มาแล้ว! รีวิวการไปล่าแสงที่ 𝙏𝙧𝙤𝙢𝙨𝙤
เมืองหลวงแห่งการล่าแสงเหนือของประเทศนอร์เวย์
.
หลังจากกลับมาได้ 2 อาทิตย์เปิดประเดิมด้วยรีวิวเมืองนี้ก่อนเลย
เป็นประสบการณ์ที่ลืมไม่ลง วิวว้าวตั้งแต่อยู่บนเครื่องบิน ใจเต้นรัวมาก!
เมื่อได้เห็นภูเขาหิมะอันยิ่งใหญ่ เมืองน่ารักเหมือนอยู่ในเทพนิยายสักเรื่อง
และที่พีกสุดคือได้เจอ “แสงเหนือ” แบบเต็มตา!
.
และจะบอกว่าที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองที่ “ล่าแสงเหนือ” ได้ง่ายที่สุด
เพราะตัวเมืองตั้งอยู่เหนือเส้น Arctic Circle เพียง 350 กม. เท่านั้นเอง
ใครที่มีความฝันอยากเห็นแสงเหนือ บอกเลยว่าพลาดที่นี่ไม่ได้แล้ว
ส่วนใครที่เคยไปล่าแล้วไม่เจอ ครั้งหน้าลองมาที่ Tromso ดูสิ!
.
และที่อยากแนะนำเลยคือเรื่องอินเทอร์เน็ตที่ชิวใช้อัปรูปลงแบบเรียลไทม์
ทริปนี้เราใช้ AIS SIM2Fly สัญญาณดีมากๆ นี่ใช้จริงรีวิวจริงแบบไม่อวย
ใช้เน็ตได้ 6GB 15 วัน แถมยังมีเน็ตในไทยให้ฟรี 500MB ด้วย
ขับรถไปไหนมาไหนเปิด google map ได้จะหาร้านอะไรก็คือลื่นมาก
คือ AIS Roaming ที่นอร์เวย์สัญญาณดีและครอบคลุมตลอดเส้นทางจริงๆ
.
และส่วนรายละเอียดเรื่องช่วงเวลาในการไปที่แนะนำ อยู่ในโพสต์แล้ว
เข้าไปดูบรรยากาศและความสวยงามของที่นี่ได้เลย
#SIM2Fly #AISSIM2Fly #ซิมโรมมิ่งที่สัญญาณดีที่สุด
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://m.ais.co.th/yGHmD12TE
===============================
01. การเดินทาง
> บินไปลงที่เมือง Tromso เลยครับ โดยของชิวบินไปลงที่เมือง Oslo ก่อน เราไปแวะเที่ยว Oslo 1 วันแล้วเช้าอีกวันก็ต่อเครื่องบินไปลงสนามบิน Tromsø Airport ( มีหลายสายการบิน แต่ส่วนมากจะบินช่วงเช้า )
> พอถึงสนามบินก็เช่ารถขับเที่ยวเอาครับ สะดวกสุด และในเรื่องค่าใช้จ่ายน่าจะดีสุดด้วย
> ในเมืองจอดรถไว้ที่โรงแรม เดินเที่ยวได้เลย เมืองเล็กๆ จุดสำคัญเดินหากินได้หมด
02. สัญญาณ อินเตอร์เน็ต
ทริปนี้เราใช้ AIS SIM2Fly สัญญาณดีมากๆ ขับรถไปไหนมาไหนเปิด google map ได้แบบไร้ความกังวลไปเลย นี่รีวิวจริงแบบไม่อวย คือ AIS Roaming ที่นอร์เวย์สัญญาณดีและครอบคลุมตลอดเส้นทางจริงๆ
ใช้เน็ตได้ 6GB 15 วัน แถมยังมีเน็ตในไทยให้ฟรี 500MB ด้วย นอกจากนอร์เวย์แล้วยังครอบคลุมกว่า 120 ประเทศทั่วโลก เห็นว่าล่าสุดกำลังจะเปิดบริการ 5G ในต่างประเทศด้วยนะ
และพิเศษสุดๆ สำหรับสายเดินทางแบบเราก็คือเขามี privilege ที่สามารถซื้อประกันเดินทางของ Thaivivat ได้ในราคาพิเศษ เริ่มต้นแค่ 90 บาทเอง ใครกำลังจะไปต่างประเทศแล้วกำลังคิดเรื่องอินเทอร์เน็ตอยู่ ชิวแนะนำเจ้านี่เลย
#SIM2Fly #AISSIM2Fly #ซิมโรมมิ่งที่สัญญาณดีที่สุด
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://m.ais.co.th/yGHmD12TE
03. ไปช่วงไหนดี?
