสีฟัน ไดร์เป่าผม ไม่ต้องขนอะไรมาใช้ของรีสอร์ทได้หมดเลย
. เอาหล่ะสำหรับห้องขอบรรยายเท่านี้ ผมจะพาไปดูตรงส่วนที่ผมคิดว่าเป็นไฮไลท์ของรีสอร์ทกันดีกว่า
สระว่ายน้ำ
. สระว่ายน้ำสีดำจะอยู่กลางรีสอร์ท เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่กระเบื้องจะสะท้อนแสงระยิบระยับเมื่อโดนแสงแดด ถ้าใครมาแบบครอบครัวก็ถือว่าเหมาะเช่นกันครับเพราะมีสระเด็กด้วยนะ หลานผมเล่นเพลินเลย
. และที่ผมรู้สึกแปลกใจกว่ารีสอร์ทอื่น เห็นจะเป็น The Pool Bar ที่อยู่ริมสระให้ความรู้สึก luxury มากๆ น้อยรีสอร์ทที่จะทำแบบนี้
ริมหาด
. จาก Villa เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงหาดแล้วครับ หาดที่รีสอร์ทตั้งอยู่คือ “หาดทรายขาว” โซนนี้จะเต็มไปด้วยที่นอนริมหาด กลางวันจะเห็นแขกต่างชาติมานอนอาบน้ำกันเพียบ ส่วนคนไทยกลางวันเงียบกริ้บ คนเอเชียกลัวแดด จะออกมาอีกทีก็ 5 โมงโน้นแหละครับ ฮ่าๆๆ
อาหารเช้า
. ส่วนของอาหารเช้านั้นถือว่าดีงาม ไลน์อาหารค่อนข้างหลากหลายครับ หลักๆจะเน้นไปที่ American breakfast พวกขนมปัง นม แต่ก็มีไลน์อาหารไทยด้วยเช่นกันครับ พวกข้าว และ ก๋วยเตี๋ยวก็มีให้บริการสำหรับคนที่ไม่ชอบขนมปัง
Recommend : ออมเล็ตชีสอร่อยมาก !!
Relaxing
. หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จสัก 10:00 ผมก็ใช้บริการสปาครับเป็นการนวด aroma 60 นาที ราคาปกติอยู่ 1,300 บาทครับแต่ช่วงที่ไปมีโปรโมชั่นลดเหลือ 779 บาท ในกรุงเทพร้านบ้านๆนวดน้ำมันก็ชม.ละ 600 แล้วสำหรับผมว่ามาที่นี้ ดีขนาดนี้ 779 ไม่แพงครับ นวดน้ำมันสบายตัวมากๆ
บุฟเฟ่ต์วันเสาร์สุดอร่อย!
. ทุกวันเสาร์จะมี Charcoal grill buffet ในราคา 749 ต่อคน ถือว่าฮิตมากๆควรจองก่อนล่วงหน้าเพราะเต็มไวมาก แขกข้างนอกก็สามารถมาทานได้เช่นกันนะครับ ส่วนของเนื้อจะประกอบไปด้วย Beef/Pork/Lamp เท่าที่ผมชิม 3 อย่างถือว่าโอเคครับ Pork ถือว่ามาตรฐาน / Beef เกรดธรรมดาครับสาวกคนรักเนื้ออย่าคาดหวังมากนัก(ตามราคา) ส่วน Lamp ถือว่าเกินความคาดหวังไม่มีกลิ่นคาวและนุ่มใช้ได้ครับ
. แต่ผมชอบมากๆคือ Seafood ครับ กุ้ง หมึก หอย สดมากกกกกกก เนื้อเด้งกรอบสุดๆ และที่อร่อยอีกอย่างคือผัดไทยครับ เส้นจันทร์ผัดไทยอร่อยมากกก ( ถ้าชอบเผ็ดต้องเติมพริกอีกหน่อยเค้าทำรสเผื่อชาวต่างชาติ )
สรุป
. สำหรับผมถือว่า The Dewa Koh Chang ทำได้ดีเกินราคาไปมาก บ้านผมทุกคนลงความเห็นว่าประทับใจมาก เอาเป็นว่า … ถ้าคุณกำลังมองหารีสอร์ทมานอนสบายๆเน้นบรรยากาศสงบๆในราคาเอื้อมถึง ที่นี่ให้คุณได้ครับ
พิเศษ !! ช่วงนี้มีโปรโมชั่นลดเกือบ 40% ถึงวันที่ 20 กรกฎาคมนี้
Deluxe คืนละ 2,800 บาท
Villa คืนละ 3,500 บาท
ราคาห้องพักต่อคืน :
High Season ( 1 พ.ย. – 31 มี.ค. ) | Low Season ( 1 เม.ย. – 31 ต.ค. ) | |
Deluxe | 5,450 | 4,250 |
Villa | 7,475 | 5,535 |
ถ้าสนใจ ก็ลองเข้าไปเช็คโปรโมชั่นที่เว็บไซต์: www.thedewakohchang.com และ www.facebook.com/thedewakohchang
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02 261 6263 ในเวลาทำการวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 9.00 – 18.00 น.
Instragram :@ChillJourneyTHติดตามการเดินทางของชิวตามไปที่ ::
Facebook Page : Chill Journey :: เที่ยวอย่างชิว
Youtube : ChillJourney
Blog แนะนำเคล็ดลับการจองที่พัก อ่านเถอะจะได้ไม่พลาดอีก!