> เป็นเมืองที่เที่ยวได้ทั้งปีเลย สรุปให้ฟังงี้ ถ้าอยากล่าแสงเหนือก็ต้องไปช่วงหน้าหนาว ตั้งแต่เดือน ตุลา-มีนา จะเป็นช่วงที่กลางคืนมืดนาน แต่ถ้าแนะนำสุดๆไม่หนาวไปไม่มืดนานไปก็ควรเป็นเดือน มีนาคม หรือ ตุลาคม ไปเลยครับ (สงกรานต์พอได้นะแต่โอกาสเห็นแสงเหนือน้อยลงหน่อย เพราะมืดแค่ 4-5 ชั่วโมง )
เริ่ม! โดยเราจะอยู่เที่ยวที่เมืองนี้ 2 วัน 1 คืนถ้วนครับ แต่ขอบอกว่าจัดเต็ม กลางวันยาวนาน 14-15 ชั่วโมง เที่ยวยาวไปแบบสุดคุ้ม โดยก่อนไปพวกเราก็แค่จัดแพลนหลวมๆสลับกันได้หมดเพราะใช้การขับรถเที่ยวอยู่แล้ว เพื่อนๆลองเอาไปปรับดูนะสรุปแผนออกมาได้ตามนี้
DAY 1 : Tromso Airport – ขับรถเล่นเที่ยวเกาะด้านบน – ตัวเมือง – แสงเหนือ
ระหว่างที่ผมกำลังงีบหลับไปในเครื่องบินไฟล์ทจาก Oslo > Tromso สายตาที่ยังสะลึมสะลือผมกก็มองออกไปที่หน้าต่าง โอ้โห นี่สินะสิ่งที่เรารอคอย ภาพภูเขาหิมะยิ่งใหญ่ทอดยาวไปในทะเล มันสวยซะจนทำให้ใจผมเต้นแรงแบบที่ไม่เคยได้สัมผัสมานาน 2 ปี ที่ไม่ได้เห็นวิวต่างประเทศที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้!
เอาล่ะพอถึงสนามบินเราก็เริ่มรับรถเช่า ตามที่ได้จองล่วงหน้ามา โดยแผนวันนี้คือขับรถเที่ยวแบบไร้แผนก่อนเลย อยากเจอหิมะเต็มแก่แล้วจ้า เปิด Google map จิ้มไปเกาะด้านบนเมือง Tromso พื้นที่ที่ก็ยังไม่รู้ว่ามีอะไร… อะขับไปก่อน บอกเลยว่าวิวปังมากปังตลอดทางงงง ปังตั้งแต่ขับออกจากสนามบินก็คือว้าวตลอด
อะเราให้ดูบรรยากาศสองข้างทาง และ ที่ไปขับรถเล่นกันมาด้านบน ขออภัยที่ไม่ได้จดพิกัดมานะครับ ขับไปทางเส้น 863 แล้วเข้าเส้น FV58 ต่อ พอดีดูในแผนที่แล้วน่าจะเจอทะเลสาบ เลยขับรถยาวกันไปจ้า ถนนแคบหน่อย จะมีจุดให้พอจอดถ่ายรูปได้บ้าง
ขับรถไปเรื่อยจริง… แต่วิวสวยไม่ไหววว
แฮ่!
ขับรถเที่ยวจนอิ่มแล้วก็ขับรถกลับไปเช็คอินที่โรงแรมกันครับ เราเลือกพักกันที่โรงแรมติดน้ำเลย ราคาสูงนิดหนึ่งแต่ก็สู้! เพราะวิวดีมากกกกกก บนดาดฟ้าจะมีอ่างจากุชชี่ outdoor แช่น้ำอุ่นชมวิวอ่าวสุดปัง ( แต่วันที่ไปปิดปรับปรุง น้ำตาไหลแป้ป .. ได้แค่ถ่ายรูป ) แต่วิวเค้าดีจริง แค่เดินออกมาหน้าโรงแรมก็ปังแล้ว
พอพักผ่อนแล้วเราก็เดินเที่ยวเมือง Tromso กันครับ นี่ออกเที่ยวกันตอนทุ่มหนึ่งละ ยังไม่มืดเลย เมืองมีความสลั่วๆหน่อย ฟีลล์ได้มากกก
โปรแกรมอันยาวนานของเรายังไม่จบบบบ เที่ยวมาทั้งวันแล้วยังไปต่อด้วยภารกิจ “ล่าแสงเหนือ” วันนี้โชคเป็นของเรา พยากรณ์บอกว่าคืนนี้มีแสงเหนือแรงถึง KP4 ( คะแนนเต็ม 9 ) ซึ่งบอกก่อนนะว่าปกติอะครับถ้า KP4 ของพื้นที่อื่นอาจจะไม่ได้มองเห็นแสงเหนือแรง แต่สำหรับที่เมือง Tromso ที่อยู่บนมากๆ (ใกล้ขั้วโลก) แค่ระดับ 2 ก็มองเห็นแล้ว ดังนั้น 4 ไม่ต้องพูดถึง! ระดับอลังการเลย ตอนสัก 4 ทุ่มเราก็ขับรถออกไปล่ากัน
โดยเราดูข้อมูล “เมฆ” ใน app ชื่อ windy ครับ บอกเราว่าตอน 5 ทุ่มตรงพิกัดที่ชื่อว่า “Aurora View Point” ฟ้าจะเคลียร์พอที่เราจะมีโอกาสเห็นแสงเหนือ ชิวให้พิกัดไปเลยนะ https://goo.gl/maps/ypkbc78mMKQgRxDt8 ตามนี้จ้า ( ขอบอกก่อนว่า การจะเห็นแสงเหนือ มันคล้ายการดูดาว/ทางช้างเผือก เลยครับ คือวันนั้นฟ้าต้องมืด/ต้องไม่มีเมฆเยอะ/แสงแรงพอ ) ถ้าครบทั้ง 3 องค์ประกอบ ก็จะได้ภาพแบบนี้!!
ลองนึกภาพความมหัศจรรย์ของแสงเหนือ มันคือการที่ฟ้ามืดอยู่ดีๆ ก็มีแสงสีค่อยๆวาดขึ้นมาเหมือนมีศิลปินเอาพู่กันมาระบายสีเลยครับ ถ้าโชคดีได้เจอแสงแรง KP4 ขึ้นไปก็จะเต้นระบำให้เราดู เต็มท้องฟ้า บอกเลยว่าตอนออกไปล่าหนาวมากกกกกกกกก แต่พอเราได้เห็นก็ลืมหนาวไปเลย มันดีมากกก
DAY 2 : เดินเที่ยวริมน้ำ – ขึ้นกระเช้า – Arctic Cathedral
เมื่อคืนจัดหนักกว่าจะได้นอนก็ตี 1 ตี 2 โน้นอะฮะ วันนี้เราตื่นกันสายๆหน่อย ออกมาเดินเที่ยวหน้าโรงแรม วันนี้ฟ้าเคลียร์ขึ้นสวยกว่าเดิมอีก สวยมากกกกก
นั่งชิลล์กินอาหารเช้ามองวิวกันไปยาวยาว เก็บกระเป๋าเตรียมโบกมือลา เมือง Tromso แต่ก่อนออกเมืองเราจะไปแวะขึ้นกระเช้าชมเมืองไฮไลต์ของเมืองนี้ก่อนครับ จิ้มไปเลยตามพิกัด
“Tromsø Cable Car” ขอบอกเลยว่าคุ้มมาก สวยมาก สวยแบบบ้าแล้ว บ้ามากกกกกกก สวยแบบอยากเก็บความสุขตอนนี้ใส่ขวดไว้เลย
วิวระหว่างกระเช้ากำลังพาเราสูงขึ้น สูงขึ้น วิวก็ว้าวขึ้นเรื่อยๆ นี่มันโลกมนุษย์จริงเหรอ
อย่าลืมแว่นกันแดดไปด้วยนะ ถึงแม้จะหนาว แต่แดดแรงมากกกกกก ยิ่งสะท้อนหิมะคือตาลืมแทบไม่ขึ้น!
ซูม ซูม มองย้อนกลับไปเมือง Tromso สวยมากกก
ฟินกันเต็มอิ่ม จากนั้นเราก็ลงมาแวะเที่ยวที่ Arctic Cathedral แล้วก็ได้เวลาโบกมือลา Tromso อย่างสมบูรณ์แบบ ต้องบอกเลยว่าเป็น 2 วัน 1 คืนที่เต็มอิ่ม อิ่มจนผมนึกในใจในระหว่างที่รถกำลังวิ่งออกจากเมืองว่า ” ดีใจจัง ภูมิใจตัวเองจัง ที่ได้มาเห็นสิ่งสวยงามแบบนี้ด้วยตาของตัวเอง ” 🙂
ชิว